วันนี้ภูมิบุญมีเรียนช่วงบ่ายแต่นัดกับพลอยและก้องไว้ว่าจะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดของคณะ จึงออกจากบ้านตอนเก้าโมงกว่าๆ เมื่อคืนหลังจากที่นอนร้องไห้อยู่นานฝนก็ตกลงมาเสียงของสายฝนที่กระทบหลังคา กล่อมให้ภูมิบุญหลับไปได้ ภูมิบุญเดินออกจากบ้านแวะร้านขายน้ำเต้าหู้ตั้งใจว่าจะซื้อไปฝากเพื่อนทั้งสอง ตอนภูมิบุญเดินออกจากบ้านโตโต้ตื่นมาสูบบุหรี่ที่ระเบียงมองเห็นหลังภูมิบุญไวๆเดินออกจากบ้าน เห็นแล้วก็รีบลงจากห้องขับรถตามออกมา ภูมิบุญถือน้ำเต้าหู้อยู่ในมือกำลังจะเปิดเป้เอาน้ำเต้าหู้ใส่ลงไป
"ฉ่า เฮ้ย"
น้ำในบ่อริมถนนที่ไม่เรียบสาดเข้าใส่เต็มตัวภูมิบุญ รถคันงามจอดอยู่ข้างหน้า ภูมิบุญยืนนิ่งกางแขนออกเพราะเสื้อผ้าเปียกน้ำดำๆ พอมองรถคันนั้นก็จำได้ว่าเป็นรถของใคร โตโต้ถอยรถกลับมา ภูมิบุญปาถุงน้ำเต้าหู้ใส่กระจกหลังรถอย่างแรง
"เฮ้ย ไอ้ภูมิมึงทำอะไรวะ"
คนขับเปิดประตูรถปรี่เข้าหาภูมิบุญ
"ผมตกใจครับ ไม่คิดว่าจะเป็นคุณโตโต้"
ภูมิบุญยกมุมปาก โตโต้เดินสำรวจความเสียหาย ไม่มีอะไรแตกร้าวมีแต่น้ำเต้าหู้ใส่เครื่องรวมทั้งเม็ดแมงลักกระจายอยู่เต็มหลังรถ
"มึงล้างให้กูเลย ไอ้ภูมิปามาได้ยังไง"
"แล้วคุณโตโต้ เอาเสื้อผ้าผมไปซักให้ด้วยสิ ผมจะล้างให้ คุณขับรถยังไงล่ะ นี่มันริมฟุตบาทนะ"
ภูมิบุญเถียงหน้าบึ้งตึงเพราะเขาต้องกลับเข้าไป เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ รวมทั้งอาบน้ำด้วย
"ปากดีนะมึง"
ทำท่าจะปรี่เข้ามาหา
"หรือจะให้ตำรวจมาเคลียร์"
ภูมิบุญหัวหมอใส่ ไม่ยอมถอยให้
"มึง"
ได้แต่กัดฟัน ภูมิบุญเดินกลับไปที่บ้านทันที
"ต๊าย ไปโดนอะไรมาค๊ะน้องภูมิ ตายแล้วเลอะเทอะไปหมดเลย"
อ้อยร้องเสียงหลงเมื่อเห็นภูมิบุญตัวเปียก มีแต่น้ำขี้โคลนเลอะเต็มตัว
"รถสาดใส่ครับพี่ ผมขอตัวอาบน้ำก่อนนะครับ"
"ตายจริง คนสมัยนี้ทำไมไม่มีน้ำใจกันแบบนี้นะ จะรีบไปไหนกัน สาธุขอให้มันโดนสาดคืนด้วยเถอะ"
"อะไรอ้อย แช่งใครแต่เช้าเชียว"
เสียงจันทร์ร้องออกมาจากในครัว
"ก็น้องภูมิน่ะสิคะพี่จันทร์ โดนรถสาดขี้โคลนใส่ตัวเปียกเลอะเทอะไปหมด"
"หา ทำไมขับรถขับเรือไม่ระวังกันเลย เป็นอะไรไหมลูก"
จันทร์ปรี่ออกมาจากครัว จับแขนลูกชาย ภูมิบุญไม่อยากเล่าซ้ำส่ายหน้า แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปพออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ต้องตกใจเพราะคุณอภิสราเรียกให้เข้าไปหาที่ตึกใหญ่
"ตายจริง ทำไมคนสมัยนี้มันแล้งน้ำใจขนาดนี้กันนะ จำรถได้ไหมภูมิว่าเป็นของบ้านไหน ป้าจะไปเอาเรื่องมัน"
เรื่องถึงหูนายใหญ่ของบ้าน ที่นั่งหน้าบึ้งอยู่กลางห้องโถง
"อย่าเลยค่ะคุณท่านอย่าไปถือสาหาความกันเลย ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ"
จันทร์พูดขึ้น แล้วมองหน้าภูมิบุญลูบหน้าลูบตาลูกชาย
"ต๊าย ไม่ได้นะจันทร์ นี่ตาภูมิเลยไปเรียนสาย เขารีบเราก็รีบ ไม่ได้ฉันยอมไม่ได้ อ้อยไปตามตาโต้มาให้ชั้นที"
คุณอภิสราบอกอ้อยที่เป็นคนรายงานเรื่องให้ทราบ
"นี่รถตาโต้ก็โดนใครไม่รู้สาดน้ำเต้าหู้ใส่ เลอะเทอะไปหมด คนเราสมัยนี้มันแย่เสียจริง"
ภูมิบุญก้มหน้านิ่งรู้สึกเหมือนกำลังโดนตำหนิอยู่ นี่ถ้าโตโต้บอกว่าคนที่ปาน้ำเต้าหู้ใส่รถเขาคือภูมิบุญเองคุณอภิสราคงโกรธมาก แต่ภูมิบุญก็ตั้งใจว่าจะบอกคุณอภิสราว่าคนที่ขับรถสาดน้ำครำใส่เขาคือโตโต้ เหมือนกัน
"ครับแม่"
โตโต้เดินลงมาจากบ้าน พอเห็นภูมิบุญก็หน้าเสียเพราะกลัวว่าฝ่ายนี้จะมาฟ้อง
"ตาโต้ วันนี้ไม่ได้ไปไหนใช่ไหมลุก ไปส่งน้องที่มหาฯลัยหน่อย"
"อ้าว ทำไมล่ะครับแม่"
"ก็คนบ้าที่ไหนไม่รู้ขับรถสาดน้ำครำใส่น้องจนตัวเลอะเทอะ ไปหมด นิสัยแย่เสียจริงคนสมัยนี้ เออ เอารถคันของแม่ออกนะ คันนั้นเดี๋ยวให้ลุงหมายล้างไว้"
คุณอภิสราสั่งเด็ดขาด
"ผม เพิ่งตื่นนะแม่ ผมจะออกไปหาแวนด้วย"
"ไปส่งน้องก่อนสิ ค่อยไปหา อะไรกันแม่ใช้แค่นี้ไม่ได้เหรอตาโต้"
คุณอภิสราขึ้นเสียงจ้องหน้าลุก ชายทันที บรรยากาศเริ่มมีหมอกควันของความอึดอัดเข้าปกคลุม
"เอ่อ คุณท่านครับเดี๋ยวภูมิไปเองก็ได้ครับ พอดีนัดเพื่อนไว้ตอนเช้าไม่มีเรียน ไม่เป็นไรหรอกครับ"
ภูมิบุญรีบขัดเพราะไม่อยากไปกับโตโต้ เขารู้ชะตากรรมดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
"ไม่ได้ละลูก ไปเองไม่ได้ ป้าไม่ไว้ใจแล้ว ไปๆ ตาโต้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า"
"ครับๆ เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนเสื้อก่อน"
โตโต้ลงส้นเท้าขึ้นห้องไปอย่างเสียอารมณ์
"อย่าให้แม่ต้องไปตามอีกรอบนะตาโต้"
เสียงขู่ไล่หลังมา คุณอภิสราเรียกภูมิเข้าไปปลอบขวัญลูบหน้าลูบหลังอยู่ พอโตโต้เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็หน้ามุ่ยเดินลงจากบ้าน ภูมิบุญเองก็ต้องจำใจไปกับโตโต้ พอขับรถออกพ้นประตุบ้าน
"หึหึ มึงแน่มากไอ้ภูมิ"
"คุณโตโต้จอดข้างหน้าก็ได้ครับ ผมไปเอง"
"แล้ว มึงก็จะมาฟ้องแม่กูน่ะเหรอว่ากูแกล้งมึงไม่ส่งให้ถึงที่"
"ผมไม่ใช่คนแบบนั้น คุณจอดเถอะครับ อย่าฝืนใจเลย"
"อย่าริมาสั่งกู ทำไม นั่งรถกับกูมันจะตายเหรอ"
โตโต้จ้องหน้าภูมิบุญเขม็งทั้งที่มือจับพวงมาลัยอยู่
"งั้น จอดตรงไหนก็ได้ครับ ผมไม่อยากรบกวน"
"ปาก ดีนะมึง เดี๋ยวเถอะ มึงจะได้รู้"
โตโต้ขู่ขับรถออกถนนใหญ่ไป เขาเลี้ยวรถออกไปถนนวงแหวน ซึ่งภูมิบุญไม่คุ้นทาง ในใจเริ่มสั่นไหวเพราะไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรที่รุนแรงหรือไม่
"ตื๊ดๆๆ "
เสียงโทรศัพท์ของภูมิบุญสั่น ภูมิบุญสะดุ้งเพราะมัวใจลอยอยู่ หยิบขึ้นมาดูแล้วกดรับ
"ภูมิ ภูมิถึงไหนแล้วจ๊ะ"
พลอยนั่นเอง โทรมาตามเพราะเลยเวลานัดมามากแล้ว
"อ้อ เราอยู่บนรถ พลอยไม่ต้องรอนะ เราขอโทษด้วย เดี๋ยวเรารีบไป"
เวลาภูมิบุญพูดกับเพื่อน เวลาที่เขาไม่เกรี้ยวกราดน้ำเสียงก็นุ่มน่าฟัง
"ได้ๆ ภูมิ ถ้ามาถึงโทรมาหาเรานะ เนี่ยก้องรอกินน้ำเต้าหู้อยู่"
"ได้พลอย พลอยกับก้องเข้าไปในห้องสมุดก่อนเลยนะ"
พอวางสายจากพลอย โตโต้ก็มาฉวยโทรศัพท์จากมือภูมิบุญไป
"โห หน้าอย่างมึงใช้โทรศัพท์แพงๆอย่างนี้ด้วยเหรอวะ"
"ขอคืนด้วยครับ คุณโตโต้"
ภูมิบุญหันไปมองหน้าคนที่ถือพวงมาลัยและถือโทรศัพท์ของเขาอยู่อย่างวิสาสะ
"ทำไม มึงกลัวกูขโมยเหรอ"
"ขอคืนครับ"
ภูมิบุญพูดเสียงนิ่ง โตโต้ไม่สนใจกดปุ่มปิดเครื่องทันที
"เอ๊ะ คุณโตโต้ทำอะไรน่ะ"
"หึหึ มึงเจอดีแน่ไอ้ภูมิ"
โตโต้หัวเราะ อยู่ในคอแล้วเอาโทรศัพท์ของภูมิบุญหย่อนลงไปข้างเบาะนั่งฝั่งของตน
"คุณ โตโต้จะพาผมไปไหน"
ภูมิบุญเริ่มเสียงสั่น มองหน้าโตโต้อย่างหวาดกลัว ที่ผ่านมาต่อสู้กันก็อยู่ในบ้าน ในที่โล่งที่สามารถวิ่งหรือก้าวเดินได้อย่างอิสระ แต่ตอนนี้อยู่ในรถที่ขับเคลื่อนไปด้วยความเร็วสูง
"กลัวเป็นด้วยเหรอ มึง ห๊า"
เขาตวาดเสียงดังใส่หน้าภูมิบุญ
"ผมจะลง ให้ผมลง"
ภูมิบุญร้องขอ แต่โตโต้กลับเพิ่มความเร็ว
"ผมจะลง จอด"
ภูมิบุญร้อเสียงหลง หน้าตาซีดบ่งบอกถึงความกลัว
"หึหึ มึงอย่าได้ฝันไอ้ภูมิ กูจะพามึงไปชำระแค้น"
น้ำตาซึมออกมาเพราะความกลัว ภูมิบุญหลับตาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
"หึหึ มึงจะทำอะไร ไอ้โง่ มึงคิดว่าจะเปิดออกก็ออกได้เหรอ กูล็อคไว้แล้ว"
ภูมิบุญ ตั้งใจจะเปิดประตูรถออกกระโดดลงจากรถ เป็นตายไม่สนใจแล้ว เขาเขย่าประตูอยู่ร้องเหมือนคนขอชีวิตจากเงื้อมมือมัจจุราช
"กลัว เหรอ ห๊า ทีอย่างนี้มึงกลัว ทีปากดีทำไมมึงไม่กลัว"
โตโต้ยังตวาด เสียงดังลั่น
"ให้ผมลง ผมขอร้อง จอด"
ภูมิบุญร้องออกมาสุดเสียง พลันสายตาก็มองไปเห็นกระจกมองหลังภูมิบุญเอื้อมมือไปหมายจะหักกระจกนั้นด้วยมือ โตโต้ชะลอความเร็วจอดข้างทางทันที
"ปึ๊ก ไอ้ภูมิ มึงจะทำอะไร ห๊า"
เขาต่อยเข้าที่อกของภูมิบุญ คราวนี้พอรถจอดภูมิบุญก็ดิ้นใหญ่พยายามจะหักกระจกมองหลังให้ได้แม้ตัวจะเซไป ชนประตูรถแล้วก็ตาม
"มึงจะทำอะไรไอ้หน้าโง่ อยากลงไปนักใช่ไหม ลงไป๊"
โตโต้ปลดล็อคประตุแล้วกดสายเข็มขัดนิรภัยออก ภูมิบุญเปิดประตูรถออก ทันทีที่ประตูเปิดออกโตโต้ก็ถีบเข้าที่ก้นของภูมิบุญ ล้มกลิ้งไปบนถนนวงแหวนศรีนครินทร์ ตรงที่ไม่มีรถโดยสารประจำทางผ่าน ตรงที่ไม่มีแม้รถแท็กซี่ว่างๆสักคันผ่านมา พอล้มลงไปกับพื้นภูมิบุญก้มหน้าลงกับพื้นถนนน้ำตาไหลรินออกมา โตโต้ขับรถไปแล้ว เสียงสะอื้นดังอยู่ในคอเพราะเจ้าตัวพยายามเม้มปากเอาไว้สะอื้นจนตัวโยน พอได้สติก็ลากตัวเองออกไปให้พ้นทางเพราะรถที่มาด้วยความเร็วสูงคงยากที่จะจอดหลบเขา ภูมิบุญเดินเช็ดน้ำตาไปตามทางพยายามมองหารถแท็กซี่ที่อาจจะผ่านมาบ้าง
ฝ่ายโตโต้พอหายโกรธก็รู้สึกว่าตัวเองได้ทำเกินกว่าเหตุเพราะมองกระจกหลังเห็นคนที่สวมชุดนักศึกษาที่มอมแมมเดินปาดน้ำตาอยู่ แต่จะถอยกลับไปก็ออกมาไกลเกินกว่าจะถอยแล้ว ทางวนเลี้ยวกลับก็อีกหลายกิโล โตโต้ถอนหายใจแล้วขับรถต่อไป มองเป้ที่ยังเหลืออยู่บนเบาะคนนั่ง โทรศัพท์ที่เขายึดมาอยู่ข้างๆตัว ใจเริ่มสั่นถ้าแม่รู้ตายแน่ๆ ภูมิบุญคงฟ้องแน่ๆ โตโต้รีบบึ่งรถไปหาที่เลี้ยวกลับมา
ภูมิบุญเดินไป เรื่อยๆด้วยร่างกายที่เริ่มแสดงอาการระบมเพราะตกจากรถค่อนข้างแรง ลากตัวเองฝ่าแดดร้อนเปรี๊ยงไป เหงื่อกาฬเริ่มทะลักออกมา
"ไปไหนหนู ทำไมมาเดินอยู่บนถนนแบบนี้"
ชายวัยกลางคนจอดรถถาม เขาเปิดกระจกรถลง
"ไป มหาฯลัยครับ"
"อ้าวเหรอ แล้วทำไมมาเดินล่ะหนู"
"พี่ครับ ผมขอติดรถไปลงถนนใหญ่ได้ไหมครับ"
ภูมิบุญยกมือไหว้ ชายคนนั้น
"เรา เรียนที่ไหนล่ะเดี๋ยวพี่ไปส่งให้"
พอบอกชื่อมหาฯลัยไปเขาก็ทำหน้า ครุ่นคิดอยู่
"มันคนละทางนะหนูนี่มันจะออกรังสิตอยู่แล้วนะ ทำไมมาเดินอยู่แบบนี้ ไปลงรังสิตไหม"
ภูมิบุญหน้าซีดเพราะอะไรคือรังสิต ที่ไหนคือแถวนี้ เขากำลังยืนอยู่ที่ไหนของเมืองกรุงแห่งนี้ ภูมิบุญเม้มปากแน่น
"อ้อ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากครับพี่ เดี๋ยวผมโทรบอกเพื่อนให้มารับก็ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับพี่"
ภูมิบุญกลั้นใจพูดออกไปทั้งที่มันเป็นโอกาสที่เขาจะออกไปจากถนนเส้นนี้ แต่คิดไปเบื้องหน้ากระเป๋าสะตางค์ก็อยู่ในเป้ ในตัวไม่มีเงินสักบาท เบอร์โทรศัพท์พลอยหรือแม่ ของใครๆก็จำไม่ได้ ยิ่งคิดยิ่งเม้มปากแน่น ชายคนนั้นขับรถออกไปแล้ว
"ขึ้นมา"
เสียงห้วนดุลอดออกมาจากรถคันเดิม ภูมิบุญหันไปมองแล้วรีบหันกลับทันที
"กูบอกให้ขึ้นมา"
ภูมิบุญเดินต่อไม่สนใจเสียงตวาดเลยแม้แต่น้อย โตโต้จอดรถแล้วเปิดประตูออกมา
"มึงจะไปไหน กูบอกให้ขึ้นรถ"
"ปล่อย เราไม่เคยรู้จักกัน"
ภูมิบุญหันมาจ้องตาโตโต้ น้ำตาที่เคลือบตาอยู่มันฉายแววเกลียดชังอย่างไม่เคยที่จะมองใครมาก่อน
"อ่ะ กูบอกให้ขึ้นรถ"
เสียงของโตโต้กระตุกไป ก่อนจะลดเสียงลงพูดต่อภูมิบุญพยายามสะบัดมือออก
"มึงอยากจะโดนรถชนตายเหรอ ห๊าไอ้ภูมิ"
โตโต้ตวาดเพราะภูมิบุญเริ่มต่อยตีเข้าที่ตัวเขา
"ปล่อย ผมบอกให้ปล่อย"
เสียงแข็งเหมือนกัน สายตาที่กร้าวแข็งขึ้นมองโตโต้ไม่วางตา
"ปึ๊ก บอกให้ขึ้นดีๆไม่ชอบใช่ไหม"
โตโต้อาศัยร่างกายที่สูงใหญ่หนากว่าต่อยเข้าทีท้องของภูมิบุญ เขาตัวงอลงทันที โตโต้ลากภูมิบุญขึ้นรถไปอย่างทุลักทุเล พอยัดตัวภูมิบุญใส่รถได้แล้วก็คลานเข้ประตูเดียวกันเพราะกลัวว่าภูมิบุญจะ วิ่งหนีไปอีก ภูมิบุญมองออกนอกกระจกกัดฟันเม้มปากอยู่ ไม่พูดสักคำแม้แต่เสียงหายใจก็แผ่วเบา โตโต้รู้สึกผิด อึดอัดในใจ นี่เขาทำรุนแรงไปหรือเปล่า แต่มันก็สมควรได้รับการตอบแทนแบบนี้ เขาคิดแย้งกันในใจ
พอขับรถมาถึงใจกลางเมืองภูมิบุญจำได้ว่าใกล้กลับ มหาวิทยาลัยของตัวเองจึงรีบดึงเป้มากอดกระชับไว้ในอก
"ลงตรงนี้ล่ะ"
โตโต้ลดเสียงลง ภูมิบุญรีบเปิดประตูรถลงไปทันทีไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกจากปาก ศูนย์การค้าตรงข้ามวัดหัวลำโพงที่โตโต้แวะส่งภูมิบุญไม่ได้เล็ดลอดสายตาของใครคนหนึ่งไปเลย ภูมิบุญรีบเดินอ้อมศูนย์การค้าไป
"ต๊าย ร้ายนะยะ มีรถเบนซ์มาส่งถึงที่ เสี่ยคนไหนล่ะอีภูมิ"
เสียงของนิตาดังกัดแทะมาแต่ไกล ภูมิบุญเม้มปาก สุดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วก้าวต่อ
"อายเหรอ ที่เสี่ยมาส่งน่ะ ขายตัวก็แบบนี้ล่ะนะ คงจนไม่มีปัญญาหาเงินเรียนเองต้องพึ่งเสี่ย ขายตัวขายตูด"
เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้น นิตากับเพื่อนสาวคนเดิม
"ว้าย อีภูมิ"
ภูมิบุญเดินกลับไปหาแล้วปรี่ไปแย่งแก้วน้ำของเพื่อนสาวของนิตาสาดใส่ทั้งสองทั้ง น้ำหวานทั้งน้ำแข็ง
"กรี๊ดด ต่ำทราม"
"หุบปากเถอะ จะอะไรกันนักหนา มาคอยขอส่วนบุญอะไรแถวนี้ ทำไมคิดว่าคนอื่นต้องเหมือนตัวเอง คนที่ขายตัวน่ะไม่ใช่ผม คุณนั่นล่ะ"
ภมิบุญเดินหันหลังกลับแล้วรีบเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัย ปล่อยให้สองสาวกรี๊ดลั่นเป็นเป้าสายตาของคนที่เดินผ่านไปมา พอเข้าในมหาวิทยาลัยก็วิ่งเข้าห้องน้ำกุมหน้าร้องไห้ ทำไม ทำไม เขาถามตัวเอง นี่มันอะไรกัน คนพวกนี้เสียสติไปแล้วหรือทำไมตามราวีเขาไม่เลิกรา
"ฉ่า เฮ้ย"
น้ำในบ่อริมถนนที่ไม่เรียบสาดเข้าใส่เต็มตัวภูมิบุญ รถคันงามจอดอยู่ข้างหน้า ภูมิบุญยืนนิ่งกางแขนออกเพราะเสื้อผ้าเปียกน้ำดำๆ พอมองรถคันนั้นก็จำได้ว่าเป็นรถของใคร โตโต้ถอยรถกลับมา ภูมิบุญปาถุงน้ำเต้าหู้ใส่กระจกหลังรถอย่างแรง
"เฮ้ย ไอ้ภูมิมึงทำอะไรวะ"
คนขับเปิดประตูรถปรี่เข้าหาภูมิบุญ
"ผมตกใจครับ ไม่คิดว่าจะเป็นคุณโตโต้"
ภูมิบุญยกมุมปาก โตโต้เดินสำรวจความเสียหาย ไม่มีอะไรแตกร้าวมีแต่น้ำเต้าหู้ใส่เครื่องรวมทั้งเม็ดแมงลักกระจายอยู่เต็มหลังรถ
"มึงล้างให้กูเลย ไอ้ภูมิปามาได้ยังไง"
"แล้วคุณโตโต้ เอาเสื้อผ้าผมไปซักให้ด้วยสิ ผมจะล้างให้ คุณขับรถยังไงล่ะ นี่มันริมฟุตบาทนะ"
ภูมิบุญเถียงหน้าบึ้งตึงเพราะเขาต้องกลับเข้าไป เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ รวมทั้งอาบน้ำด้วย
"ปากดีนะมึง"
ทำท่าจะปรี่เข้ามาหา
"หรือจะให้ตำรวจมาเคลียร์"
ภูมิบุญหัวหมอใส่ ไม่ยอมถอยให้
"มึง"
ได้แต่กัดฟัน ภูมิบุญเดินกลับไปที่บ้านทันที
"ต๊าย ไปโดนอะไรมาค๊ะน้องภูมิ ตายแล้วเลอะเทอะไปหมดเลย"
อ้อยร้องเสียงหลงเมื่อเห็นภูมิบุญตัวเปียก มีแต่น้ำขี้โคลนเลอะเต็มตัว
"รถสาดใส่ครับพี่ ผมขอตัวอาบน้ำก่อนนะครับ"
"ตายจริง คนสมัยนี้ทำไมไม่มีน้ำใจกันแบบนี้นะ จะรีบไปไหนกัน สาธุขอให้มันโดนสาดคืนด้วยเถอะ"
"อะไรอ้อย แช่งใครแต่เช้าเชียว"
เสียงจันทร์ร้องออกมาจากในครัว
"ก็น้องภูมิน่ะสิคะพี่จันทร์ โดนรถสาดขี้โคลนใส่ตัวเปียกเลอะเทอะไปหมด"
"หา ทำไมขับรถขับเรือไม่ระวังกันเลย เป็นอะไรไหมลูก"
จันทร์ปรี่ออกมาจากครัว จับแขนลูกชาย ภูมิบุญไม่อยากเล่าซ้ำส่ายหน้า แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปพออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ต้องตกใจเพราะคุณอภิสราเรียกให้เข้าไปหาที่ตึกใหญ่
"ตายจริง ทำไมคนสมัยนี้มันแล้งน้ำใจขนาดนี้กันนะ จำรถได้ไหมภูมิว่าเป็นของบ้านไหน ป้าจะไปเอาเรื่องมัน"
เรื่องถึงหูนายใหญ่ของบ้าน ที่นั่งหน้าบึ้งอยู่กลางห้องโถง
"อย่าเลยค่ะคุณท่านอย่าไปถือสาหาความกันเลย ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ"
จันทร์พูดขึ้น แล้วมองหน้าภูมิบุญลูบหน้าลูบตาลูกชาย
"ต๊าย ไม่ได้นะจันทร์ นี่ตาภูมิเลยไปเรียนสาย เขารีบเราก็รีบ ไม่ได้ฉันยอมไม่ได้ อ้อยไปตามตาโต้มาให้ชั้นที"
คุณอภิสราบอกอ้อยที่เป็นคนรายงานเรื่องให้ทราบ
"นี่รถตาโต้ก็โดนใครไม่รู้สาดน้ำเต้าหู้ใส่ เลอะเทอะไปหมด คนเราสมัยนี้มันแย่เสียจริง"
ภูมิบุญก้มหน้านิ่งรู้สึกเหมือนกำลังโดนตำหนิอยู่ นี่ถ้าโตโต้บอกว่าคนที่ปาน้ำเต้าหู้ใส่รถเขาคือภูมิบุญเองคุณอภิสราคงโกรธมาก แต่ภูมิบุญก็ตั้งใจว่าจะบอกคุณอภิสราว่าคนที่ขับรถสาดน้ำครำใส่เขาคือโตโต้ เหมือนกัน
"ครับแม่"
โตโต้เดินลงมาจากบ้าน พอเห็นภูมิบุญก็หน้าเสียเพราะกลัวว่าฝ่ายนี้จะมาฟ้อง
"ตาโต้ วันนี้ไม่ได้ไปไหนใช่ไหมลุก ไปส่งน้องที่มหาฯลัยหน่อย"
"อ้าว ทำไมล่ะครับแม่"
"ก็คนบ้าที่ไหนไม่รู้ขับรถสาดน้ำครำใส่น้องจนตัวเลอะเทอะ ไปหมด นิสัยแย่เสียจริงคนสมัยนี้ เออ เอารถคันของแม่ออกนะ คันนั้นเดี๋ยวให้ลุงหมายล้างไว้"
คุณอภิสราสั่งเด็ดขาด
"ผม เพิ่งตื่นนะแม่ ผมจะออกไปหาแวนด้วย"
"ไปส่งน้องก่อนสิ ค่อยไปหา อะไรกันแม่ใช้แค่นี้ไม่ได้เหรอตาโต้"
คุณอภิสราขึ้นเสียงจ้องหน้าลุก ชายทันที บรรยากาศเริ่มมีหมอกควันของความอึดอัดเข้าปกคลุม
"เอ่อ คุณท่านครับเดี๋ยวภูมิไปเองก็ได้ครับ พอดีนัดเพื่อนไว้ตอนเช้าไม่มีเรียน ไม่เป็นไรหรอกครับ"
ภูมิบุญรีบขัดเพราะไม่อยากไปกับโตโต้ เขารู้ชะตากรรมดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
"ไม่ได้ละลูก ไปเองไม่ได้ ป้าไม่ไว้ใจแล้ว ไปๆ ตาโต้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า"
"ครับๆ เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนเสื้อก่อน"
โตโต้ลงส้นเท้าขึ้นห้องไปอย่างเสียอารมณ์
"อย่าให้แม่ต้องไปตามอีกรอบนะตาโต้"
เสียงขู่ไล่หลังมา คุณอภิสราเรียกภูมิเข้าไปปลอบขวัญลูบหน้าลูบหลังอยู่ พอโตโต้เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็หน้ามุ่ยเดินลงจากบ้าน ภูมิบุญเองก็ต้องจำใจไปกับโตโต้ พอขับรถออกพ้นประตุบ้าน
"หึหึ มึงแน่มากไอ้ภูมิ"
"คุณโตโต้จอดข้างหน้าก็ได้ครับ ผมไปเอง"
"แล้ว มึงก็จะมาฟ้องแม่กูน่ะเหรอว่ากูแกล้งมึงไม่ส่งให้ถึงที่"
"ผมไม่ใช่คนแบบนั้น คุณจอดเถอะครับ อย่าฝืนใจเลย"
"อย่าริมาสั่งกู ทำไม นั่งรถกับกูมันจะตายเหรอ"
โตโต้จ้องหน้าภูมิบุญเขม็งทั้งที่มือจับพวงมาลัยอยู่
"งั้น จอดตรงไหนก็ได้ครับ ผมไม่อยากรบกวน"
"ปาก ดีนะมึง เดี๋ยวเถอะ มึงจะได้รู้"
โตโต้ขู่ขับรถออกถนนใหญ่ไป เขาเลี้ยวรถออกไปถนนวงแหวน ซึ่งภูมิบุญไม่คุ้นทาง ในใจเริ่มสั่นไหวเพราะไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรที่รุนแรงหรือไม่
"ตื๊ดๆๆ "
เสียงโทรศัพท์ของภูมิบุญสั่น ภูมิบุญสะดุ้งเพราะมัวใจลอยอยู่ หยิบขึ้นมาดูแล้วกดรับ
"ภูมิ ภูมิถึงไหนแล้วจ๊ะ"
พลอยนั่นเอง โทรมาตามเพราะเลยเวลานัดมามากแล้ว
"อ้อ เราอยู่บนรถ พลอยไม่ต้องรอนะ เราขอโทษด้วย เดี๋ยวเรารีบไป"
เวลาภูมิบุญพูดกับเพื่อน เวลาที่เขาไม่เกรี้ยวกราดน้ำเสียงก็นุ่มน่าฟัง
"ได้ๆ ภูมิ ถ้ามาถึงโทรมาหาเรานะ เนี่ยก้องรอกินน้ำเต้าหู้อยู่"
"ได้พลอย พลอยกับก้องเข้าไปในห้องสมุดก่อนเลยนะ"
พอวางสายจากพลอย โตโต้ก็มาฉวยโทรศัพท์จากมือภูมิบุญไป
"โห หน้าอย่างมึงใช้โทรศัพท์แพงๆอย่างนี้ด้วยเหรอวะ"
"ขอคืนด้วยครับ คุณโตโต้"
ภูมิบุญหันไปมองหน้าคนที่ถือพวงมาลัยและถือโทรศัพท์ของเขาอยู่อย่างวิสาสะ
"ทำไม มึงกลัวกูขโมยเหรอ"
"ขอคืนครับ"
ภูมิบุญพูดเสียงนิ่ง โตโต้ไม่สนใจกดปุ่มปิดเครื่องทันที
"เอ๊ะ คุณโตโต้ทำอะไรน่ะ"
"หึหึ มึงเจอดีแน่ไอ้ภูมิ"
โตโต้หัวเราะ อยู่ในคอแล้วเอาโทรศัพท์ของภูมิบุญหย่อนลงไปข้างเบาะนั่งฝั่งของตน
"คุณ โตโต้จะพาผมไปไหน"
ภูมิบุญเริ่มเสียงสั่น มองหน้าโตโต้อย่างหวาดกลัว ที่ผ่านมาต่อสู้กันก็อยู่ในบ้าน ในที่โล่งที่สามารถวิ่งหรือก้าวเดินได้อย่างอิสระ แต่ตอนนี้อยู่ในรถที่ขับเคลื่อนไปด้วยความเร็วสูง
"กลัวเป็นด้วยเหรอ มึง ห๊า"
เขาตวาดเสียงดังใส่หน้าภูมิบุญ
"ผมจะลง ให้ผมลง"
ภูมิบุญร้องขอ แต่โตโต้กลับเพิ่มความเร็ว
"ผมจะลง จอด"
ภูมิบุญร้อเสียงหลง หน้าตาซีดบ่งบอกถึงความกลัว
"หึหึ มึงอย่าได้ฝันไอ้ภูมิ กูจะพามึงไปชำระแค้น"
น้ำตาซึมออกมาเพราะความกลัว ภูมิบุญหลับตาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
"หึหึ มึงจะทำอะไร ไอ้โง่ มึงคิดว่าจะเปิดออกก็ออกได้เหรอ กูล็อคไว้แล้ว"
ภูมิบุญ ตั้งใจจะเปิดประตูรถออกกระโดดลงจากรถ เป็นตายไม่สนใจแล้ว เขาเขย่าประตูอยู่ร้องเหมือนคนขอชีวิตจากเงื้อมมือมัจจุราช
"กลัว เหรอ ห๊า ทีอย่างนี้มึงกลัว ทีปากดีทำไมมึงไม่กลัว"
โตโต้ยังตวาด เสียงดังลั่น
"ให้ผมลง ผมขอร้อง จอด"
ภูมิบุญร้องออกมาสุดเสียง พลันสายตาก็มองไปเห็นกระจกมองหลังภูมิบุญเอื้อมมือไปหมายจะหักกระจกนั้นด้วยมือ โตโต้ชะลอความเร็วจอดข้างทางทันที
"ปึ๊ก ไอ้ภูมิ มึงจะทำอะไร ห๊า"
เขาต่อยเข้าที่อกของภูมิบุญ คราวนี้พอรถจอดภูมิบุญก็ดิ้นใหญ่พยายามจะหักกระจกมองหลังให้ได้แม้ตัวจะเซไป ชนประตูรถแล้วก็ตาม
"มึงจะทำอะไรไอ้หน้าโง่ อยากลงไปนักใช่ไหม ลงไป๊"
โตโต้ปลดล็อคประตุแล้วกดสายเข็มขัดนิรภัยออก ภูมิบุญเปิดประตูรถออก ทันทีที่ประตูเปิดออกโตโต้ก็ถีบเข้าที่ก้นของภูมิบุญ ล้มกลิ้งไปบนถนนวงแหวนศรีนครินทร์ ตรงที่ไม่มีรถโดยสารประจำทางผ่าน ตรงที่ไม่มีแม้รถแท็กซี่ว่างๆสักคันผ่านมา พอล้มลงไปกับพื้นภูมิบุญก้มหน้าลงกับพื้นถนนน้ำตาไหลรินออกมา โตโต้ขับรถไปแล้ว เสียงสะอื้นดังอยู่ในคอเพราะเจ้าตัวพยายามเม้มปากเอาไว้สะอื้นจนตัวโยน พอได้สติก็ลากตัวเองออกไปให้พ้นทางเพราะรถที่มาด้วยความเร็วสูงคงยากที่จะจอดหลบเขา ภูมิบุญเดินเช็ดน้ำตาไปตามทางพยายามมองหารถแท็กซี่ที่อาจจะผ่านมาบ้าง
ฝ่ายโตโต้พอหายโกรธก็รู้สึกว่าตัวเองได้ทำเกินกว่าเหตุเพราะมองกระจกหลังเห็นคนที่สวมชุดนักศึกษาที่มอมแมมเดินปาดน้ำตาอยู่ แต่จะถอยกลับไปก็ออกมาไกลเกินกว่าจะถอยแล้ว ทางวนเลี้ยวกลับก็อีกหลายกิโล โตโต้ถอนหายใจแล้วขับรถต่อไป มองเป้ที่ยังเหลืออยู่บนเบาะคนนั่ง โทรศัพท์ที่เขายึดมาอยู่ข้างๆตัว ใจเริ่มสั่นถ้าแม่รู้ตายแน่ๆ ภูมิบุญคงฟ้องแน่ๆ โตโต้รีบบึ่งรถไปหาที่เลี้ยวกลับมา
ภูมิบุญเดินไป เรื่อยๆด้วยร่างกายที่เริ่มแสดงอาการระบมเพราะตกจากรถค่อนข้างแรง ลากตัวเองฝ่าแดดร้อนเปรี๊ยงไป เหงื่อกาฬเริ่มทะลักออกมา
"ไปไหนหนู ทำไมมาเดินอยู่บนถนนแบบนี้"
ชายวัยกลางคนจอดรถถาม เขาเปิดกระจกรถลง
"ไป มหาฯลัยครับ"
"อ้าวเหรอ แล้วทำไมมาเดินล่ะหนู"
"พี่ครับ ผมขอติดรถไปลงถนนใหญ่ได้ไหมครับ"
ภูมิบุญยกมือไหว้ ชายคนนั้น
"เรา เรียนที่ไหนล่ะเดี๋ยวพี่ไปส่งให้"
พอบอกชื่อมหาฯลัยไปเขาก็ทำหน้า ครุ่นคิดอยู่
"มันคนละทางนะหนูนี่มันจะออกรังสิตอยู่แล้วนะ ทำไมมาเดินอยู่แบบนี้ ไปลงรังสิตไหม"
ภูมิบุญหน้าซีดเพราะอะไรคือรังสิต ที่ไหนคือแถวนี้ เขากำลังยืนอยู่ที่ไหนของเมืองกรุงแห่งนี้ ภูมิบุญเม้มปากแน่น
"อ้อ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากครับพี่ เดี๋ยวผมโทรบอกเพื่อนให้มารับก็ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับพี่"
ภูมิบุญกลั้นใจพูดออกไปทั้งที่มันเป็นโอกาสที่เขาจะออกไปจากถนนเส้นนี้ แต่คิดไปเบื้องหน้ากระเป๋าสะตางค์ก็อยู่ในเป้ ในตัวไม่มีเงินสักบาท เบอร์โทรศัพท์พลอยหรือแม่ ของใครๆก็จำไม่ได้ ยิ่งคิดยิ่งเม้มปากแน่น ชายคนนั้นขับรถออกไปแล้ว
"ขึ้นมา"
เสียงห้วนดุลอดออกมาจากรถคันเดิม ภูมิบุญหันไปมองแล้วรีบหันกลับทันที
"กูบอกให้ขึ้นมา"
ภูมิบุญเดินต่อไม่สนใจเสียงตวาดเลยแม้แต่น้อย โตโต้จอดรถแล้วเปิดประตูออกมา
"มึงจะไปไหน กูบอกให้ขึ้นรถ"
"ปล่อย เราไม่เคยรู้จักกัน"
ภูมิบุญหันมาจ้องตาโตโต้ น้ำตาที่เคลือบตาอยู่มันฉายแววเกลียดชังอย่างไม่เคยที่จะมองใครมาก่อน
"อ่ะ กูบอกให้ขึ้นรถ"
เสียงของโตโต้กระตุกไป ก่อนจะลดเสียงลงพูดต่อภูมิบุญพยายามสะบัดมือออก
"มึงอยากจะโดนรถชนตายเหรอ ห๊าไอ้ภูมิ"
โตโต้ตวาดเพราะภูมิบุญเริ่มต่อยตีเข้าที่ตัวเขา
"ปล่อย ผมบอกให้ปล่อย"
เสียงแข็งเหมือนกัน สายตาที่กร้าวแข็งขึ้นมองโตโต้ไม่วางตา
"ปึ๊ก บอกให้ขึ้นดีๆไม่ชอบใช่ไหม"
โตโต้อาศัยร่างกายที่สูงใหญ่หนากว่าต่อยเข้าทีท้องของภูมิบุญ เขาตัวงอลงทันที โตโต้ลากภูมิบุญขึ้นรถไปอย่างทุลักทุเล พอยัดตัวภูมิบุญใส่รถได้แล้วก็คลานเข้ประตูเดียวกันเพราะกลัวว่าภูมิบุญจะ วิ่งหนีไปอีก ภูมิบุญมองออกนอกกระจกกัดฟันเม้มปากอยู่ ไม่พูดสักคำแม้แต่เสียงหายใจก็แผ่วเบา โตโต้รู้สึกผิด อึดอัดในใจ นี่เขาทำรุนแรงไปหรือเปล่า แต่มันก็สมควรได้รับการตอบแทนแบบนี้ เขาคิดแย้งกันในใจ
พอขับรถมาถึงใจกลางเมืองภูมิบุญจำได้ว่าใกล้กลับ มหาวิทยาลัยของตัวเองจึงรีบดึงเป้มากอดกระชับไว้ในอก
"ลงตรงนี้ล่ะ"
โตโต้ลดเสียงลง ภูมิบุญรีบเปิดประตูรถลงไปทันทีไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกจากปาก ศูนย์การค้าตรงข้ามวัดหัวลำโพงที่โตโต้แวะส่งภูมิบุญไม่ได้เล็ดลอดสายตาของใครคนหนึ่งไปเลย ภูมิบุญรีบเดินอ้อมศูนย์การค้าไป
"ต๊าย ร้ายนะยะ มีรถเบนซ์มาส่งถึงที่ เสี่ยคนไหนล่ะอีภูมิ"
เสียงของนิตาดังกัดแทะมาแต่ไกล ภูมิบุญเม้มปาก สุดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วก้าวต่อ
"อายเหรอ ที่เสี่ยมาส่งน่ะ ขายตัวก็แบบนี้ล่ะนะ คงจนไม่มีปัญญาหาเงินเรียนเองต้องพึ่งเสี่ย ขายตัวขายตูด"
เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้น นิตากับเพื่อนสาวคนเดิม
"ว้าย อีภูมิ"
ภูมิบุญเดินกลับไปหาแล้วปรี่ไปแย่งแก้วน้ำของเพื่อนสาวของนิตาสาดใส่ทั้งสองทั้ง น้ำหวานทั้งน้ำแข็ง
"กรี๊ดด ต่ำทราม"
"หุบปากเถอะ จะอะไรกันนักหนา มาคอยขอส่วนบุญอะไรแถวนี้ ทำไมคิดว่าคนอื่นต้องเหมือนตัวเอง คนที่ขายตัวน่ะไม่ใช่ผม คุณนั่นล่ะ"
ภมิบุญเดินหันหลังกลับแล้วรีบเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัย ปล่อยให้สองสาวกรี๊ดลั่นเป็นเป้าสายตาของคนที่เดินผ่านไปมา พอเข้าในมหาวิทยาลัยก็วิ่งเข้าห้องน้ำกุมหน้าร้องไห้ ทำไม ทำไม เขาถามตัวเอง นี่มันอะไรกัน คนพวกนี้เสียสติไปแล้วหรือทำไมตามราวีเขาไม่เลิกรา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น