วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

(Heroine) ที่นี่ไม่มีนายเอก ฉากสิบห้า

พอแทนทวีไปส่งภูมิบุญที่บ้านก็ลงรถเดินเข้าบ้านไป โตโต้มองดูจากระเบียงบ้านเพราะเขาเพิ่งกลับมาจากกินข้าวกับแวนเช่นกัน คันปากอยากจะเข้ามาถากถางภูมิบุญแต่ก็ทนเอาไว้เพราะเดี๋ยวแผนที่วางไว้จะแตก พอตอนกินข้าวเย็นทั้งที่ตัวเองกินมาจากข้างนอกแล้ว โตโต้ก็แสร้งจะไปนั่งเขี่ยวข้าวเล่น เพราะรู้ว่าภูมิบุญต้องมานั่งกินข้าวกับมารดาของตน พอเดินลงไปข้างล่างก็เห็นมารดาตนนั่งอยู่กับภูมิบุญอย่างที่คาดไว้ โตโต้จึงเดินเข้าไปหา คุณอภิสราหันหน้ามามองลูกชายด้วยสายตาที่แปลกใจ

"มีอะไรกินครับแม่ หิวจังเลย"

"มานั่งสิลูก วันนี้จันทร์ทำแกงแพนงไก่ กับผัดขี้เมาทะเล"

"โห ของโปรดผมทั้งนั้นเลย พี่อ้อยครับ ผมขอข้าวด้วยครับ"

โตโต้นั่งลงข้างๆภูมิบุญ ทำท่าทางกระหายอยากข้าว

"ว่าไงภูมิ เรียนเป็นไงบ้าง"

คำถามน้ำเสียงที่ทำให้คุณอภิสราทำหน้าประหลาดใจไปยิ่งกว่าเดิม

"ก็ดีครับ"

ภูมิบุญก้มหน้าทำตัวลีบ

"เนี่ยให้พี่ไปส่งเมื่อเช้าก็ไม่ยอม แม่ดูภูมิสิครับ เมื่อเช้าผมตื่นมาแต่เช้ารอไปส่งน้อง แต่น้องก็ไม่ยอม"

"อะไรนะ เราเนี่ยนะตื่นมาจะไปส่งน้อง"

คุณอภิสราทำเสียงสูงไม่เชื่อหูตัวเอง

"ครับแม่ ผมมาคิดได้ว่าผมจะไปเกลียดน้องเขาทำไม ไม่เห็นมีอะไรดี อยู่บ้านเดียวกันต้องรักกัน เมื่อเช้าผมตื่นมาขอโทษน้องเขาแล้วครับ"

โตโต้ยิ้มกริ่มให้มารดาแล้วหันมายิ้มให้ภูมิบุญที่นั่งก้มหน้าอยู่

"ตายจริง แม่ดีใจมากนะโต้ที่ลุกคิดได้ ต้องอย่างนี้สิ อยู่ด้วยกันต้องรักกัน มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน"

คุณอภิสรายิ้มออกมาอย่างเปรมปรีย์ จันทร์เองพอได้ยืนก็ยิ้มออกมาเต็มดวงหน้า

"ภูมิจ๊ะ อย่าโกรธพี่เขานะลูก พี่เขาสำนึกผิดแล้ว"

"ครับ คุณท่าน ภูมิไม่ได้โกรธคุณโตโต้ครับ ไม่เคยโกรธเลย"

ภูมิบุญยิ้มแห้งๆ แล้วเขี่ยข้าวในจาน

"เออ ภูมิ กินข้าวเสร็จมาดูงานที่พี่เอามาจากเมกาไหม ภูมิจะได้เรียนรู้งานไปด้วย พอจบออกมาจะได้มาช่วยพี่ทำงานได้เลย"

ไม่คิดว่าโตโต้จะเอาแผนนี้ออกมาใช้ ปกติเขาเป็นคนที่หวงวิชาความรู้อยู่พอสมควร พอพูดเสร็จก็ยิ้มแม้สายตาจะแฝงด้วยนัยอย่างอื่น แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้มารดาของตนกลับปลื้มปีติ

"อืม ดีจ๊ะ แม่เห็นด้วย ดีนะภูมิว่างๆก็ขึ้นไปเรียนกับพี่เขา จะได้เป็นงานเลย"

ทำยังไงได้ในเมื่อคนเป็นนายใหญ่เห็นดีเห็นงามไปด้วยแล้ว

"เอ่อ ครับ คุณท่าน แต่ผมขออนุญาติทำการบ้านให้เสร็จก่อนได้ไหมครับ"

ภูมิบุญพยายามหลีกเลี่ยงเพราะไม่คิดว่าโตโต้จะมีจุดประสงค์ดี

"เอามาทำห้องพี่ก็ได้ครับ ดีเลยพี่จะได้ช่วยดู"

โตโต้ไม่ยอมแพ้ ยิ้มให้ภูมิบุญด้วยสายตาที่กำชัยชนะ

"นั่นสิภูมิ พี่เขาจะได้ช่วยสอน ให้พิสูจน์ฝีมือหน่อยซิ ไปร่ำไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนา"

คุณอภิสราไม่วายแทะโลมบุตรชาย

"แหมแม่ ได้สิครับ สอนน้องทั้งคน สบายมาก"

เข้าทางของโตโต้ทุกประการเขายิ้มแก้มปริ ในใจโห่ร้องอยู่ว่าตนมีกำลังปัญญาถือไพ่ที่เหนือกว่า พอกินข้าวเสร็จโตโต้ก็เดินขึ้นห้องไป ส่วนภูมิบุญก็เก็บกวาดช่วยอ้อยแล้วจึงไปอาบน้ำชำระร่างกาย ภูมิบุญยืนคิดในระหว่างที่สายน้ำจากฝักบัวว่าโตโต้กำลังคิดที่จะทำอะไรอยู่ แต่ยังคิดไม่ออกว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ แต่คงไม่ปรารถนาดีอย่างแน่นอน พออาบน้ำเสร็จก็ยืนเปลือยร่างอยู่หน้ากระจก แล้วฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ ภูมิบุญทาโลชั่นที่ไปซื้อกับพลอยกลิ่นดอกทานตะวันที่หอมอ่อนๆ แตะน้ำหอมกลิ่นดอกแอปเปิ้ลของออเรียลทัลปริ๊นเซส แล้วก็สวมเสื้อผ้าอย่างรัดกุม

"ผมพร้อมแล้วคุณโตโต้"

ภูมิบุญยิ้มเยาะให้กับตัวเองในกระจก แล้วเดินถือหนังสือออกจากห้องไป ภายในห้องดำยังคงเปิดไฟสีเหลืองอยู่เช่นเคย โตโต้เปิดเพลงแจ๊สเบาๆคลอ เหมือนกำลังสร้างบรรยากาศบางอย่างอยู่ โตโต้สวมเสื้อกล้ามกับกางเกงบ๊อกเซอร์ไม่สวมชุดชั้นใน เขายืนยิ้มให้ภูมิบุญเมื่อเข้าไปในห้องแล้ว ภูมิบุญยืนเก้ๆกังๆอยู่ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี พอเอาเข้าจริงก็เริ่มสั่นไหว

"มานั่งนี่ดิภูมิ มาๆ เดี๋ยวพี่เปิดไฟล์ให้ดู"

โตโต้กวักมือเรียกภูมิบุญให้ไปนั่งที่เก้าอี้ที่ลากมาจากหน้าโต๊ะเครื่องแป้งที่เป็นเก้าอี้บุนวมโล้นๆ ส่วนเก้าอี้ที่มีพนักพิงเขานั่งอยู่ ภูมิบุญใจสั่นแต่ก็สูดลมหายใจเข้าปอดสร้างขวัญและกำลังใจให้ตนเอง

"เดี๋ยวพี่ให้ดูงานที่พี่ออกแบบไว้นะ อันนี้พี่ได้คะแนนเต็มนะ"

โตโต้เปิดไฟล์งานของตัวเองขึ้นให้ภูมิบุญซึ่งนั่งตัวลีบอยู่ดู พอไฟล์ที่โตโต้คลิ๊กไปสองที่โผล่ขึ้นมาหน้าจอ ภูมิบุญถึงกับผงะแต่ก็ยังไม่หลบสายตา เพราะไฟล์ที่เขาเปิดมันคือหนังโป๊ที่กำลังวาดลวดลายกันแบบถึงพริกถึงขิง

"เฮ้ย โทษที ผิดไฟล์"

โตโต้ร้องขึ้นมาแต่ยังไม่ปิดหนังเสียที ภูมิบุญใจสั่นระริกไม่ใช่ไม่เคยดู แต่ไม่คิดว่าเขาจะเล่นแบบนี้

"ไม่เป็นไรครับคุณโตโต้ ไม่มีแบบ ผู้ชายกับผู้ชายเหรอครับ"

ภูมิบุญกัดฟันพูด โตโต้เม้มปากแล้วเอื้อมมือไปเลื่อนเมาส์ปิดหนังทันที

"ไม่มีครับ พี่ไม่นิยม"

โตโต้พูดเสียงขุ่น ภูมิบุญกลั้นใจพูดออกไป แต่พอเห็นปฏิกริยาของโตโต้แล้วก็ยิ้มออกมาที่มุมปาก โตโต้เปิดไฟล์งานให้ภูมิบุญดูคราวนี้เป็นงานจริงๆ การออกแบบภายในที่เขาเรียนมา มันสวยงามล้ำสมัย ภูมิบุญนั่งมองอยู่ด้วยสายตาที่เปิดกว้าง โตโต้อธิบายไปเรื่อยๆ แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของภูมิบุญที่ตอนนี้กำลังให้ความสนใจกับรูปภาพตรงหน้า

"อันนี้เป็นศิลปะแบบโกธิกประยุกต์ หรือเรียกว่าโกธิกโมเดิ้น อันนี้กำลังได้รับความนิยม ดูอันนี้"

โตโต้เอื้อมมือมาจับเมาส์แต่เลื่อนไปโดยตั้งใจให้โดนมือของภูมิบุญ พอมือของโตโต้โดนมือของตนก็สะดุ้งแต่ยังรักษาท่าทีไว้ไม่ดึงออก โตโต้เห็นดังนั้นก็ได้ใจ ลุกขึ้นมายืนด้านหลังภูมิบุญแล้วเอาตัวคร่อมหลังไว้ มือของโตโต้เอื้อมไปจับมือของภูมิบุญไปจับเมาส์ ภูมิบุญใจเต้นโครมคราม สั่นไหวอยู่ข้างใน เล่นกันแบบนี้เลยหรือ ภูมิบุญเม้มริมฝีปากเข้าหากัน โตโต้รุกหนักเอาหน้าท้องของตนถูหลังเบียดประชิดหลังของภูมิบุญทันที

"อ๊ะ"  ภูมิบุญร้องออกมาเบาๆ เพราะสิ่งที่สำผัสหลังของเขามันเริ่มตื่นตัว และดูเหมือนคนตัวใหญ่จะเบียดเข้ามาไม่ยอมถอยและจงใจตั้งใจที่จะทำแบบนี้

"อันนี้สวยไหมครับน้องภูมิ"

พยายามฝืนทนต่อสิ่งยั่วยุแต่ในเมื่อโตโต้เอาปากมากระซิบ ข้างหูเป่าลมเบาๆเข้าไป ภูมิบุญถึงกับขนลุกย่นคอทันที

"ทำไมเราตัวหอมจังครับ ภูมิ"

โตโต้ทำเสียงสั่นกระเส่าไม่ยอมหยุดรุกล้ำ ภูมิบุญพยายามเรียกสติคืนมา แล้วยืนขึ้นทันที

"เอ่อ ผมขออนุญาติไปเข้าห้องน้ำ โอ๊ย"

พอยืนขึ้นก็ทำจริตขัดขาโตโต้ให้ล้มลงกับพื้นพรมหน้าเตียงนอน ภูมิบุญทับอยู่บนร่างของโตโต้ ริมฝีปากประทับอยู่ข้างๆปากของโตโต้ ภูมิบุญยื่นริมฝีปากออกไปนิดหน่อยเหมือนส่งรอยจูบให้ฝังลึกลงไปข้างปากหนานั้นแช่มันอยู่พอสมควรจึงถอนหน้าขึ้น ให้คนตัวใหญ่ได้สัมผัสกับริมฝีปากบางๆของตน

"อ่ะ ขอโทษครับคุณโตโต้"

ภูมิบุญทำท่าเขินอายแก้มแดงขึ้นมาทันที มือของโตโต้โอบอยู่ที่บั้นเอวของภูมิบุญ พอมีสติก็คลึงเล่น ภูมิบุญดันตัวลุกขึ้น แต่พอจะลุกขึ้นก็แกล้งล้มลงอีก ตั้งใจเอาเนื้อตรงก้นเสียดสีกับแก่นกายของโตโต้ที่ตื่นตัวเต็มที่

"โอ๊ย ขอโทษครับ ผมหน้ามืด"

ภูมิบุญพยายามส่ายเอวไปมาจนคนตัวใหญ้าหน้าเริ่มผิดรูปร่างไปบูดเบี้ยว ภูมิบุญซุกหน้าลงตรงซอกคอของโตโต้ พยายามให้กลิ่นกายของเขาติดตัวโตโต้ให้ได้มากที่สุดหลับตาปี๋ โตโต้ได้โอกาสพลิกตัวขึ้นแล้วทับร่างภูมิบุญไว้

"เป็นอะไรมากไหมภูมิ"

เขาเสียงสั่นออกมา ภูมิบุญยิ้มอยู่ในใจ

"หน้ามืดนิดหน่อยครับ คงลุกเร็วไปหน่อย ผมขอตัวกลับไปนอนพักก่อนดีกว่า"

ภูมิบุญดันตัวลุกขึ้นทันทีจนหน้าไปชนที่แก้มของโตโต้

"อุ๊ย เอ่อ ผมขอโทษนะครับ"

ภูมิบุญรีบลุกขึ้นแล้วไปฉวยหนังสือออกจากห้องดำไป

"หึหึ นึกว่าจะซักแค่ไหน เอาสิ ใครมันจะติดใคร คุณโตโต้"

ภูมิบุญหัวเราะอยู่ในลำคอ แสยะยิ้มออกมาที่มุมปากอย่างน่ากลัว

"ไอ้พอล ไอ้ห่า ตกลงนี่มึงคิดว่าแผนของมึงจะได้ผลเหรอวะ"

พอภูมิบุญออกจากห้องไปก็กดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนรักคนที่เป็นต้นความคิดทันที

"ทำไมวะ" พอลสวนกลับ

"กูกลัวกุจะได้มันเป็นเมียสิวะ ไอ้ห่า กูไม่เคยแข็งกับผู้ชายเลยนะโว้ย แต่กับไอ้นี่พอได้กลิ่นตัวมัน ห่าโด่ไม่ยอมลงเลยมึง"

"ฮ่าๆ มึงไม่สอยมันเลยดิวะ ปล่อยไปทำไม"

"เฮ้ย ไม่ได้โว้ย เสียเชิงชายหมด"

"แล้วมึงคิดว่ามันไม่ได้ผลยังไง ในเมื่อปฏิกริยาร่างกายมึง มันตอบสนองอย่างดีนี่ ไอ้ควาย"

พอลด่ากลับมา สนทนากับเพื่อนอยู่ครู่ใหญ่ ไม่มีผลคืบหน้าอะไร พอลแนะนำให้รุกหนักกว่าเดิมเอาให้ติดภายในเร็ววัน ให้ภูมิบุญตายใจว่าเขาเริ่มมีใจให้ แล้วก็ทำให้ภูมิบุญหลงรัก ทีนี่แผนก็จะได้ง่ายขึ้น ทั้งสัปดาห์โตโต้พยายามตีสนิทกับภูมิบุญทุกวิถีทาง จนคุณอภิสราเป็นคนที่ตายใจเป็นคนแรก จันทร์กับอ้อยเองก็ตายใจ ยินดีปรีดาแต่ภูมิบุญกลับมองเห็นความผิดปกติของโตโต้แต่เก็บเงียบอยู่ในใจ มีเพียงเพื่อนที่มหาวิทยาลัยที่รับรู้

"ภูมิวันนี้มาเที่ยวบ้านพี่ไหม พอดีพ่อแม่พี่อยากเจอเราน่ะ"

แทนทวีโทรศัพท์เอ่ยปากชวนในวันเสาร์ตอนเช้า ภูมิบุญกำลังกวาดเศษใบไม้อยู่หลังบ้าน

"เอ่อ ภูมิยังทำงานบ้านอยู่เลยครับพี่แทน วันนี้ไม่รู้ว่าคุณท่านจะชวนไปไหนหรือเปล่า"

"อ้าวเหรอ งั้นตอนสายๆพี่โทรหาเราใหม่ดีกว่า พ่อแม่พี่อยากเจอเราจริงๆนะ พี่คุยให้ท่านฟังท่านเลยอยากเจอ"

ความรู้สึกของภูมิบุญไม่ได้ยินดีที่จะไปเจอผู้ใหญ่คนที่เป็นบุพการีของแทนทวี มันเร็วเกินไปนี่เขากับแทนทวีตกลงใจคับกันไม่ถึงสองอาทิตย์ แม้แทนทวีจะเทียวคอยรับคอยส่งไปเรียนก็ตาม มันคงไม่ดีเป็นแน่ ในใจเริ่มสั่นไหวความคิดต่างๆรุมเร้าเข้ามา พอทำงานบ้านเสร็จก็เดินเข้าครัวไปช่วยอ้อยทำกับข้าว

"ภุมิ วันนี้ไม่ไปไหนเหรอจ๊ะ เนี่ยคุณท่านออกไปข้างนอกกับคุณโต้แล้ว วันนี้ไม่มีงานจ๊ะ"

อ้อยบอก ภูมิบุญพยักหน้าไม่ได้ซักต่อ เดินกลับไปที่ห้องของตนเองนั่งคิดอยู่ว่าจะไปบ้านแทนทวีดีไหม พอคิดได้ว่าจะไปก็เดินไปบอกจันทร์ที่กำลังจัดดอกไม้อยู่ที่ตึกใหญ่ จันทร์ไม่ได้ว่าอะไรเพราะไม่อยากกีดกันภูมิบุญเพราะตั้งแต่ภูมิบุญเข้ามาอยู่ในบ้านเพื่อนฝูงก็ไม่เยอะเกรงว่าภูมิบุญเองก็คงจะเหงา ให้ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้านเพื่อนบ้างก็คงจะดี ภูมิบุญโทรศัพท์ไปบอกแทนทวีว่าตกลงจะไปที่บ้าน รายนั้นถึงกับกระโดดโลดเต้นดีใจใหญ่

"เดี๋ยวพี่ไปรับนะครับภูมิ บ่ายสามได้ไหม"

ตอนที่ภูมิบุญโทรไปบอกก็บ่ายสองโมงกว่าแล้ว

"จะทันเหรอครับพี่แทน ภูมิยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ"

"อืม งั้นเสร็จโทรบอกพี่ละกัน เดี๋ยวพี่ออกไปรับเลย"

ภูมิบุญวางสายจากแทนทวีแล้วก็เดินเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย พอเสร็จก็แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ๊ตที่คุณอภิสราซื้อให้กับกางเกงยีนส์สีดำพอดีตัวไม่แน่นหรือหลวมไป แทนทวีมาจอดรถรอหน้าบ้านแล้ว พอเห็นหน้าภูมิบุญก็ยิ้มแป้นเก็บอาการดีใจไม่อยู่

"จะดีเหรอครับพี่แทน ที่จะไปเจอพ่อแม่พี่น่ะ"

ภูมิบุญแสดงความอึดอัดใจออกมา

"ไม่เป็นไรหรอกภูมิ พี่บอกว่าเราเป็นเพื่อนใหม่น่ารัก อยู่ในซอยเดียวกัน ท่านก็เลยอยากรู้จัก"

แทนทวีไม่มีสีหน้าอาการของความกังวลใจเลยกลับหัวเราะร่าอยู่ ภูมิบุญได้แต่พยักหน้าเออออเห็นดีเห็นงามตาม บ้านหลังใหญ่สีครีมรั้วคอนกรีตทาสีน้ำตาลเข้มตั้งเด่นตระหง่านอยู่ท้ายซอยเดินไปอีกหน่อยก็เป็นสวนหลวง ร.๙ ประตูอัลลอยด์ฉลุลวดลายบัวมองเห็นภายในบริเวณภายในบ้านบางส่วน แทนทวีกดรีโมตคอนโทลให้ประตูบ้านเปิดอัตโนมัติแล้วเลี้ยวรถเข้าบ้านไป

"ยินดีต้อนรับครับ ภูมินี่บ้านพี่ เล็กไปหน่อยนะครับ แต่อบอุ่น"

แทนทวีออกตัว ไม่รู้ว่าประชดหรือพูดถ่อมตัว แต่น้ำเสียงไม่ได้จงใจประชดแต่อย่างใด

"แหมพี่แทน ถ้าบ้านพี่เล็กบ้านผมที่เพชรบูรณ์ก็เรียกว่ากระท่อมแล้วล่ะพี่"

ภูมิบุญอดไม่ได้ที่จะแขวะเอาเพราะฐานะความเป็นอยู่ก็ต่างกันมากอยู่แล้วพอได้ยินเรื่องแบบนี้ยิ่งเหมือนเอาสิ่วตอกเข้าไปตรงหน้าผากสลักเตือนให้เขาอย่าได้ลืมตัว พอเดินเข้าไปในบ้านภูมิบุญก็เริ่มรู้สึกว่าตัวลีบเล็กลงอีก เพราะภายในบ้านตบแต่งแบบร่วมสมัย มีมุมเล็กๆตรงอีกฝั่งของบ้านที่มีเครื่องใช้ไม้สอยโซฟาเป็นแบบไทยล้านนา นายแพทย์แทนชัยกับแพทย์หญิงศิริกานต์นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงมุมนั้น ทันทีที่สายตาปราดไปมองเห็นเจ้าของบ้าน ภูมิบุญก้มหน้าลงทันทีรู้สึกอายประหม่าขึ้นมา

"พ่อแม่ครับ นี่ครับน้องภูมิที่ผมเล่าให้ฟัง"

แทนทวีพูดแล้วเดินนำหน้าภูมิบุญเข้าไปใกล้ๆบิดามารดาของตน

"สวัสดีครับ"

ภูมิบุญยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม ทั้งสองรับไหว้แล้วยิ้มให้

"มาๆหนู มานั่งตรงนี้ หน้าตายังอ่อนๆอยู่เลยนะเรา"

ผู้เป็นบิดากล่าวแล้วยิ้ม นายแพทย์แทนชัยลาออกจากการเป็นหมอแล้ว ปัจจุบันมีธุรกิจส่งออกอัญมณีเป็นของตัวเอง ส่วนแพทย์หญิงศิริกานต์ยังเปิดคลีนิกอยู่แต่ก็ช่วยงานสามีบ้าง ทั้งสองหน้าตาดูเป็นมิตรยิ้มแย้มแจ่มใส

"เป็นไงพ่อ ผมบอกแล้วว่าน้องภูมิน่ารัก"

แทนทวีเสริมแล้วดันให้ภูมิบุญไปนั่งลงที่โซฟาตรงข้าม

"ชื่อภูมิเหรอจ๊ะ ภูมิเฉยๆหรือ"

แพทย์หญิงศิริกานต์ถามสายตามองภูมิบุญอย่างเอ็นดู

"ภูมิบุญครับ ผมชื่อภูมิบุญ"

ภูมิบุญตอบมองหน้าแพทย์หญิงศิริกานต์แล้วยิ้มแห้งๆ

"ชื่อน่ารักจัง เห็นไหมพ่อแม่บอกว่าให้ตั้งชื่อตาแทนว่าแทนบุญ พ่อก็ไม่เชื่อ เห็นไหมว่าชื่อภูมิบุญน่ะน่ารักจะตาย"

หันไปเย้ากับผู้เป็นสามีรายนั้นหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี

"แหมคุณ ดูภูมิบุญสิ น่าตาเขาออกจะน่ารัก จะให้ตาแทนชื่อแทนบุญนี่มันไม่เข้ากับหน้ามันน่ะสิ"

"อ้าวพ่อ ไหงมาลงที่ผมล่ะ ไม่เอาแล้ว ภูมิขึ้นไปเล่นที่ห้องพี่ดีกว่าเดี๋ยวพี่เอา เพลงให้ดู"

แทนทวีโวยวายใส่บิดาแล้วหันหันมาชวนภูมิบุญใบหน้ายิ้มแย้มอารมณืดีกันทุกคนทำให้ภูมิบุญไม่ค่อยรู้สึกอึดอัด

"ไหนยะ แทนเพื่อนแกน่ะ ไหนอวดนักอวดหนาว่าน่ารัก"

เสียงแหลมดังมาจากข้างหลัง ภูมิบุญก้มหน้าลงหลุบตาลงต่ำเสียงนี้มันช่างคุ้นหูเหลือเกิน ภูมิบุญหันหน้าไปหาต้นเสียงอย่างที่ทุกคนในที่นั้นกำลังทำอยู่

"แก ไอ้ภูมิ"

เสียงแข็งห้วนขึ้นมาทันทีแต่ก็ยังรักษาอาการเอาไว้อยู่ เพราะอยู่ต่อหน้าบุพการี แวนนั่นเองคือเจ้าของต้นเสียงแหลมสูงนี้  
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น