ตอนเย็นภูมิบุญช่วยจันทร์ทำกับข้าวเพราะอ้อยขอตัวไปนอนพัก หลังจากที่เวียนหัวเมื่อตอนกลางวัน พอทำเสร็จก็ยกไปที่ตึกใหญ่ ภูมิบุญจัดสำรับเสร็จก็ไปดูอ้อย จัดข้าวจัดยาให้กินแล้วตนก็ไปหาข้าวกินในครัว
"ภูมิจ๊ะ ถ้ากินเสร็จแล้วไปดูคุณท่านในตึกแทนแม่หน่อยสิ แม่ปวดหลัง อยากจะเอนหลังสักหน่อย"
จันทร์เดินเข้ามาบอกภูมิบุญในครัว
"ปวด มากไหมแม่ ให้ภูมินวดให้ไหม"
"ไม่เป็นไรลูกวันนี้ก้มทั้งวัน มันคงปวดหลังคนแก่ก็อย่างนี้ล่ะลูก ไปดูคุณท่านเถอะ เผื่อขาดเหลืออะไร"
ภูมิบุญพยักหน้าแล้วเดินกลับไปที่ตึกใหญ่ พอเดินเข้าตึกไปก็ต้องเปลี่ยนสีหน้าเพราะในตึกมึแขก แวน นั่นเองที่กำลังนั่งร่วมโต๊ะทานข้าวกับคุณอภิสราและโตโต้อยู่
"อ้าว ภูมิจ๊ะ กินข้าวเสร็จแล้วเหรอ มาๆมานั่งกับป้า"
คุณอภิสราร้องเรียก เมื่อเห็นหน้าภูมิบุญสีหน้าของคุณอภิสรานิ่งเป็นปกติ
"เรียบร้อยแล้วครับคุณท่าน คุณท่านจะเอาอะไรไหมครับ"
"ไม่หรอกจ๊ะ มาๆ มาอยู่ใกล้ป้าหน่อย วันนี้ผัดกุ้งน้ำมะขามนี่อร่อยจริงๆนะจ๊ะ จันทร์ไม่เคยเห็นทำให้ป้ากิน ภูมิทำเองหรือเปล่าลูก"
เป็นครั้งแรกที่ภูมิบุญได้ยินคุณอภิสราเรียก ตัวเองว่าลูก รู้สึกแปลกใจพร้อมกับปีติยินดี แต่พอเหลือบตาไปมองสายตาอีกคู่ที่ดูเหมือนตั้งหน้าตั้งตากินข้าว แต่สายตาคู่นั้นกลับจ้องมองจานอาหานเหมือนกับว่าอาหารจานนี้ทำให้เขากำลังได้รับความอัปยศอดสูอย่างแสนสาหัส
"ครับ ผมลองทำดูครับ ที่โน่นผมทำให้ยายกินบ่อยๆ"
"ตายจริง เก่งจังนะเรา ป้าขอบใจมากจ๊ะ อร่อยมาก"
"ต๊าย น้องภูมิทำเองเหรอค๊ะ เก่งจริงๆ แต่ซอสมันเปรี๊ยวไปหน่อยไหมคะพี่ว่า น่าจะออกหวานกว่านี้นิ๊ดนึงนะคะ แต่ก็อร่อยค่ะ"
แวนอยากมีส่วนร่วม ปากชมแต่ตายิ้มเยาะ
"ตอนแวนอยู่ที่โน่นแวนก็ทำอาหารบ่อยนะคะ แต่จะถนัดอาหารยุโรปมากกว่าค่ะ อาหารไทยแวนไม่ค่อยได้ทำ วันไหนคุณป้าอยากทานอาหารยุโรปบอกแวนนะคะ เดี๋ยวแวนมาทำให้คุณป้าทาน"
แวนหันไปทางคุณอภิสราที่ทำหน้าเจื่อนลงทันที
"ขอบใจจ๊ะ แต่ป้าไม่ค่อยชอบอาหารที่ใส่นมใส่เนยเยอะๆ มันเลี่ยนน่ะจ๊ะ"
คุณอภิสราเหน็บแต่ยิ้มให้เต็มดวงหน้า แวนเองไม่รู้ตัวทำหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่
"ก็ลองเปลี่ยนดูบ้างนะคะคุณป้า เผื่อคุณป้าอาจจะชอบ มีแบบไม่ใส่นมใส่เนยนะคะ อย่างสเต็ก สลัดผักเพื่อสุขภาพน่ะค่ะ"
แวนเองก็ไม่ยอมแพ้พยายามงัดข้อดีของตนออกมาอวด
"จ๊ะ ขอบใจมาก ถ้าป้าอยากทานเดี๋ยวป้าบอกนะจ๊ะ"
คุณอภิสราตัดบท ภูมิบุญยืนอยู่ห่างออกไปคอยรับใช้คุณอภิสรา พอกินเสร็จโดยปกติคุณอภิสราจะรับของหวานหรือของว่างที่หน้าโทรทัศน์แต่วันนี้ขอตัวไปนั่งคุยกับจันทร์ที่บ้านคนงาน ภูมิบุญจึงเก็บกวาดโต๊ะ
"ไอ้ ภูมิ มึงชงกาแฟให้กูหน่อยดิ"
โตโต้ใช้ภูมิบุญแล้วไปนั่งคลอเคลียอยู่กับ แฟนสาวหน้าโทรทัศน์
"อุ๊ย แวนเอาด้วยค่ะ ของพี่เอาดีแคปนะคะน้องภูมิ"
แวนร้องสั่ง ภูมิบุญนิ่งรีบเก็บกวาด แล้วไปชงกาแฟมาให้ตามที่นายคนใหม่สั่ง
"อะไรวะ กาแฟบ้าอะไร ใครบอกให้มึงใส่ครีมใส่น้ำตาล กูจะกินกาแฟดำ"
โตโต้โวยวาย วางแก้วกาแฟกระแทกโต๊ะจนกาแฟกระฉอกเลอะโต๊ะ
"อ๊าย นี่มันไม่ใช่ดีแคปนี่คะ รู้จักไหมคะน้องภูมิดีแคปน่ะคะ หรือกินแต่กาแฟตามรถเข็นไม่เคยรู้เหรอคะ"
แวนเหน็บแนม ภูมิบุญได้แต่เม้มปากรีบหาผ้ามาเช็ดโต๊ะ
"ไปเอามาใหม่"
เสียงห้วนดุ ภูมิบุญได้แต่ก้มหน้าเช็ดโต๊ะ สูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกๆเข้าไว้ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าสองคนนี้ไม่มีจุดประสงค์ดี
"โอ๊ย เจ็บแวน"
โตโต้เหวี่ยงตัวออกเมื่อแฟนสาวจับโดนแขน
"เอ๊ะ เป็นอะไรค๊ะโต้ ตายแล้วไปโดนอะไรมา"
แวนเปิดแขนเสื้อขึ้นดูรอยยาวเริ่มกลายเป็นสีเขียวคล้ำ
"หมาฟัดมา หมาที่มาอาศัยบ้านเขาอยู่น่ะแวน มันเลี้ยงไม่เชื่อง"
สายตามองภูมิบุญเหมือนตัวแมลงน่ารังเกียจตัวหนึ่ง มันเต็มไปด้วยความขยะแขยง
"ต๊าย หมาเลี้ยงไม่เชื่องแบบนี้อย่าเลี้ยงสิค๊ะโต้ ไล่มันไปเลยค่ะ เลวที่สุด ดูซิ โต้ของแวน เจ็บมากไหมค๊ะ"
ภูมิบุญรีบเดินออกไปจากบริเวณนั้นทันที ในใจรู้สึกโกรธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ คนพวกนี้ขยันมาหาเรื่องเขาเสียจริง ภูมิบุญเดินกลับมาพร้อมกาแฟดำสองถ้วย
"กูไม่อยากกินแล้ว เสียอารมณ์ เออ มึงไปเอารองเท้าหนัง เฟอรากาโมมาขัดให้กูหน่อย พรุ่งนี้กูจะใส่"
โตโต้ชี้ไปที่ตู้รองเท้าหน้าบ้าน แต่เขาไม่ได้ใช้มือชี้ ยกเท้าขึ้นชี้ปลายเท้าไปทางประตุหน้าบ้านภูมิบุญหน้าแดงเม้มปากแน่น
"ทำไม ทำไม่ได้เหรอ พ่อคนโปรด กูใช้แค่นี้เม้มปากเลยเหรอ"
โตโต้เหน็บมองหน้าภูมิบุญ ที่ได้แต่ก้มหน้าเม้มปากกัดฟันอยู่
"อุ๊ย ขัดรองเท้าเป็นใช่ไหมค๊ะ งั้นเช็ดให้พี่ด้วยสิคะน้องภูมิ ปราดาพี่น่ะเมื่อกี๊เดินมาฝุ่นเกาะ เอาให้นิ้งไปเลยนะคะ"
แวนเอาบ้างช่างเป็นคู่ที่เข้ากันได้ดีจริงๆ ภูมิบุญยอมเดินไปที่ตู้รองเท้าหยิบรองเท้าคู่ที่ว่าออกมาเช็ด แล้วนั่งลงขัด
"เออ อยู่บ้านเขาน่ะทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้าง อย่ามาเกาะเชิดหน้าลอยตาอยู่"
โตโต้เดินไปหาเรื่อง แวนเองก็เดินตามไปเกาะแขนยืนดูแล้วยิ้มเยาะอยู่
"อุ๊ย เกาะเหรอค๊ะ เหมือนอะไรน้า parasite หรือเปล่าคะโต้ ภาษาไทยเขาเรียกอะไรนะคะ"
แวนเสริมหน้าตายิ้มเย้ยหยัน
"กาฝาก จ๊ะ"
"ต๊าย ชื่อน่าเกลียดจังนะคะ แวนล่ะเกลียดจริงๆ พวกกาฝากเนี่ย อึ๋ย ไม่อยากจะคิดขยะแขยง"
ไม่พูดเปล่าแสดงสีหน้าท่าทางอีก ภูมิบุญรู้สึกหนักหน้าร้อนผ่าวไปทั่วพยายามทำหูทวนลม รีบขัดรองเท้าเสร็จก็เก็บไว้ที่เดิม ภูมิบุญลุกจากที่ทันที
"อ้าว แล้วไม่เช็ดของชั้นล่ะ"
"เออ ทำไมมึงไม่เช็ด"
โตโต้โวยวาย กันทางภูมิบุญไว้
"ขอโทษนะครับ ผมไม่ใช่คนใช้ที่บ้านของคุณ"
"ต๊าย เห็นมั้ยคะโต้ เด็กคนนี้ร้ายกาจที่สุด"
"มึงเช็ดเดี๋ยวนี้ อย่ามาทำเป็นปากดี"
"เพื่ออะไรครับ ที่ผมเช็ดให้คุณโตโต้ เพราะคุณโตโต้คือนายโดยตรง คุณเป็นใครจะมาให้ผมเช็ดรองเท้าให้"
ภูมิบุญเหลืออดโพล่งออกไป
"เช็ด กูบอกให้มึงเช็ดมึงก็ต้องเช็ด"
โตโต้ขึ้นเสียง มองหน้าภูมิบุญหมายจะให้บาดลึกเข้าไปในร่าง ภูมิบุญยกริมฝีปากขึ้น
"ได้"
ว่าแล้วก็เอานิ้วเท้าแม่โป้งคีบรองเท้ากับนิ้วชี้ขึ้นมา
"ว๊าย ทรามมาก"
"มึงกล้าดียังไง"
โตโต้ผลักเข้าที่อกของภูมิบุญจนเซไป
"ทำไมครับ รองเท้านี่เขาไม่เอาตีนใส่เหรอ หรือคุณซื้อมากราบ"
"ไอ้ภูมิ"
เสียงตวาดดังลั่นบ้าน โตโต้ง้างมือจะชกหน้าภูมิบุญ
"อะไรกันๆ มีอะไรเสียงดังออกไปถึงข้างนอกแล้ว"
คุณอภิสราปรี่เข้ามาหา มองหน้าทั้งสามอย่างประหลาดใจ
"คุณป้าคะ น้องภูมิเขาแสดงกริยาที่ไม่ดีน่ะคะ แวนไม่เคยเจอคนกริยาต่ำแบบนี้มาก่อน"
แวนใส่จริตทำท่าตกใจวิ่งเข้าหาคุณอภิสรา
"ว่าไงโต้ มีอะไรกัน"
คุณอภิสราไม่ได้สนใจแวนแต่อย่างใดมองจ้องหน้าลูกชาย ที่ตอนนี้หน้าเปลี่ยนสีแล้ว
"เอ่อ คือ"
"คุณท่านครับ ผมผิดเองล่ะครับ ที่ทำกริยาต่ำทรามใส่คุณทั้งสอง"
ภูมิบุญชิงพูดสีหน้ายังราบเรียบแม้ในใจจะสั่นไหวแล้วก็ตาม
"อะไรกันจ๊ะภูมิ อะไรกันกริยาต่ำทราม"
คุณอภิสราเดินเข้ามาหาภูมิบุญแล้วมองดูรอบๆ
"คือ คุณโตโต้วานให้ผมขัดรองเท้าให้น่ะครับ ผมทำเสร็จแล้ว คุณแวนก็ให้ผมเช็ดรองเท้าให้ด้วย ผมไม่ได้ทำครับ"
"หือ อะไรน๊ะ อะไรกันตาโต้ ใครสั่งใครสอน เรามีสิทธิ์อะไรมาใช้น้องเขาแบบนี้ ภูมิไม่ใช่คนใช้ เกินไปแล้วนะ ไปเอานิสัยอันธพาลแบบนี้มาจากไหน แม่ไม่เคยสอน"
คุณอภิสราขึ้นเสียงมองหน้าลูกชายที่ก้มหน้านิ่งอยู่
"คุณ ป้าคะ แล้วมัน เอ่อ น้องภูมินี่เข้ามาอยู่ในฐานะอะไรล่ะคะ ทำไมใช้แค่นี้ทำไม่ได้"
แวนดอดขึ้นโตโต้จับแขนแวนไว้เพราะสีหน้าสีตาของเธอดูเหมือนจะเหลืออดเต็มที
"อยู่ในฐานะอะไรมันเป็นเรื่องของคนในบ้านนี้นะจ๊ะ ป้าไม่จำเป็นต้องบอกให้หนูทราบ"
"แม่ ผมก็เห็นว่าน้องมันว่างก็เลยวานหน่อย แต่ทำไมต้องเลือกปฏบัติด้วยล่ะครับ แวนเป็นแขกของผมนะ แล้วคราวหลังเวลาผมพาลูกค้ากลับมาที่บ้าน จะทำแบบนี้ไหม"
โตโต้แถไปซึ่งมันไม่เกี่ยวกันเลย
"ภูมิจ๊ะ ถ้ากินเสร็จแล้วไปดูคุณท่านในตึกแทนแม่หน่อยสิ แม่ปวดหลัง อยากจะเอนหลังสักหน่อย"
จันทร์เดินเข้ามาบอกภูมิบุญในครัว
"ปวด มากไหมแม่ ให้ภูมินวดให้ไหม"
"ไม่เป็นไรลูกวันนี้ก้มทั้งวัน มันคงปวดหลังคนแก่ก็อย่างนี้ล่ะลูก ไปดูคุณท่านเถอะ เผื่อขาดเหลืออะไร"
ภูมิบุญพยักหน้าแล้วเดินกลับไปที่ตึกใหญ่ พอเดินเข้าตึกไปก็ต้องเปลี่ยนสีหน้าเพราะในตึกมึแขก แวน นั่นเองที่กำลังนั่งร่วมโต๊ะทานข้าวกับคุณอภิสราและโตโต้อยู่
"อ้าว ภูมิจ๊ะ กินข้าวเสร็จแล้วเหรอ มาๆมานั่งกับป้า"
คุณอภิสราร้องเรียก เมื่อเห็นหน้าภูมิบุญสีหน้าของคุณอภิสรานิ่งเป็นปกติ
"เรียบร้อยแล้วครับคุณท่าน คุณท่านจะเอาอะไรไหมครับ"
"ไม่หรอกจ๊ะ มาๆ มาอยู่ใกล้ป้าหน่อย วันนี้ผัดกุ้งน้ำมะขามนี่อร่อยจริงๆนะจ๊ะ จันทร์ไม่เคยเห็นทำให้ป้ากิน ภูมิทำเองหรือเปล่าลูก"
เป็นครั้งแรกที่ภูมิบุญได้ยินคุณอภิสราเรียก ตัวเองว่าลูก รู้สึกแปลกใจพร้อมกับปีติยินดี แต่พอเหลือบตาไปมองสายตาอีกคู่ที่ดูเหมือนตั้งหน้าตั้งตากินข้าว แต่สายตาคู่นั้นกลับจ้องมองจานอาหานเหมือนกับว่าอาหารจานนี้ทำให้เขากำลังได้รับความอัปยศอดสูอย่างแสนสาหัส
"ครับ ผมลองทำดูครับ ที่โน่นผมทำให้ยายกินบ่อยๆ"
"ตายจริง เก่งจังนะเรา ป้าขอบใจมากจ๊ะ อร่อยมาก"
"ต๊าย น้องภูมิทำเองเหรอค๊ะ เก่งจริงๆ แต่ซอสมันเปรี๊ยวไปหน่อยไหมคะพี่ว่า น่าจะออกหวานกว่านี้นิ๊ดนึงนะคะ แต่ก็อร่อยค่ะ"
แวนอยากมีส่วนร่วม ปากชมแต่ตายิ้มเยาะ
"ตอนแวนอยู่ที่โน่นแวนก็ทำอาหารบ่อยนะคะ แต่จะถนัดอาหารยุโรปมากกว่าค่ะ อาหารไทยแวนไม่ค่อยได้ทำ วันไหนคุณป้าอยากทานอาหารยุโรปบอกแวนนะคะ เดี๋ยวแวนมาทำให้คุณป้าทาน"
แวนหันไปทางคุณอภิสราที่ทำหน้าเจื่อนลงทันที
"ขอบใจจ๊ะ แต่ป้าไม่ค่อยชอบอาหารที่ใส่นมใส่เนยเยอะๆ มันเลี่ยนน่ะจ๊ะ"
คุณอภิสราเหน็บแต่ยิ้มให้เต็มดวงหน้า แวนเองไม่รู้ตัวทำหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่
"ก็ลองเปลี่ยนดูบ้างนะคะคุณป้า เผื่อคุณป้าอาจจะชอบ มีแบบไม่ใส่นมใส่เนยนะคะ อย่างสเต็ก สลัดผักเพื่อสุขภาพน่ะค่ะ"
แวนเองก็ไม่ยอมแพ้พยายามงัดข้อดีของตนออกมาอวด
"จ๊ะ ขอบใจมาก ถ้าป้าอยากทานเดี๋ยวป้าบอกนะจ๊ะ"
คุณอภิสราตัดบท ภูมิบุญยืนอยู่ห่างออกไปคอยรับใช้คุณอภิสรา พอกินเสร็จโดยปกติคุณอภิสราจะรับของหวานหรือของว่างที่หน้าโทรทัศน์แต่วันนี้ขอตัวไปนั่งคุยกับจันทร์ที่บ้านคนงาน ภูมิบุญจึงเก็บกวาดโต๊ะ
"ไอ้ ภูมิ มึงชงกาแฟให้กูหน่อยดิ"
โตโต้ใช้ภูมิบุญแล้วไปนั่งคลอเคลียอยู่กับ แฟนสาวหน้าโทรทัศน์
"อุ๊ย แวนเอาด้วยค่ะ ของพี่เอาดีแคปนะคะน้องภูมิ"
แวนร้องสั่ง ภูมิบุญนิ่งรีบเก็บกวาด แล้วไปชงกาแฟมาให้ตามที่นายคนใหม่สั่ง
"อะไรวะ กาแฟบ้าอะไร ใครบอกให้มึงใส่ครีมใส่น้ำตาล กูจะกินกาแฟดำ"
โตโต้โวยวาย วางแก้วกาแฟกระแทกโต๊ะจนกาแฟกระฉอกเลอะโต๊ะ
"อ๊าย นี่มันไม่ใช่ดีแคปนี่คะ รู้จักไหมคะน้องภูมิดีแคปน่ะคะ หรือกินแต่กาแฟตามรถเข็นไม่เคยรู้เหรอคะ"
แวนเหน็บแนม ภูมิบุญได้แต่เม้มปากรีบหาผ้ามาเช็ดโต๊ะ
"ไปเอามาใหม่"
เสียงห้วนดุ ภูมิบุญได้แต่ก้มหน้าเช็ดโต๊ะ สูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกๆเข้าไว้ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าสองคนนี้ไม่มีจุดประสงค์ดี
"โอ๊ย เจ็บแวน"
โตโต้เหวี่ยงตัวออกเมื่อแฟนสาวจับโดนแขน
"เอ๊ะ เป็นอะไรค๊ะโต้ ตายแล้วไปโดนอะไรมา"
แวนเปิดแขนเสื้อขึ้นดูรอยยาวเริ่มกลายเป็นสีเขียวคล้ำ
"หมาฟัดมา หมาที่มาอาศัยบ้านเขาอยู่น่ะแวน มันเลี้ยงไม่เชื่อง"
สายตามองภูมิบุญเหมือนตัวแมลงน่ารังเกียจตัวหนึ่ง มันเต็มไปด้วยความขยะแขยง
"ต๊าย หมาเลี้ยงไม่เชื่องแบบนี้อย่าเลี้ยงสิค๊ะโต้ ไล่มันไปเลยค่ะ เลวที่สุด ดูซิ โต้ของแวน เจ็บมากไหมค๊ะ"
ภูมิบุญรีบเดินออกไปจากบริเวณนั้นทันที ในใจรู้สึกโกรธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ คนพวกนี้ขยันมาหาเรื่องเขาเสียจริง ภูมิบุญเดินกลับมาพร้อมกาแฟดำสองถ้วย
"กูไม่อยากกินแล้ว เสียอารมณ์ เออ มึงไปเอารองเท้าหนัง เฟอรากาโมมาขัดให้กูหน่อย พรุ่งนี้กูจะใส่"
โตโต้ชี้ไปที่ตู้รองเท้าหน้าบ้าน แต่เขาไม่ได้ใช้มือชี้ ยกเท้าขึ้นชี้ปลายเท้าไปทางประตุหน้าบ้านภูมิบุญหน้าแดงเม้มปากแน่น
"ทำไม ทำไม่ได้เหรอ พ่อคนโปรด กูใช้แค่นี้เม้มปากเลยเหรอ"
โตโต้เหน็บมองหน้าภูมิบุญ ที่ได้แต่ก้มหน้าเม้มปากกัดฟันอยู่
"อุ๊ย ขัดรองเท้าเป็นใช่ไหมค๊ะ งั้นเช็ดให้พี่ด้วยสิคะน้องภูมิ ปราดาพี่น่ะเมื่อกี๊เดินมาฝุ่นเกาะ เอาให้นิ้งไปเลยนะคะ"
แวนเอาบ้างช่างเป็นคู่ที่เข้ากันได้ดีจริงๆ ภูมิบุญยอมเดินไปที่ตู้รองเท้าหยิบรองเท้าคู่ที่ว่าออกมาเช็ด แล้วนั่งลงขัด
"เออ อยู่บ้านเขาน่ะทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้าง อย่ามาเกาะเชิดหน้าลอยตาอยู่"
โตโต้เดินไปหาเรื่อง แวนเองก็เดินตามไปเกาะแขนยืนดูแล้วยิ้มเยาะอยู่
"อุ๊ย เกาะเหรอค๊ะ เหมือนอะไรน้า parasite หรือเปล่าคะโต้ ภาษาไทยเขาเรียกอะไรนะคะ"
แวนเสริมหน้าตายิ้มเย้ยหยัน
"กาฝาก จ๊ะ"
"ต๊าย ชื่อน่าเกลียดจังนะคะ แวนล่ะเกลียดจริงๆ พวกกาฝากเนี่ย อึ๋ย ไม่อยากจะคิดขยะแขยง"
ไม่พูดเปล่าแสดงสีหน้าท่าทางอีก ภูมิบุญรู้สึกหนักหน้าร้อนผ่าวไปทั่วพยายามทำหูทวนลม รีบขัดรองเท้าเสร็จก็เก็บไว้ที่เดิม ภูมิบุญลุกจากที่ทันที
"อ้าว แล้วไม่เช็ดของชั้นล่ะ"
"เออ ทำไมมึงไม่เช็ด"
โตโต้โวยวาย กันทางภูมิบุญไว้
"ขอโทษนะครับ ผมไม่ใช่คนใช้ที่บ้านของคุณ"
"ต๊าย เห็นมั้ยคะโต้ เด็กคนนี้ร้ายกาจที่สุด"
"มึงเช็ดเดี๋ยวนี้ อย่ามาทำเป็นปากดี"
"เพื่ออะไรครับ ที่ผมเช็ดให้คุณโตโต้ เพราะคุณโตโต้คือนายโดยตรง คุณเป็นใครจะมาให้ผมเช็ดรองเท้าให้"
ภูมิบุญเหลืออดโพล่งออกไป
"เช็ด กูบอกให้มึงเช็ดมึงก็ต้องเช็ด"
โตโต้ขึ้นเสียง มองหน้าภูมิบุญหมายจะให้บาดลึกเข้าไปในร่าง ภูมิบุญยกริมฝีปากขึ้น
"ได้"
ว่าแล้วก็เอานิ้วเท้าแม่โป้งคีบรองเท้ากับนิ้วชี้ขึ้นมา
"ว๊าย ทรามมาก"
"มึงกล้าดียังไง"
โตโต้ผลักเข้าที่อกของภูมิบุญจนเซไป
"ทำไมครับ รองเท้านี่เขาไม่เอาตีนใส่เหรอ หรือคุณซื้อมากราบ"
"ไอ้ภูมิ"
เสียงตวาดดังลั่นบ้าน โตโต้ง้างมือจะชกหน้าภูมิบุญ
"อะไรกันๆ มีอะไรเสียงดังออกไปถึงข้างนอกแล้ว"
คุณอภิสราปรี่เข้ามาหา มองหน้าทั้งสามอย่างประหลาดใจ
"คุณป้าคะ น้องภูมิเขาแสดงกริยาที่ไม่ดีน่ะคะ แวนไม่เคยเจอคนกริยาต่ำแบบนี้มาก่อน"
แวนใส่จริตทำท่าตกใจวิ่งเข้าหาคุณอภิสรา
"ว่าไงโต้ มีอะไรกัน"
คุณอภิสราไม่ได้สนใจแวนแต่อย่างใดมองจ้องหน้าลูกชาย ที่ตอนนี้หน้าเปลี่ยนสีแล้ว
"เอ่อ คือ"
"คุณท่านครับ ผมผิดเองล่ะครับ ที่ทำกริยาต่ำทรามใส่คุณทั้งสอง"
ภูมิบุญชิงพูดสีหน้ายังราบเรียบแม้ในใจจะสั่นไหวแล้วก็ตาม
"อะไรกันจ๊ะภูมิ อะไรกันกริยาต่ำทราม"
คุณอภิสราเดินเข้ามาหาภูมิบุญแล้วมองดูรอบๆ
"คือ คุณโตโต้วานให้ผมขัดรองเท้าให้น่ะครับ ผมทำเสร็จแล้ว คุณแวนก็ให้ผมเช็ดรองเท้าให้ด้วย ผมไม่ได้ทำครับ"
"หือ อะไรน๊ะ อะไรกันตาโต้ ใครสั่งใครสอน เรามีสิทธิ์อะไรมาใช้น้องเขาแบบนี้ ภูมิไม่ใช่คนใช้ เกินไปแล้วนะ ไปเอานิสัยอันธพาลแบบนี้มาจากไหน แม่ไม่เคยสอน"
คุณอภิสราขึ้นเสียงมองหน้าลูกชายที่ก้มหน้านิ่งอยู่
"คุณ ป้าคะ แล้วมัน เอ่อ น้องภูมินี่เข้ามาอยู่ในฐานะอะไรล่ะคะ ทำไมใช้แค่นี้ทำไม่ได้"
แวนดอดขึ้นโตโต้จับแขนแวนไว้เพราะสีหน้าสีตาของเธอดูเหมือนจะเหลืออดเต็มที
"อยู่ในฐานะอะไรมันเป็นเรื่องของคนในบ้านนี้นะจ๊ะ ป้าไม่จำเป็นต้องบอกให้หนูทราบ"
"แม่ ผมก็เห็นว่าน้องมันว่างก็เลยวานหน่อย แต่ทำไมต้องเลือกปฏบัติด้วยล่ะครับ แวนเป็นแขกของผมนะ แล้วคราวหลังเวลาผมพาลูกค้ากลับมาที่บ้าน จะทำแบบนี้ไหม"
โตโต้แถไปซึ่งมันไม่เกี่ยวกันเลย
"ถ้าลูกค้าที่มาบ้านมาใช้คนในบ้านของชั้นให้ขัดรองเท้า ชั้นก็ไม่ขอร่วทำธุรกิจด้วย เอาอะไรคิดโต้ นี่น่ะหรือที่ไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนา ทำไมดูถูกคนแบบนี้ แม่ผิดหวังในตัวเรามาก"
"คุณท่านครับ ผมกราบขอโทษคุณท่านนะครับ ที่ทำให้วุ่นวาย ผมขอโทษจริงๆครับ เดี๋ยวผมเช็ดรองเท้าให้คุณแวนเองครับ ขอโทษนะครับคุณแวนที่แสดงกริยาไม่ดี ผมมันเป็นเด็กบ้านนอกไม่ได้รับการอบรม อย่าถือสาหาความนะครับ"
คุณบุญตีจริตใส่คุณอภิสราไม่ยอมน้อยหน้าเหมือนกัน ทำหน้าเศร้าก้มลงไหว้
"ตายแล้วๆ ไม่ได้นะลูก อย่ามาทำแบบนี้ ป้าไม่ยอมนะ จะใช้ทำอะไรก็ใช้ไปนี่มาใช้ขัดรองเท้า มันจะเกินไปแล้ว ทำอะไรไว้หน้าฉันบ้างนะตาโต้ ภูมิแม่เป็นคนยอมรับให้เข้ามาอยู่ในบ้านนี้ ในฐานะลูกของจันทร์ ไม่ใช่คนใช้ จันทร์เองก็ไม่ใช่คนใช้ แม่ไม่เคยเลี้ยงคนให้เป็นข้ารองมือรองตีน แม่จ้างเขามาช่วยงานในบ้าน แม่บอกไปแล้วนี่โต้เรื่องนี้ อย่าทำแบบนี้กับน้องอีก ถ้าแม่รู้เราต้องคุยกันยาว เอาล่ะภูมิกลับไปนอนเถอะจ๊ะ พรุ่งนี้ต้องไปเรียนแต่เช้านี่"
คุณอภิสราพูดเสียงดังฟังชัด น้ำเสียงที่ประกาศิตยุติเรื่องทุกอย่าง แวนเม้มปากแค้นฝังอยู่ในใจ พอลับตาคุณอภิสราภูมิบุญยกริมฝีปากขึ้นทันที มองทั้งคู่อย่างเหยียดหยัน
"แก จำไว้นะ"
แวนกัดฟันกำมืออยู่ โตโต้เลยความโกรธไปแล้ว เขาแค้นอยู่ในใจหาวิธีที่จะแก้เผ็ดคืนให้ได้ ภูมิบุญเดินกลับไปที่ห้องของตน ในใจตอนนี้วุ่นวายสับสนไปหมด เรื่องที่ไม่น่าจะเกิดก็เกิดขึ้น ถ้าแม่รู้เข้าคงโดนดุเอาแน่ๆ ภูมิบุญอาบน้ำไปแต่ในใจกลับร้อนรน ความเย็นฉ่ำของน้ำที่ไหลลงมาราดตัวไม่ได้ช่วยดับไฟที่เผาอยู่ในใจได้เลยแม้แต่น้อย พออาบน้ำเสร็จก็เปลี่ยนเสื้อผ้ารีดผ้าเตรียมไว้ใส่ทั้งอาทิตย์
"ปังๆๆๆ"
เสียงเคาะประตูดังขึ้น แม้ดังไม่มากแต่ก็รู้ว่าผู้ที่เคาะมีเรื่องร้อนใจ ภูมิบุญลังเลอยู่ครู่ใหญ่ เสียงทุบประตูยังดังอยู่ ภูมิบุญเดินไปเปิดประตูออก
"เพี๊ยะ"
หน้าของภูมิบุญหันไปอีกทางตามแรงตบ รู้สึกชาไปทั้งใบหน้า ยังไม่ทันเรียกสติคืนมาก็โดนผลักให้เข้าไปในห้อง
"เก่งนักใช่ไหมมึง"
โตโต้หน้าตาดูโหดเหี้ยมดุร้ายกัดกรามจนปูดโปนนูนออกมา
"ปากเก่งนักใช่ไหมมึง"
"เพี๊ยะ"
แรงตบของผู้ชายที่ไม่ใช่เกย์ ไม่ใช่สตรี เขาง้างมือเต็มวงแขนหวดเข้าไปที่ใบหน้าของภูมิบุญอีกรอบ หน้าของภูมิบุญหันไปอีกทางโดยไม่ทันตั้งตัว เลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก พอเรียกสติกลับมาได้
"ปึ๊ก"
"โอ๊ย ไอ้"
ภูมิบุญกำหมัด ต่อยไปที่ท้องของโตโต้ทันที แม้จะตัวเล็กกว่าแต่ก็พอมีแรงยัดเข้าไปกลางช่องท้อง โตโต้ตัวงอลง
"มึง กูจะฆ่ามึง"
เขากระโจนจะเข้าหาภูมิบุญอีกรอบ
"เข้ามา เข้ามาเลย"
ภูมิบุญหยิบเตารีดที่รีดผ้าค้างอยู่ขึ้นขู่
"เข้า มาสิ คุณโตโต้ รออะไร อยากลองไหมเตารีดร้อนๆน่ะ"
โตโต้ชะงักอยู่กุมท้องกัดฟัน
"มึง มึงทำให้แฟนกูโดนแม่กูว่า มึงต้องเจอดีแน่"
"ช่วยไม่ได้ อยากมาวอนหาเรื่องเอง ถ้าผมจะเจอดี คุณโตโต้ก็ระวังจะเจอเลวด้วยล่ะ ดีมาเยอะแล้ว อยากเห็นไหมว่าเลว เขาเลวกันยังไง"
ภูมิบุญเดินเข้าหา ในมือกำเตารีดไว้แน่น โตโต้ถอยไปหลังชนประตู
"มึง มึงจะทำอะไร"
เสียงของโตโต้เริ่มสั่น เพราะภูมิบุญปรี่เข้าใกล้จวนตัว ปากก็แสยะยิ้มอย่างสะใจ
"ทำไม กลัวเหรอ อย่าบีบให้ผมร้าย ผมไม่ใช่จะก้มหัวให้ใครง่ายๆ"
"ปากดีนะ มึง"
"ใช่ ปากดี ไม่ดีแต่ปากด้วย ออกไปจากห้องผมได้แล้ว ก่อนที่ผมจะเอาเตารีดทาบหน้าคุณ"
ภูมิบุญขู่เดินปรี่เข้าหาโตโต้ รายนั้นรีบถอยหลังออกจากประตูไปทันที
"มึงจำไว้นะไอ้ภูมิ กูไม่ปล่อยให้มึงอยู่อย่างเป็นสุขแน่"
โตโต้ขู่ก่อนจะก้าวออกไป
"เดี๋ยว ถ้าผมอยู่ไม่สุข คุณโตโต้ก็ระวังตัวไว้ด้วย อย่าทำให้ผมเลว"
ภูมิบุญพูดตอบอย่างไม่เกรงกลัว พอโตโต้ออกจากห้องไปภูมิบุญก็ปิดประตูใส่กลอนแน่นหนา เก็บเตารีดแล้วล้มลงเตียง คว้ารูปยายขึ้นมาดู
"ยายจ๋า ทำไม ทำไมภูมิต้องมาเจอคนพวกนี้ ภูมิไม่อยากจะสู้แล้ว"
ภูมิบุญปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอาบหน้า ความปวดร้าวที่กร่อนลึกเข้าไปในใจมันสะท้อนออกมา ความแข็งแกร่งที่เขาสร้างขึ้นมาเป็นกำแพงกั้นกำบังแต่พออยู่คนเดียวมันพัง ทลายหายไปหมด เหลือเพียงความอ่อนแอที่แผ่ปกคลุมหัวใจ ภูมิบุญสะอื้นไห้อยู่บนเตียง ใบหน้าก็ร้าวแปลบเลือดที่ไหลซึมออกมายังไม่ยอมหยุดแม้จะกลืนกินมันลงคอไปทุกหยาดหยด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น