พอลืมตาตื่นขึ้นมาตอนสายโตโต้ก็รู้สึกเพลียตามร่างกายอย่างประหลาด จริงสินะเมื่อคืนเจอข้าศึกมาบุกถึงห้อง พอคิดถึงลีลาท่าทางของคนตัวเล็กเมื่อคืนก็ยิ้มแสยะออกมา ที่แท้ก็เป็นเกย์หื่นกามกระหายอยากในเพศชายเหมือนเกย์คนอื่นๆที่เขาเคยเห็นมา ใบหน้าที่หยิ่งยโสมันเป็นแค่เปลือก คำพูดที่เสียดแทงใจมันเพียงเป็นการสร้างภาพทำให้ตัวเองดูดีขึ้นมา แต่สิ่งที่ทำเมื่อคืนมันคือส่วนลึกของหัวใจ ก้นบึ้งของความรู้สึก คือสันดาน โตโต้พลิกกายขยับลุกจากเตียง พอทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เดินไปนั่งหน้าโต๊ะทำงาน สายตาเหม่อลอย "ฉันเกลียดเกย์ ฉันเกลียดแกไอ้ภูมิ" โตโต้พูดกับตัวเองสายตาเคียดแค้นชิงชัง "สันดานเกย์มันก็เหมือนๆกัน เลว!" โตโต้ขบกรามแน่น เอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ตรงหน้า ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นมันยังตราตรึงในหัวของเขาเด่นชัดอย่างไม่มีทางที่จะลบเลือนไป วันที่เขาได้รับความอัปยศอดสู วันที่เขาเกลียดคนเพศนี้จับใจ พอเครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานเขาก็เลื่อนเมาส์ไปคลิ๊กที่แฟ้มส่วนตัว พอเมาส์คลิ๊กที่แฟ้มนั้นหน้าจอก็กระเด้งขึ้นมาให้ใส่รหัสป้อนเข้าไปเพื่อดู โตโต้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะป้อนรหัสเข้าไป แฟ้มนี้มันเป็นแฟ้มรูปภาพที่เขาคัดลอกมาจากเวบไซค์ก่อนหน้าที่จะไปเรียนต่อที่อเมริกา พลันภาพในอดีตก็ฉายผุดขึ้นมา
"เฮ้ย ไอ้โต้วันนี้มึงไปแดกเหล้าที่ห้องกูไหม"
พีคือเพื่อนสนิทของโตโต้ตั้งแต่ชั้นมัธยมห้า แม้จะไม่สนิทมากแต่พีก็รู้ว่านิสัยของโตโต้เป็นคนยังไง ถ้าเวลาอยู่ที่บ้านเขาจะเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย แต่ถ้าหลุดรั้วบ้านออกมาแล้ว เขาคือหัวโจกที่พาเพื่อนๆหนีเรียน ใจนักเลงไม่ได้สนใจใคร
"ทำไมวันนี้วะ เดี๋ยวแม่กูสงสัย"
"ไอ้นี่ ก็ฉลองก่อนสอบไง ไปหน่อยเถอะมึง มึงก็โทรบอกแม่มึงดิว่าวันนี้ไปนอนบ้านกู ติวข้อสอบไง"
พีเสนอความคิด โตโต้ก็นิ่งคิดอยู่แล้วจึงพยักหน้าเออออไปตามเพื่อน โทรศัพท์ไปขออนุญาติมารดาโกหกว่าจะไปค้างบ้านเพื่อนเพื่อติวหนังสือก่อนสอบ ในด้านความคิดของมารดาแม้จะไม่อยากให้ลูกของตนไปนอนค้างอ้างแรมที่อื่น แต่ด้วยเหตุผลทางวิชาการที่บุตรชายยกขึ้นมาอ้าง หัวอกคนเป็นแม่ย่อมมองเห็นอนาคตของลูกสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด คุณอภิสราจึงยินยอมแต่โดยดี
สถานที่กินเหล้าก่อนสอบคือบ้านของพี มีเพื่อนไปด้วยอีกคนซึ่งอยู่ในกลุ่มเหมือนกันชื่อโป้ง พีมีพี่ชายคนหนึ่งที่มีบุคลิกลักษณะกระเดียดออกไปทางหญิงมากกว่าจะเป็นพี่ชาย คืนนั้นที่บ้านของพีมีเพียงพี่ชายกับเขาเองที่อยู่บ้านพ่อกับแม่ไปต่างประเทศ ทั้งสามกินเหล้าในห้องของพีร้องรำทำเพลงกันอยู่อย่างสนุกสนาน เพราะไม่จำเป็นต้องเกรงใจใคร พี่ชายของพีเองก็ดูจะเป็นสุขใจอยู่มากเพราะในใจลิงโลดที่ได้เห็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีมาเยือนถึงบ้าน
"พี แกจะเอาเหล้าอีกไหมอ่ะ เดี๋ยวชั้นไปซื้อให้"
เสียงที่มีจริตแปร่งๆไม่สมชายดังขึ้นเมื่อประตูห้องของพีเปิดออก สายตาไม่ได้มองที่น้องชายของตัวเองแต่จับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเรือนร่างของโตโต้ที่หน้าเริ่มแดงตาปรือ ที่พี่ชายมองข้ามโป้งไปเพราะโป้งเองเป็นคนตัวเล็กผิวแทนๆ แต่โตโต้ตัวสูงใหญ่ผิวขาวสะอาดตาอีกทั้งใบหน้าที่หล่อเหลาคมคายเด่นกว่าใคร
"เฮ้ย เอาอีกป่ะวะ เดี๋ยวเจ๊กูไปซื้อให้"
พีหันไปถามเพื่อนที่นั่งคอเริ่มตก ทั้งสองพยักหน้า
"ต๊าย ไอ้พีมาจงมาเจ๊อะไรกันล่ะ เดี๋ยวเถอะแก เออ ออกมานี่หน่อยสิมีเรื่องจะคุยด้วย"
สายตายังหวานฉ่ำมองหน้าของโตโต้อยู่ รายนั้นยังไม่ได้สนใจมองเพราะมัวยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกอยู่
"มีอะไรเจ๊"
"นี่พี เพื่อนแกน่ะ คนตัวขาวๆ ชื่อโตโต้ใช่ไหม ชั้นอยากกินว่ะแก"
พี่ชายของพีบอกจุดประสงค์ออกไปโดยไม่ปิดบัง ตัณหาที่พยายามเก็บซ่อนไว้มันดันออกมาจนล้นจุกคอ แสดงความกระหายใคร่อยากออกมา กิเลสหนาครอบงำกดให้จิตลงสู่ที่ต่ำ
"เฮ้ย เป็นบ้าเหรอเจ๊ ไม่ได้หรอกเดี๋ยวมันเตะเอา ไอ้นี่มันยิ่งโมโหร้ายอยู่นะ"
"อ้าว แกก็มอมให้มันเมาสิวะ นี่แกอยากได้ไม่ใช่เหรอ พีเอสสามน่ะ"
"ห๊า จริงเหรอเจ๊ เจ๊จะซื้อให้ผมจริงๆเหรอ"
"เออ แต่แกต้องให้ฉันกินเพื่อนแก"
ข้อเสนออุบาศก์ของชายที่เรียกตัวเองว่าพี่ชาย บุคคลซึ่งน่าจะมีวุฒิภาวะมากกว่าคนที่เป็นน้องชาย กลับเอาของเข้าล่อเพื่อให้เขาทำสิ่งที่เลวร้ายกับเพื่อนที่เขาป่าวประกาศว่าเป็นเพื่อนสนิท ผู้เป็นพี่เห็นแก่ตัณหาราคะส่วนตัว ผู้เป็นน้องมองเห็นแต่สิ่งของที่ผู้เป็นพี่เอาล่อ
"ตกลง เจ๊ไปซื้อเหล้ามาเลย อย่ากลับคำนะ"
"ได้ พอเมาแล้วแกก็พามันมาที่ห้องชั้น"
สองพี่น้องตกลงกันอยู่ข้างนอก เพื่อนอีกสองคนนั่งกินเหล้าอยู่ข้างในไม่ได้รู้สึกว่าภัยกำลังเข้ามาใกล้ตัว โตโต้เริ่มเมาพูดเสียงอ้อแอ้เริ่มเปลี่ยน
"ไปนานจังวะ ไอ้พี ไหนล่ะเหล้า"
"เออ เจ๊กูออกไปซื้ออยู่ แดกๆไปก่อนมึง วันนี้เอาให้อ๊วกไปเลย"
"เฮ้ย ไอ้พี พี่มึงเป็นตุ๊ดเหรอวะ"
โป้งโพล่งออกมาหน้าแดงก่ำ
"ไอ้นี่ เขาเป็นเกย์โว้ย อย่าสอดรู้แดกๆเข้าไป"
โตโต้ไม่ได้คิดอะไรเพราะเห็นว่าทาท่างของพี่ชายของพีก็เรียบร้อยดี ยังมาอาสาจะไปซื้อเหล้าให้อีกคงนิสัยดีอยู่ไม่น้อย แต่หารู้ไม่ว่าเขามีความต้องการที่อยากจะลิ้มลองรสชาติจากเรือนร่างของตน พอพี่ชายของพีกลับมาก็เอาเหล้ามาให้อีกขวดใหญ่พร้อมกับแกล้ม อยู่คุยด้วยพักหนึ่งก็ขอตัว แต่ก่อนออกจากห้องไปก็ทำตาเล็กตาน้อยส่งสัญญาณให้น้องชายของตน พอทั้งสามเริ่มเมาได้ที่ก็มีสภาพที่ไม่น่าดู เพราะต่างคนต่างนอนเกลือกกลิ้งอยู่กับพื้น พีเองรักษาระดับบริมาณเหล้าที่ดื่มเข้าไปเพื่อให้มีสติที่จะลากโตโต้ไปให้พี่ชายของตนได้ พอเห็นโตโต้เมาจนพูดจาไม่รู้เรื่องก็ลากโตโต้ออกจากห้องไป
"มึงจะพากูปายหนายไอ้พี"
โตโต้ทำตาปรือเสียงลากยาน
"ไปนอน"
คนที่ลากเพื่อนไปตอนนี้หัวใจเต้นแรง กลัวว่าโตโต้จะโกรธก็กลัว แต่อยากได้เครื่องเล่นเกมส์รุ่นใหม่ล่าสุดที่พี่ชายยื่นข้อเสนอก็อยากได้ เขาตัดสินใจเลือกข้อหลัง เขาเลือกวัตถุมากกว่าความเป็นเพื่อน พี่ชายของเขายืนรออยู่หน้าห้องอยู่แล้ว ท่าทางกระสับกระส่ายกระวนกระวายกระหายใคร่อยาก พอเห็นน้องชายตัวเองลากเพื่อนมาให้ก็ดีใจรีบเข้าไปช้อนปีกของโตโต้
"มา ชั้นจัดการเอง"
"พี่อย่าทำอะไรมันรุนแรงนะ"
"เออน่า แกออกไปได้แล้ว"
ปากก็เป็นห่วง แต่กิเลสหนาบังตาเขาคงไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง เพราะมันไม่ใช่เรือนร่างเนื้อตัวของเขาเอง พอพี่ชายของพีลากโตโต้เข้าไปในห้องก็วางร่างโตโต้ไว้บนเตียง ตอนนี้เจ้าของร่างนอนแผ่หราอยู่บนเตียง กลิ้งไปกลิ้งมาเพราะฤทธิ์ของสุรา พี่ชายของพียืมมองอยู่ยิ้มแสยะออกมาอย่างดีใจ พลันก็ไปหยิบกล้องดิจิตอลออกมาจากลิ้นชัก เขาถ่ายรูปทุกอริยาบทของโตโต้จากอยู่ในชุดนักเรียนที่ชายเสื้อหลุดออกจากกางเกงตั้งแต่แรก จนเสื้อหลุดจากตัวไป กางเกงนักเรียนถูกดึงออกไป เหลือปราการด่านสุดท้าย พี่ชายของโตโต้กระหายในภาพที่เห็นโผเข้าหาปลุกเร้าอารมณ์จนส่วนสำคัญของร่างกายคนที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่ตื่นตัว กางเกงชั้นในถูกดึงออกไป พร้อมกับภาพถ่ายที่เพิ่มปริมาณมากขึ้นเป็นเท่าตัว พี่ชายของพีใช้ปากกับส่วนนั้นให้โตโต้ โรคจิต!! เพราะเขาถ่ายภาพให้เห็นแต่ปากของตัวเองแต่สาดกล้องขึ้นไปให้เห็นส่วนสำคัญรวมทั้งหน้าตาของโตโต้ เรือนร่างของโตโต้ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่เห็นแต่เจ้าของร่างเพียงคนเดียว ตอนนี้เขาก็จับแข้งจับขาถ่ายภาพเก็บไว้ทุกซอกทุกมุม เขาวนเวียนทำอยู่อย่างนั้นจนเสร็จสมอารมณ์หมาย ภาพถ่ายเป็นชุดถูกถ่ายโอนข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ทันที ภาพถ่ายของวัยรุ่นชั้นมัธยมปลายที่รอสอบครั้งสุดท้ายก็จะเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ชีวิตวัยรุ่นที่แม้จะเกกมะเหรกเกเรไปบ้างแต่ก็พอให้อภัยแต่กำลังจะดับสลายไปเพราะความหน้ามืดของพี่ชายของคนที่เรียกตัวเองว่าเพื่อน! ที่กำลังถ่ายโอนข้อมูลลงสู่เวบไซค์อย่างเมามันหน้ามืดตามัว ภาพของโตโต้ถูกแพร่กระจายไปในเว็บไซค์อย่างรวดเร็ว กระทู้ที่เขาสร้างขึ้นมีผู้คนเข้าดูเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาไม่นาน ภาพถ่ายที่อยู่ในเว็บถูกคัดลอกกระจายไปเหมือนไฟลามทุ่ง โตโต้ได้สติขึ้นมาตอนรุ่งเช้า เขานอนอยู่ในห้องกับเพื่อนๆสภาพยังปกติอยู่
พอวันสอบก้าวแรกที่โตโต้เหยียบเข้าไปในโรงเรียน ก็รับรู้ได้ทันทีถึงความผิดปกติจากสายตาของเพื่อนๆที่มองดูเขา หน้าเริ่มชาร้อนวูบวาบ เสียงซุบซิบนินทาไล่หลังมาตลอดเวลา
"ไอ้โต้ มึงมานี่หน่อย มาดูนี่ ไอ้เชี่ย งานเข้าแล้วมึง"
โป้งเดินมาลากแขนโตโต้ไปห้องคอมพิวเตอร์
"อะไรวะไอ้โป้ง ใครตายวะ"
"ไอ้ห่า มึงนั่นล่ะ กูว่าแล้ว ไอ้สัตว์ พี่ไอ้พีเล่นมึงแล้วไหมล่ะ"
โตโต้ยังงงอยู่กับคำพูดของโป้ง จริงสินะแล้วพีหายไปไหน พอโป้งเปิดคอมพิวเตอร์แล้วพิมพ์เข้าไปในเวบคลิ๊กอยู่สองสามทีหน้าเวบไซค์ที่เขาต้องการเปิดให้โตโต้ดูก็ฉายออกมา โตโต้ถึงกลับผงะ กระเป๋าหลุดลงจากมือ อ้าปากค้างพูดไม่ออก
"สัตว์!!!!"
"พี่ไอ้พี่ เชี่ยที่สุด ไอ้สัตว์พีมันหลบหน้ามึงไปเลย เจอกูว่าจะเตะปากมันสักที เลว"
โตโต้ยืนนิ่งอยู่ภาพที่เห็นจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ ทั้งหน้าตาเรือนร่างมันคือเขาเอง ทุกส่วนสัดของร่างกายที่ไม่มีใครได้เห็นพร่ำพรื่อตอนนี้มันแผ่หราอยู่บนเวบไซค์นี้แล้ว
"มันอยู่ไหน"
โตโต้ตวาดดังลั่น แล้วผละออกจากห้องไปโดยมีโป้งวิ่งตามออกไป แต่วิ่งไปยังไม่ถึงไหนผ่านหน้าบอร์ดกิจกรรมโตโต้ถึงกลับทรุดเข่าอ่อน หน้าซีดเหมือนคนจะเป็นลม เหงื่อกาฬผุดขึ้นเต็มหน้าใจเต้นแรง ความอับอายแทรกเข้ามาทุกรูขุมขน ภาพที่แปะอยู่ตรงบอร์ดมันเป็นภาพชุดเดียวกันกับในเวบเมื่อครู่ โตโต้เองไม่ใช่เด็กเรียนหรือดีเด่นอะไร เกเรหัวโจกเพราะฉะนั้นคนที่ไม่ชอบขี้หน้าย่อมจะมีอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา
"เป็นไงวะไอ้โต้ หน้าตานี่เสียวมากนะมึง ปากกระเทยเด็ดเท่าปากหญิงป่ะวะ"
กลุ่มนักเรียนที่เดินตรงเข้ามาเริ่มถากถาง
"ดังโว้ยเฮ้ย เล่นเอามาลงเน็ท กะจะเป็นดาราว่างั้น"
โตโต้เม้มปากถลาเข้าคนที่พูดทันที ปล่อยหมัดไปอย่างรวดเร็วจนคนที่พูดหน้าหงายไป
"เฮ้ย ไอ้โต้"
โป้งวิ่งตามเข้าไปฉุดตัวเอาไว้
"สัตว์ มีความสุขมากเหรอที่ได้เห็นคนอื่นเขาเป็นทุกข์น่ะ"
โป้งร้องด่าออกไป
"ทุกข์เชี่ยไรวะ มึงดูหน้ามันในรูปดิ เคลิ้มเชียวนะมึงคงเสียวว่ะ ฮ่าๆๆ"
โตโต้ลมออกหูไม่รู้ว่าโกรธหรืออายแต่มันระคนปนกันจนแน่นคับอก โป้งกอดตัวไว้แน่นเพราะโตโต้จะถลาเข้าไปอีก
"ไปก่อนไอ้โต้ ไปตั้งหลักก่อน"
โป้งรีบลากโตโต้ออกมาจากโรงเรียนทันที
"มึงโชคร้ายว่ะไอ้โต้ ไอ้เชี่ยพีมันไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย สัตว์เลวระยำ ไม่น่าคบกับมันเลย"
โป้งพูดออกมานั่งอยู่ข้างๆโตโต้ตรงป้ายรถเมล์ ยิ่งได้ยินยิ่งประมวลผลความคิดโตโต้จนทางไป น้ำตาไหลออกมา
"เฮ้ย ไอ้โต้ ใจเย็นๆ เดี๋ยวกูจัดการไอ้พีให้"
โป้งพยายามปลอบเพื่อน แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดีนอกจากนั่งตบบ่าอยู่ มันเป็นวันสุดท้ายที่โตโต้ไปโรงเรียน เขาไม่ยอมออกจากห้องอีกเลย มารดาถามยังไงก็ไม่ยอมปริปาก แต่เรื่องนี้มันก็หนักหนาเกินไปที่จะแก้ไขได้ด้วยการนิ่งเงียบ มันใหญ่โตเกินไปที่จะปล่อยให้มันเงียบเลือนหายสนิทไปเอง คุณอภิสรารู้เรื่องจากทางโรงเรียนและจากการโทรไปสอบถามโป้ง
"แม่ไม่ยอม แม่จะฟ้อง"
"แม่ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว"
คุณอภิสราเกรี้ยวกราดบุคลิกที่เป็นหญิงเด็ดเดี่ยวไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้ผ่านเลยไปง่ายๆ แต่บุตรชายก็คงปวดร้าวอับอายไปไม่น้อย ยิ่งสภาพของลูกชายคนเดียวหัวแก้วหัวแหวนต้องมาทนทุข์ทรมานอยู่อย่างนี้ ท่านเอย หัวอกคนเป็นแม่ยิ่งกลัดหนองชอกช้ำมากกว่าบุตรชายหลายเท่านัก โบราณท่านว่าลูกชายจัดงานศพให้มารดาว่าเศร้าแล้ว แต่ถ้าหากมารดาใดได้จัดงานศพให้บุตรของตน บุตรที่อยู่ในอุทรเบ่งออกมาจากอก ท่านว่าทุกข์นั้นจะหนักหนาสาหัสสักเพียงใด คุณอภิสรากอดบุตรชายน้ำตาไหลอาบสองแก้ม
"ได้ลูก แม่จะส่งโต้ไปอยู่เมกา ไม่ต้องอยู่มันแล้วที่นี่"
คุณอภิสราเองแท้จริงไม่อยากให้ลูกพรากจากอกไป อีกทั้งโตโต้มีแผนว่าจะเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังถนนพระรามสี่วางแผนทุกอย่างเอาไว้แล้ว แต่นี่แผนมันล่มฝันได้สลายไปแล้ว คุณอภิสราใช้อำนาจเงินซื้อใบประกาศนียบัตรให้ลูกชาย ทั้งที่เธอไม่เคยทำ แต่ด้วยเม็ดเงินที่หว่านไปทำให้โตโต้ได้ใบประกาศศนียบัตรมาอย่างไม่ยากเย็นนัก โตโต้บินจากเมืองไทยไปอเมริกาในอาทิตย์ถัดมา การเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกในชีวิตของเด็กหนุ่ม คนเดียวจากบ้านเกิดเมืองนอนข้ามน้ำข้ามทะเลไปหลายร้อยไมล์ ภาษาที่เขาไม่คุ้นเคย บ้านเมืองที่เขาไม่เคยเห็น สภาพความเป็นอยู่แม้จะดีแต่สังคมก็ไม่เหมือนกัน ความอาดูรขมขื่นมันเข้ามาในชีวิตเร็วเกินไป โตโต้ไม่มีเพื่อน ไม่มีใคร แต่คุณอภิสราก็เห็นในข้อนี้ดีได้ไหว้วานให้ญาติทางฝ่ายบิดาของโตโต้ที่ปักหลักอยู่ที่อเมริกาคอยดูแลให้ แม้จะไม่เคยติดต่อกันมานาน แต่เมื่อถึงคราวจวนตัวคุณอภิสราก็ต้องอ้อนวอนขอร้องให้เขาช่วย โตโต้พอคลายความเหงาลงได้บ้าง ส่วนพี่ชายของพีหนีออกนอกประเทศเหมือนกันด้วยการกระทำที่ขาดการยั้งคิด ปล่อยให้กิเลสครอบงำ เขาทำลงไปเพราะความใคร่กระหายอยากเพียงชั่วครู่ การศึกษาที่ร่ำเรียนมาถึงขั้นปริญญาบัตรไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย สังคมที่แวดล้อมสวยงามแต่ไม่ได้หมายความว่าจิตใจของเขาสะอาด พอทุกอย่างมันจบลงแต่ผลของสิ่งที่ปล่อยเข้าไปในสื่ออีเล็กทรอนิกส์มันไม่สามารถกู้คืนมาได้หมด แม้เขาเองจะรู้สึกผิดในสิ่งที่กระทำลงไป แต่ไม่นานเขาก็จะลืมเลือนมันไป แต่ตราบาปที่เขามอบให้โตโต้มันจะติดตัวเขาไปจนวันตายไม่มีทางลบเลือนไม่มีอะไรมาลบมันได้เลย ไม่แปลกที่โตโต้จะเกลียดเกย์ เข้ารู้สึกแสลงตาที่ได้เห็น เกลียดเข้าไส้ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะดีหรือเลว เขาใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาด้วยความขมขื่นมืดมน แต่ก็ทนกัดฟันผ่านปีแรกไปได้ แวนเองก็เพิ่งเข้ามาในชีวิตเขาตอนปีสุดท้าย เจอกันโดยบังเอิญที่คลับใจกลางมหานครนิวยอร์ก ด้วยความสวยเปรี้ยวของแวนสะดุดตาของโตโต้เป็นยิ่งนัก อีกทั้งลีลาบนเตียงก็ไม่เป็นสองรองใครในตอนนั้นสร้างความประทับใจให้โตโต้เป็นอย่างมาก
โตโต้กัดกรามจนปูดโปนออกมาขยับเมาส์ให้เลื่อนภาพในเวบที่เขาคัดลอกมาเลื่อนไปทีละภาพ แม้เหตุการณ์มันจะผ่านไปนานแล้ว แต่พอคิดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร พอเห็นภาพชุดนี้ครั้งใดเขาก็รู้สึกรังเกียจเดียจฉันท์บุคคลเพศนี้เข้าในเลือด ไม่แปลกที่เขาพอเห็นหน้าภูมิบุญเขาก็ดูรู้ว่าภูมิบุญไม่ใช่ชายแท้ร้อยเปอร์เซนต์ความเกลียดที่ซุกซ่อนเอาไว้ภายในใจมันพุ่งออกมา แค่เห็นหน้าก็เกลียดแม้คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน เขาเชื่อว่าเกย์ล้านคนย่อมมีคนดีคนเลวปะปนกันไป แต่ถ้าเลือกได้ ชีวิตนี้ไม่ขอยุ่งกับคนเพศนี้อีก เขาเกลียดเกย์!! เห็นหน้าภูมิบุญยิ่งเกลียดเข้าไส้ แม้บุคลิกของภูมิบุญจะแปลกแตกต่างไปจากคนที่เขาเคยผ่านพบมา แต่ก็ยังเกลียดอยู่ดี
"กูเกลียดมึงไอ้ภูมิ"
โตโต้กำมือแน่นกัดฟันสายตาแสดงความเกลียดชังออกมา แม้จะมีสัมพันธ์สวาทกันและลีลาที่ภูมิบุญปลดปล่อยออกมาเมื่อคืนมันจะสร้างความพึงใจให้กับโตโต้เป็นอย่างมาก มากกว่าการมีเพศสัมพันธ์กับใครแม้แต่แวนเองก็ตาม แต่เขาก็ไม่ได้มีใจเอียงเอนเห็นใจหรือพอใจไปในทางอื่น ความเกลียดชังที่บ่มเก็บมานานมันยังคงเด่นชัดไม่ลบเลือนไป โตโต้ปิดคอมพิวเตอร์แล้วเดินออกไปจากห้องไม่เห็นใครอยู่ในบ้าน เดินไปดูที่บ้านพักคนงานก็เงียบ เห็นอ้อยกำลังลนลานยืนหันซ้ายหันขวาอยู่
"พี่อ้อยครับ แม่ไปไหนครับ"
"อ้อ คุณโต้ คุณท่านพาน้องภูมิไปโรงพยาบาลค่ะ"
"ห๊า ภูมิเป็นอะไรครับ"
โตโต้ร้องเสียงหลงเพราะไม่คิดว่าภูมิบุญจะป่วยถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล
"ก็ไข้ขึ้นสูงค่ะ ตัวร้อนจี๋เลย เพ้อด้วย เห็นแล้วน่าสงสารมาก"
โตโต้พยักหน้าฟังอยู่แล้วคุยกับอ้อยสักพักก็เดินกลับขึ้นห้องไป นั่งคิดอยู่ว่าภูมิบุญถึงกับเป็นไข้ไปเลยเหรอ ทั้งที่เมื่อคืนเรียกร้องเอง ไม่พอจะเอาอีก ตื่นมาเห็นคราบเลือดแห้งเปรอะบนตัวของเขาอยู่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นมากถึงขนาดนี้ แต่โตโต้ก็ยิ้มออกมาอย่างสุขใจ "หึหึ อ่อนก็เป็นหรือมึงไอ้ภูมิ" โตโต้กัดฟันพูดอมยิ้มออกมา เขาบึ่งรถออกไปหาแฟนสาวทันที วันอาทิตย์ทั้งทีต้องพาแฟนสาวไปหาที่อยู่กันลำพังเสียหน่อย ไปพิสูจน์ให้รู้จริงว่ามีอะไรกันกับแวนหรือกับภูมิบุญใครเด็ดดวงกว่ากัน
"เป็นอะไรไปคะโต้ แวนทำไม่ถูกใจเหรอค๊ะ"
แวนเอ่ยถามขึ้นเมื่อเสร็จกิจ ทั้งสองนอนก่ายกอดกันอยู่บนเตียงของโรงแรมบนถนนศรีนครินทร์
"เปล่าครับ โต้คงเหนื่อย ช่วงนี้แม่หอบงานมาให้ทำกองเบ่อเร่อ แวนก็ยังเด็ดขาดเหมือนเดิมล่ะจ๊ะ"
โตโต้พูดออกไปไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำไมเมื่อคืนเขาถึงรู้สึกเหมือนกับหล่นลงมาจากตึกสูงตลอดเวลาที่ภูมิบุญขยับปาก หรือขยับกายบดขยี้เขาอยู่ แล้วทำไมตอนนี้ถึงรู้สึกเหมือนพยายามจะมีอะไรกัน มีให้มันจบไปไม่ใช่ไม่มีความรู้สึก แต่มันไม่ถึงขีดสุด โตโต้ขมวดคิ้วเข้าหากัน
"อีกรอบไหมคะโต้"
แวนยิ้มพราวเสน่ห์ พรมจูบตามหน้าอกเปลือยเปล่าของโตโต้
"ไม่ดีกว่าแวน เหนื่อยแล้ว เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกันดีกว่านะ"
โตโต้จูบหน้าผากแวนเพื่อเป็นกำลังให้ว่าเธอไม่ได้ฝีมือตกลงไปแต่อย่างใด แต่ทว่ามีคนที่เก่งกว่าผ่านเข้ามาในชีวิตแล้วเท่านั้นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น