วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

็(Heroine) ที่นี่ไม่มีนายเอก ฉากยี่สิบเจ็ด

ภูมิบุญไปเรียนได้ตามปกติแล้ว สภาพร่างกายกลับมาเป็นปกติ แม้สภาพจิตใจจะยังไม่ปกติดังเดิมก็ตาม ภูมิบุญนัดเจอกับเพื่อนที่ศูนย์การค้าที่เดิม ส่วนแทนทวีมารับไปมหาวิทยาลัยเหมือนเคย
 
"พี่แทนที่จริงไม่น่าลำบากเลยนะครับพี่แทน ภูมิไปเองก็ได้นะ วันนี้พี่ไม่มีเรียนเกรงใจจัง"
 
ภูมิบุญพูดหลังจากที่ขึ้นไปอยู่บนรถแล้ว สายตามองแทนทวียิ้มให้น้อยๆ
 
"เกรงใจอะไรล่ะภูมิ พี่เป็นแฟนเรานะ เออ แวะกินข้าวก่อนไหม หิวยังครับ"
 
แทนทวีพูดแล้วหัวเราะ
 
"เพิ่งจะกินมาครับ พี่แทนหิวเหรอ เดี๋ยวภูมิไปนั่งเป็นเพื่อน"
 
"พี่หิวนิดหน่อย งั้นแวะกินหน่อยละกันเนอะ พี่กินแป๊บเดียว"
 
แทนทวีขับรถตรงไปยังเซ็นทรัลบางนา แม้จะอ้อมไปหน่อยแต่ก็อยากอยู่กับคนที่นั่งข้างๆให้นานๆ พอได้ที่จอดรถก็เดินไปยังชั้นที่มีร้านอาหารเรียงรายกันอยู่หลายร้าน
 
"กินร้านนี้ไหมภูมิ"
 
แทนทวีบุ้ยปากไปทางร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดูค่อนข้างดีกว่าเพื่อน พอเห็นภูมิบุญส่ายหน้าทันที
 
"อ้าวไม่ชอบหรอกเหรอ งั้นไปกินที่ศูนย์อาหารดีกว่านะ จะได้มีของเลือกกินเยอะ"
 
แทนทวีบอก ภูมิบุญก็พยักหน้าตามเพราะไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้ด้วยไม่เคยมา ยังจำได้ดีที่โตโต้หลอกให้กินวาซาบิ คงจะไม่กินอีกแล้วอาหารของชาตินี้เข็ดขยาดไปอีกนาน พอกินข้าวเสร็จแทนทวีก็ไปส่งภูมิบุญที่ศูนย์การค้าที่นัดพลอยกับก้องไว้
 
"เดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับ วันนี้จะพาไปกินอาหารทะเล"
 
แทนทวีบอกก่อนที่ภูมิบุญจะลงจากรถ
 
"แหมพี่แทน กะจะขุนให้ภูมิอ้วนเป็นหมูเลยว่างั้น"
 
ภูมิบุญหยอกแทนทวีก่อนจะลงจากรถ ยิ้มแย้มเบิกบาน พลอยกับก้องนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ภูมิบุญปรี่เข้าหาพลอยที่ยังมีรอยฟกช้ำจางๆอยู่ตามพวงแก้ม
 
"พลอย เป็นไงบ้าง ยังช้ำๆอยู่เลยนะ"
 
ภูมิบุญแตะที่คางของพลอยเบาๆ เอียงซ้ายขวา
 
"อืม นี่ขนาดพี่ไพลินประร้อนประคบเย็นให้ทุกวันนะเนี่ย หายช้าเหมือนกันนะ"
 
"เดี๋ยวก็หายล่ะน่า นี่ก็จางมากแล้ว" ก้องเสริม
 
"ทำกันเกินไปแล้วนะ"
 
ภูมิบุญกัดฟันยกริมฝีปากขึ้น
 
"ไม่รู้ว่านังนั่นมันเป็นยังไงบ้างนะ อยากเห็นหน้ามันจังเลย"
 
พลอยเองก็ฉายแววตาออกมาเหมือนภูมิบุญ
 
"พอเถอะเราว่า เรื่องมันจะไปกันใหญ่ คนแบบนั้นอย่าไปใส่ใจเลย"
 
ก้องเป็นคนเดียวที่ปรามเพื่อนทั้งสอง
 
"ถ้าไม่มายุ่งกับเราอีกมันก็จะจบนะก้อง แต่ถ้ามาวอแวอีก เราก็ช่วยไม่ได้นะ"
 
ภูมิบุญพูดสายตายังคงเดิม
 
"ใช่ เราไม่ชอบทำร้ายใครนะ ไม่ชอบมีเรื่องด้วย แต่เราก็ไม่ยอมนะก้องที่ให้ใครมาโขกสับเราได้ง่าย"
 
พลอยกับภูมิบุญคิดเห็นเหมือนกัน ก้องจึงไม่อยากที่จะค้านได้แต่เงียบไป
 
"แล้วม้าว่าไปงมั่งอ่ะพลอย"
 
"โอ๊ย รายนั้นน่ะไม่ต้องห่วง ถามก้องดูสิ"
 
พลอยโบ้ยมาทางก้อง ที่นั่งทำหน้าเซ็งๆกับเพื่อนทั้งสองคนที่หัวรั้นเกินจะห้ามปราม
 
"โห หูชาเลยล่ะ แต่ท่าทางพลอยคงโดนบ่อย ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ได้ ม้าบ่นแทบโรงบาลแตก"
 
ก้องหัวเราะออกมา ภูมิบุญมองหน้าพลอยแล้วก็ยิ้มเพราะพลอยมีลักษณะที่ดูแก่นๆ ออกแนวไปทางผู้ชายเสียมากกว่าเด็กสาววัยรุ่นทั่วไป แม้หน้าตาจะสวยแต่ก็ไม่เคยแต่งหน้าทาตามาเรียนเลย ท่าทางช่างแตกต่างกับใบหน้าเสียเหลือเกิน
 
"นี่ พอเรียนเสร็จไปพาเราไปเอาของกับพี่ไพลินหน่อยสิภูมิ"
 
"ที่ไหนล่ะ"
 
"ก็ที่โรงแรมฝั่งตรงข้ามนี่ล่ะ พี่เราเป็นเซลส์อยู่ที่นั่น บอกมีของที่ทางโรงแรมทำแจกแขก เลยจะเอาให้"
 
พลอยพูดเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่ภูมิบุญก็พยักหน้า
 
"แต่อย่าเย็นมากนะพลอย พี่แทนเขาจะมารับ"
 
"แหม มารับมาส่งกันทุกวันเลยนะ ตกลงเอาแน่แล้วใช่ไหม ไอ้พี่ทงพี่แทนอะไรเนี่ย"
 
พลอยกระแนะกระแหนแต่ก็หัวเราะออกมา
 
"ดีก็เอาสิพลอย หาไม่ได้ง่ายๆนะ"
 
ภูมิบุญเองก็พูดติดตลก
 
"แต่เราว่า อย่างภูมิน่ะมีคนเอาอยู่แล้วล่ะ"
 
"ทำไมล่ะ เราไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย"
 
ภูมิบุญทำหน้าสงสัยในสิ่งที่พลอยพูด
 
"แหมภูมิ นายหน้าตาก็ดี นิสัยก็ดี มีแต่คนอยากได้เป็นแฟนทั้งนั้นล่ะ"
 
"เกินไป เราก็ธรรมดา ไม่เห็นจะดีเด่ตรงไหน ก้องยังดูหน้าตาดีกว่าเราเลย"
 
"เฮ้ย ไม่เกี่ยวกับเรานะ"
 
ก้องรีบโบกไม้โบกมือ พลอยกับภูมิบุญก็หัวเราะร่าทันที พอเรียนเสร็จก็เดินลอดใต้ทางเดินของรถไฟฟ้าใต้ดินไป เดินตรงขึ้นไปจนเกือบถึงแยกศาลาแดง พลอยหยุดโทรศัพท์หาพี่สาวถามสถานที่นัดพบ พอวางสายก็หันมาบอกเพื่อนทั้งสอง
 
"พี่ไพลินให้ขึ้นไปชั้น ๒๓ เลยอ่ะ"
 
"อืม ไปดิ"
 
" นี่โรงแรมเหรอ เรานึกว่าอาคารสำนักงานเสียอีก"
 
ก้องทำท่าไม่เชื่อว่าตึกสีน้ำตาลเทาๆนี้จะเป็นโรงแรมไปได้
 
"อย่าดูถูกนะก้อง พี่ไพลินเคยพาเรามากินข้าวแล้ว ขึ้นไปแล้วจะขนลุก"
 
"เฮ้ย ทำไมล่ะ มีผีเหรอ"
 
"บ้า ก้องนายก็พูดไปนะ"
 
ภูมิบุญหัวเราะ แล้วเดินตามพลอยเข้าไปในตัวตึก พอกดลิฟท์ขึ้นไปชั้นที่พี่สาวของตนบอก ภูมิบุญกับก้องก็เริ่มประหม่าเพราะลิฟท์ที่เคลื่อนตัวไม่เร็วมากนักไม่ช้าจนเกินไปเคลื่อนขึ้นไปถึงชั้นที่ ๒๓ ประตูลิฟท์เปิดออก ภูมิบุญกับก้องถึงกับอ้าปากค้าง
 
"อ่า"
 
"เห็นไหมเราบอกแล้ว นี่เขาเพิ่งปรับปรุงเสร็จนะ สวยใช่ไหมล่ะ โน่นๆ พี่ไพลินอยู่โน่น"
 
พลอยบอกแล้วเดินปรี่เข้าไปหาพี่สาวทันที
 
"นี่ภูมิ พี่ไพลินพี่สาวเราเอง"
 
พลอยแนะนำ ภูมิบุญยกมือไหว้ไพลินอย่างนอบน้อม
 
"อืม น่ารักอย่างที่พลอยบอกจริงๆด้วย ไปจ๊ะพี่พาไปนั่งข้างใน"
 
ไพลินพาเด็กทั้งสามเดินเข้าไปในลานตรงกลางที่ฉาบผนัง ด้วยวอลเปเปอร์นูนเป็นลวดลายวิจิตรสีแดงอิษ คั่นตรงกลางเป็นโค้งวงกว้างด้วยกระจกมีลวดลาย แสงไฟสาดขึ้นมาทำให้ล็อบบี้ของโรงแรมดูน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ไพลินพาทั้งสามเดินผ่านร้านอาหารที่มีครัวอยู่ตรงกลาง มีกระจกล้อมรอบ เดินผ่านเข้าประตูกระจกบานใหญ่ที่เปิดเองโดยอัติโนมัติ ก็เป็นบาร์นั่งทานเหล้ามองเห็นสนามม้า ไกลไปจนถึงสยามและหลังคาตึกของคณะที่ทั้งสามเรียน ไพลินมีบุคลิกที่ปราดเปรียวหน้าตาสะสวยดูดีกว่าพลอย เพราะเครื่องสำอางที่ฉาบใบหน้าไว้บางๆ แต่ลักษณะท่าทางช่างดูแตกต่างกับพลอยอย่างสิ้นเชิง
 
"อ่ะนี่พลอย เอากลับให้พี่ด้วย"
 
ไพลินยื่นถุงผ้าที่เป็นโลโก้ของโรงแรมให้พลอย
 
"อ้าว จะเอาเองเหรอพี่ ทำไมไม่เอากลับเองล่ะ เสียเวลาพลอยนะเนี่ย"
 
"เอ๊ะ พลอยนี่ เป็นพนักงานเค้าไม่ให้เอาของออก ต้องใช้น้องนี่ล่ะ เดี๋ยวไปถึงบ้านแบ่งให้ สวยนะชุดนี้ที่ทำออกมาใหม่น่ะ"
 
ไพลินพูดแล้วหันมายิ้มให้ภูมิบุญกับก้องที่นั่งมองหน้ากันเหรอหราอยู่
 
"สวัสดีค่ะ ไพลินพูดสายค่ะ อ้อได้ค่ะ พอดีอยู่ตรงล็อบบี้ เดี๋ยวเดินไปหาค่ะ ค่ะ"
 
ไพลินยกโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย
 
"นั่งรอพี่อยู่ตรงนี้ก่อนนะ ลูกค้ามาดูห้อง เอ่อ พี่เมฆคะ รบกวนขอน้ำส้มให้สามแก้วทีค่ะ"
 
ไพลินหันไปบอกพนักงาน แล้วเดินออกไปทันที
 
"สวยว่ะ ไม่อยากจะเชื่อ"
 
ก้องมองไปรอบๆตัว
 
"เห็นไหม บอกแล้ว ขึ้นมาแล้วไม่มีใครอยากจะเชื่อหรอกว่าข้างนอกที่ดูเป็นแค่ตึกเก่าๆสีทึมๆน่ะ ข้างในนี่สวยขนาดไหน"
 
"ท่าทางคงแพงนะเราว่า"
 
ภูมิบุญนั่งตัวลีบเล็กลงเพราะสถานที่มันโอ่โถงเสียเหลือเกิน ตอนนั้นมีแขกนั่งอยู่แล้วหลายโต๊ะ เสียงเพลงที่นักร้องเริ่มร้องตรงกลางของร้านอาหารส่งเสียงคลอดังไปทั่วบริเวณ
 
"สวัสดีครับน้องพลอย"
 
เสียงทุ้มดังมาจากข้างหลังขณะที่ทั้งสามกำลังดื่มด่ำ กับบรรยากาศ ทั้งสามหันขวับไปทันที
 
"ไอ้"
 
ก้องร้องออกมาทำหน้าตกใจ
 
"มากินข้าวที่นี่เหรอครับ พี่ก็มากินข้าว บังเอิญจังเลย"
 
กายยืนเด่นอยู่ เขาระบายยิ้มออกมาสายตาไม่ได้สนใจมองใครอื่นนอกจากพลอย
 
"โลกกลมจริงโว้ย"
 
พลอยพูดออกมาลอยๆ
 
"สั่งอะไรกินครับ ไปนั่งกับพี่ไหม พี่มากับเพื่อน"
 
กายชวนแล้วหันไปยิ้มให้ทุกคน ภูมิบุญยิ้มแห้งๆไม่รู้จะ พูดอะไรดีจึงยกมือไหว้ตามารยาท แต่พลอยกับก้องกลับเมินหน้าหนี
 
"ไม่อ่ะค่ะ คือจน สำเหนียกตัวเอง มานั่งกินน้ำนี่ล่ะค่ะ เดี๋ยวก็ไป"
 
พลอยโพล่งออกมา กายกลับยิ้มอย่างพอใจ
 
"อ้าว ไม่หิวเหรอครับ เดี๋ยวพี่เลี้ยงข้าว"
 
"ขอบคุณค่ะ แต่ไม่เป็นไร แต่ถ้าพี่ใจดีมากรวยมาก หนูว่าไปเลี้ยงเด็กด้อยโอกาสดีไหมคะ จะได้กุศลเผื่อจะได้ส่งผลบุญให้พี่รวยกว่าเดิมไงคะ เมื่อไหร่จะมาเนี่ยพี่ไพลิน"
 
พลอยประชดหันหลังให้ทันที ภูมิบุญแตะแขนพลอยเบาๆ
 
"ถ้าอยากกินข้าวเชิญที่โต๊ะโน้นนะครับ"
 
กายเห็นทีจะไม่ได้เรื่องจึงรีบกลับไปตั้งหลักก่อนเพราะท่าทางของพลอยคงไม่เล่นด้วยง่ายๆ
 
"เซ็งว่ะ เจอแต่คนพวกนี้"
 
พลอยบ่นออกมา ยกแก้วน้ำส้มขึ้นดูด
 
"ก็มันเป็นที่ของเขานี่พลอย เรานั่นล่ะที่เข้ามาเอง"
 
ภูมิบุญพูด พลอยเองก็พยักหน้า
 
"ไม่ได้อยากจะเข้ามาหรอกนะ เบื่อจังไอ้พวกอวดรวยเนี่ย"
 
พลอยดูท่าทางไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก พอพี่สาวกลับมาก็ขอตัวกลับ พอดีที่แทนทวีโทรศัพท์เข้ามาหาภูมิบุญ
 
"พี่กำลังถึงนะครับภูมิ"
 
"เอ่อ พี่แทนครับ ตอนนี้ภูมิอยู่ตรงแยกศาลาแดงน่ะครับ พาพลอยมาหาพี่สาว พี่แทนแวะมารับที่นี่ก็ได้ครับ"
 
ภูมิบุญบอกไป แทนทวีก็เห็นด้วยสักพักก็ขับรถมาจอดริมถนนตรงที่นัดหมาย พลอยกับก้องกลับไปก่อนหน้าแล้ว เพราะเห็นว่าแทนทวีจะมารับภูมิบุญจึงเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า แทนทวีพาตั้งใจจะพาภูมิบุญไปกินข้าว แต่เจ้าตัวกลับมีเหตุต้องไปกับที่บ้านก่อน ภูมิบุญไม่ได้ว่าอะไร
พอกลับถึงบ้านก็เข้าห้องไป แล้วออกมาช่วยแม่ของตนกับอ้อยทำงานบ้าน และช่วยทำกับข้าว วันนี้คุณอภิสราออกไปที่บริษัทพร้อมกับโตโต้ยังไม่กลับ พอทำทุกอย่างเสร็จ ก็อาบน้ำชำระร่างกาย

"ภูมิจ๊ะ ช่วยพี่ขึ้นไปเอาแจกันดอกไม้ที่ห้องคุณโต้หน่อยสิ พี่จันทร์จะเปลี่ยนดอกไม้ให้"

อ้อยบอกหลังจากที่เห็นภูมิบุญอาบน้ำเสร็จ พอภูมิบุญได้ยินก็ผงะ

"เอ่อ"

"นะจ๊ะภูมิ พอดีพี่จะรีดผ้าต่อน่ะจ๊ะ"

ภูมิบุญพยักหน้าตอบรับ ทำยังไงได้เมื่อผู้ใหญ่ใช้ แม่เองก็นั่งจัดดอกไม้อยู่ จะบอกปัดไปก็จะดูไม่ดี พอรู้ว่าโตโต้ยังไม่กลับบ้านก็สบายใจขึ้น รีบเดินขึ้นไปบนตึกใหญ่ ภูมิบุญเปิดห้องดำเข้าไปโดยไม่รีรอ แต่ระหว่างที่ภูมิบุญกำลังเปิดประตูเข้าห้องดำไปนั้นรถจากัวร์สีดำก็เลี้ยวเข้ามาจอดในโรงจอดรถแล้ว คุณอภิสราลงจากรถเดินเข้าไปในห้องโถงจันทร์เอาน้ำมะตูมเย็นๆมารับ ส่วนโตโต้ที่กลับมาพร้อมมารดาเดินตรงขึ้นห้องไป ภูมิบุญกำลังมองหาแจกันดอกไม้ อยากจะหยิบมันแล้วเดินออกมาจากห้องพยายามไม่มองของอย่างอื่น แต่ก็จนแล้วจนรอดพอเห็นหนังสือวางอยู่ที่พื้นก็ก้มลงเก็บ พร้อมกับประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก

"หึหึ มารอผัวถึงนี่เลยเหรอครับ น้องภูมิ รู้ใจจริงๆ"

เสียงของมารที่ทำให้ภูมิบุญถึงกับผงะ รับวางหนังสือลงบนโต๊ะทันที

"เอ่อ ผมมาเอาแจกันดอกไม้ไปเปลี่ยนให้น่ะครับ"

ภูมิบุญทำหน้าไม่ถูก คนที่ไม่อยากเจอที่สุด ยิ่งพยายามหลบหนีไปยิ่งเจอ

"เหรอ ไม่ได้มาหาผัวหรอกเหรอครับ"

ไม่พูดเฉยเดินปรี่เข้ามาหา กอดเข้าที่เอวของภูมิบุญทันที

"ผมขอตัวนะครับ"

"จะไปไหนล่ะคนดี วันนี้พี่ยิ่งอยากอยู่ด้วย เมียมาพอดี มาเอากันดีกว่า"

โตโต้จาบจ้วงกอดรัดภูมิบุญแน่นกว่าเดิม

"ปล่อย ผมจะ"

"จะอะไรครับเมีย มาผัวอยากจะแย่อยู่แล้ว"

โตโต้ไซร้ซอกคอของภูมิบุญทันที

"อย่า นะคุณ โตโต้ ผมร้องจริงๆนะ"

"เอาสิ แม่พี่อยู่ข้างล่าง เอาเลยครับ ร้องให้ท่านรู้เลย ว่าเราเป็นคนขึ้นมาหาพี่เอง"

โตโต้ยิ้มแสยะอยู่เพราะเห็นว่าตนมีภาษีที่เหนือกว่า ส่วนภูมิบุญเม้มปากกัดฟันแน่น จะทำยังไงดี

"ดูด ให้หน่อยสิครับ ภูมิ"

โตโต้ทำเสียงกระเส่าออกมา ภูมิบุญรู้สึกได้ถึงความน่ารังเกียจของน้ำเสียงนี้ ไม่อยากได้ยินแม้แต่เสียง รังเกียจเขาเข้าไส้ นิ่งคิดอยู่ปล่อยให้โตโต้ไซร้ซอกคอไป พลันภูมิบุญก็ยิ้มแสยะออกมาเหมือนกัน

"ได้ สิครับ ภูมิเองก็อยากอยู่เหมือนกัน"

ภูมิบุญเปลี่ยนเสียง ทำให้โตโต้รู้สึกสงสัยถอนหน้าออกจากคอของภูมิบุญแล้วจ้องหน้า แต่ช้าไปแล้วเพราะภูมิบุญเอื้อมมือไปขยำตรงส่วนนั้นของโตโต้แล้ว

"มาครับ ที่รักเดี๋ยวภูมิทำให้"

ภูมิบุญนั่งคุกเข่าลงทันที เอามือบีบคลึงจนเนื้อส่วนนั้นตื่นตัว ภูมิบุญค่อยๆปลดเข็มขัดลง สายตาก็มองโตโต้อย่างยั่วยวน โตโต้เตลิบเคลิ้มไปกับลีลาท่าทางของภูมิบุญ พอปลดเข็มขัดลงก็รูดซิบกางเกงสแลคออก เผยให้เห็นท่อนเนื้อที่ตื่นตัวอยู่ในกางเกงชั้นในสีดำ ภูมิบุญไม่รีรอดึงกางเกงชั้นในออกทันที ก้มหน้าลงต่ำยิ้มแสยะก่อนจะเอาหน้าเข้าไปใกล้ มือก็คลึงอยู่ไม่ยอมหยุด โตโต้เองหลับตาพริ้มอยู่

"ชอบ ไหมครับ"

ภูมิบุญถามเสียงกระเส่าเช่นกัน

"ชะ ชอบครับภูมิ ดูดเลยครับ"

"ได้"

ภูมิบุญตอบแล้วรูดซิปกางเกงกลับขึ้นเหมือนเดิมทันที

"โอ๊ย ไอ้"

โตโต้สะดุ้งสุดตัวผลักตัวของภูมิบุญออก น้องชายที่ตื่นตัวเต็มที่หมดสิ้นฤทธิ์เดชทันที โตโต้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทรมานก้มตัวลงกุมส่วนนั้นอยู่

"อ้าว ไม่ชอบเหรอครับ ผัว เมียอุตส่าห์ตั้งใจทำให้นะเนี่ย"

ภูมิบุญเดินไปหยิบแจกันแล้วมายืนแสยะยิ้มให้อย่างสาแก่ใจ

"แก ทำไมทำแบบนี้ โอ๊ย"

"ร้องดังๆสิ คุณท่านจะได้ขึ้นมาดู เป็นไงเป็นกัน ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าคุณท่านรู้ว่าคุณโตโต้บังคับให้ผมทำ ท่านจะว่ายังไง"

ภูมิบุญพูดเสียงกร้าว โตโต้ล้มนอนลงบนเตียงดิ้นพรวดพราดอย่างเจ็บปวดทรมาน

"จำไว้ แก จำไว้"

"จะเอาคืนเหรอครับ คุณโตโต้ แต่คงนานหน่อยนะกว่าจะใช้งานได้เป็นปกติน่ะ หึหึ"

ภูมิบุญพูดแล้วเดินออกจากห้องไป พอเดินลงไปชั้นล่างคุณอภิสราและจันทร์ก็หันมามอง

"มีอะไรหรือเปล่า ภูมิ เสียงคุณโตโต้ร้องดังเชียว"

จันทร์ถามสีหน้าดูเป็นวิตกกังวล

"อ้อ คุณโตโต้เขาล้มครับแม่ ไม่เป็นไรแล้ว ผมดูให้แล้วไม่มีส่วนไหนเสียหาย"

ภูมิบุญก้มหน้าแล้วเดินลงจากบันได ไม่อยากที่จะโกหกผู้ใหญ่ แต่ทำยังไงได้ สถานการณ์มันบีบบังคับให้ต้องทำแบบนี้เอง ภูมิบุญเดินไปคุยกับคุณอภิสราสักพักก็ไปช่วยมารดาของตนเตรียมตั้งโต๊ะอาหาร เย็น พอเตรียมทุกอย่างเสร็จก็นั่งลงข้างๆคุณอภิสรารอโตโต้เพียงคนเดียว โตโต้เดินลงจากบนห้องยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า ท่าเดินที่ผิดปกติไปทำให้ผู้เป็นมารดาสงสัย

"เป็นอะไรตาโต้ ทำไมเดินแบบนั้น เจ็บขาหรือลูก"

โตโต้สะดุ้งทั้งที่พยายามเดินให้เป็นปกติมากที่สุดแล้ว

"เอ่อ"

"คงเพราะหกล้มเมื่อกี๊ครับคุณท่าน ภูมิเห็นขาของคุณโตโต้ไปโดนโต๊ะพอดี"

พูดแล้วก้มหน้าลงในใจหัวเราะลั่นด้วยความสะใจ โตโต้เองก็กัดฟันอยู่ อยากจะเข้าไปบีบคอเสียให้ตายคามือ

"มาๆ ถ้าไม่ดีขึ้นเดี๋ยวค่อยไปหาหมอ"

ภูมิบุญยิ้มออกมาทันที ไปหาหมอเหรอคงดูไม่จืด โตโต้ทำหน้าไม่ถูก โบกไม้โบกมือบอกว่าตนเองไม่เป็นไร พอกินข้าวเสร็จภูมิบุญก็ช่วยมารดาของตนเก็บกวาดทำความสะอาด โตโต้กลับขึ้นห้องไปแล้ว วันนี้ภูมิบุญรู้สึกเป็นสุขใจเหลือเกิน ช่วยไม่ได้นะคุณโตโต้อย่าบีบให้ผมทำ ภูมิบุญพูดในใจแล้วยิ้มแสยะออกมามุมปาก

 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น