"ภูมิ ทำไมพี่ติดต่อภูมิไม่ได้เลย รู้ไหมพี่เป็นห่วงมาก เนี่ยถ้าวันนี้โทรไปไม่ติดอีกพี่ว่าจะขับรถไปหาแล้ว"
แทนทวีพยายามโทรศัพท์หาภูมิบุญตลอดเวลาแต่เนื่องจาก สัญญาณไม่มีจึงติดต่อไม่ได้ พอภูมิบุญรับโทรศัพท์เมื่อรถบัสเข้าถึงเขตจังหวัดขอนแก่นตอนกลางดึกสัญญาณ โทรศัพท์มีเป็นปกติจึงติดต่อได้
"พี่แทน มันไม่มีสัญญาณครับ ภูมิอยากโทรหาเหมือนกัน"
"เราโอเคไหม เห็นไอ้กัสบอกว่าไอ้เชี่ยทันมันมาวอแวกับภูมิอีกแล้วเหรอ พี่จะจัดการมัน ไอ้นี่มันเตือนไม่ฟัง"
น้ำเสียงที่เคร่งเครียดเปล่งออกมาเสียงดัง
"เอ่อ พี่แทนครับภูมิไม่เป็นไรอย่าเลยครับ อย่าไปยุ่งกับพี่เขาเลย ภูมิเคลียร์กับเขาแล้ว คงไม่มายุ่งกับภูมิอีกแล้วล่ะครับ"
ภูมิบุญคิดเอาเองว่ากัสเองคงบอกเฉพาะตอนที่มีเรื่องกัน ที่หน้าห้องน้ำ แต่คงไม่รู้เรื่องที่ทุ่งนา เพราะท่ารู้แทนทวีคงโกรธมากกว่านี้แน่ ใจหนึ่งก็อยากจะบอกแต่เก็บเอาไว้ในใจดีกว่า เพราะสิ่งที่คิดวางแผนไว้มันซับซ้อนกว่าการฟ้องชายหนุ่มที่เขาเรียกว่าแฟน
"หือ เราเคลียร์อะไรกับมัน ไม่ได้หรอกภูมิ ไอ้นี่มันไว้ใจไม่ได้สันดานเลว"
"นะครับพี่แทน อย่าไปอะไรกับเขาอีกเลย เลิกแล้วต่อกันไปนะครับ ภูมิขอ ภูมิคิดถึงพี่แทนจังเลยครับ"
ภูมิบุญพยายามเปลี่ยนประเด็นลดระดับความร้อนในใจของแทน ทวีลง
"คิดถึงสิครับ พี่คิดถึงจนนอนไม่หลับเลยนะ อยากไปหา อยากคุยด้วย แต่ทำอะไรก็ไม่ได้กระวนกระวายที่สุด"
"ภูมิก็คิดถึงพี่แทนครับ พอห่างกันอย่างนี้แล้วยิ่งคิดถึง"
"จะถึงกรุงเทพฯกี่โมงครับภูมิ เดี๋ยวพี่ไปรับ"
"น่าจะเช้ามืดนะครับ เพราะขามาก็ออกเวลาประมาณเดียวกัน ถึงสายเลย ไม่ต้องมารับก็ได้ครับพี่แทน เดี๋ยวภูมิกลับเอง"
"ไม่ได้ภูมิ พี่คิดถึงเราจะตาย เจอหน้าหน่อยก็ยังดี"
แทนทวีออดอ้อนเสียงหวานก่อนจะวางสายไปเพราะดึกมากแล้ว พอวางสายจากแทนทวีภูมิบุญก็นั่งเหม่อออกไปนอกหน้าต่างรถบัส ความมืดที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณทำให้มองสิ่งต่างๆไม่ถนัดนัก แสงไฟตามบ้านเรือนตามเสาไฟฟ้าสาดส่องเป็นกลุ่มๆก้อนสีส้มๆมองดูเพลินตา พลันความคิดก็ล่องลอยไปไกลแสนไกลกว่าที่สายตาหรือสิ่งอื่นใดจะคาดคะเน ถ้าหากว่าทำตามสิ่งวางแผนเอาไว้ในใจมันจะทำร้ายใครอีกไหมนะ ถ้าทำสิ่งนั้นได้ตามที่คาดหวังไว้ จะมีใครเจ็บอีกไหม แต่ถ้ายอมให้อภัยเขาล่ะ ไม่ได้หรอกมันไม่ง่ายอย่างนั้น ชั่วชีวิตนี้โดนรังแกมาตลอด ยอมแล้วยังไง ยอมแล้วคนพวกนั้นเคยเห็นค่าเห็นราคาของเราไหม คำขอโทษสักคำยังยังไม่เคยได้ยินจากปากของคนเหล่านั้น แล้วคำอ้อนวอนขอร้องที่เคยร่ำร้องร่ำไห้ขอความเมตตาจากพวกเขาล่ะ ร้องไห้ออกมาจากใจ ร้องขอออกมาจากส่วนลึกที่สุดของหัวใจ พวกเขาเคยรับรู้ไหม เคยรับฟังมันบ้างไหม "ฉันไม่ต้องการคำขอโทษจากใครอีกต่อไปแล้ว แค่อยากให้พวกแกได้รับรู้ความรู้สึกที่ฉันเคยได้รับว่ามันรู้สึกยังไงก็เท่า นั้นเอง" ภูมิบุญแสยะยิ้มออกมาในความมืด พลอยกับก้องนอนหลับไปแล้ว เสียงของเด็กวิศวะฯที่ยังกินเหล้าอยู่หลังรถก็เริ่มอ่อนแรงเสียงเบาลงทุกขณะ
ภูมิบุญจะรู้ว่าการดำรงชีวิตอยู่ด้วยความแค้นความเกลียด ชังมันหาสิ่งดีไม่ได้ มีแต่บั่นทอนทำร้ายจิตใจของตัวเองและคนรอบข้างให้พังทลายลง หากจะนิ่งเฉยรับเอาความทุกข์ที่ถ่ายเทมาจากคนรอบข้างเอามาแบกมาอุ้มไว้เพียง ลำพังก็คงทุกข์ใจอยู่เพียงคนเดียว แล้วด้วยเหตุอันใด มีความจำเป็นด้วยหรือที่จะต้องทำแบบนั้น ภูมิบุญเป็นคนเห็นแก่ตัวถ้าจะอ้างถึงเรื่องนี้เห็นแก่ตัวที่ไม่ยอมปล่อยวาง เห็นแก่ตัวที่เจ้าคิดเจ้าแค้นเอาความเจ็บปวดฝังใจในครั้งอดีตเป็นที่ตั้ง แต่ท่านเอยหากเหตุวันนั้นไม่เกิด วันนี้คนที่นั่งมองความมืดอยู่ณที่แห่งนี้คงไม่ได้คิดแค้นเช่นนี้ เหตุย่อม มีที่มาและมีที่ไป แม้นรู้ดีอยู่แก่ใจว่าผลมันจะเป็นเช่นไร แต่มนุษย์ธรรมดาสามัญบริโภคกิเลสเป็นกิจวัตรย่อมหลงทางไปบ้าง เว้นเสียแต่ว่าคนผู้นั้นได้เห็นแล้วซึ่งทางว่างหรือแสงแห่งธรรมที่จะชี้นำไป ในทางที่ถูกที่ควร แต่ภูมิบุญเป็นปุถุชนธรรมดาตราบใดที่แสงนั้นยังสาดส่องไม่ถึง หรือมัวแต่ก้มหัวมองเงาของตัวเองแสงนั้นก็ย่อมไม่มีทางที่จะสาดส่องมาให้ ซึ้งถึงความสว่างได้ว่ามันสวยงามเพียงใด
รถบัสจอดสนิทที่หน้าคณะรัฐศาสตร์ตอนตีห้ากว่าๆ ภูมิบุญกับเพื่อนลงมาจากรถแล้วพอร่ำลากันก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เพราะวันจันทร์ไม่มีเรียน แทนทวีโทรศัพท์นัดกับภูมิบุญบอกที่นัดหมายเรียบร้อย ภูมิบุญเดินออกจากมหาวิทยาลัยไปด้วยความอ่อนเพลีย
"แทนคะ ทำไมแทนใจดำจังเลย คุยกับนิตาบ้างสิคะ"
นิตาที่ลงจากรถมาก่อนภูมิเดินออกไปทางศูนย์การค้าที่ตรง ข้ามวัดหัวลำโพงทางเดียวกันเห็นแทนทวียืนอยู่ก็เข้าใจว่าต้องรอภูมิบุญแน่ นอนจึงปรี่เข้าไปหา หลังจากที่ผ่านมาพยายามติดต่อแทนทวีทุกหนทางแต่แทนทวีกลับไม่ได้ใส่ใจเลย
"ผมไม่มีอะไรต้องคุยครับนิตา"
"แทนคะ นิตาขอโทษ นิตาไม่ได้ตั้งใจ"
"นิตาอย่ามาขอโทษผมเลยครับ คนที่นิตาควรจะไปขอโทษน่ะ น่าจะเป็นน้องภูมิมากกว่านะ"
"แทน"
ภูมิบุญหยุดชะงักเท้าเอาไว้ก่อน ทั้งที่ดีใจที่เจอคนที่ตนอยากเจอแต่พอเห็นหลังนิตาก็หยุดดูท่าทีก่อน
"แทนให้โอกาสนิตาไม่ได้เหรอคะ เราคบกันมาตั้งนานนะแทน แค่ในฐานะเพื่อนก็ยังดี"
นิตายังอ้อนวอนอยู่พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าให้ถึงตัวแทน ทวี
"ผมไม่รู้เหมือนกันนะนิตา ตอนนี้ผมยังไม่อยากคุยเรื่องนี้ ผมขอตัวนะแฟนผมเดินมาโน่นแล้ว"
คำพูดของแทนทวีทำให้นิตาหันขวับไปตามสายตาของเขาทันที พอเห็นว่าใครก็เม้มปากแน่น
"พี่แทน รอนานไหมครับ คิดถึงจังเลย"
ภูมิบุญโผเข้ากอดแทนทวีทันทีที่เห็นสายตาของนิตาจ้องมอง มาที่เขา แทนทวีเองก็ไม่คาดคิดว่าภูมิบุญจะโผเข้ากอดตัวเอง
"ไม่นานครับ เหนื่อยไหมภูมิ"
"เหนื่อยครับ แต่เห็นหน้าพี่แทนแล้วหายเลย"
"เราคล้ำไปไหมภูมิ ตากแดดมากเหรอครับ"
แทนทวีเอามือลูบใบหน้าของภูมิบุญบางเบาราวกับเกรงว่าใบ หน้านั้นจะบอบช้ำ
"ก็รับน้องนี่ครับพี่แทน สนุกดีออก"
ภูมิบุญกอดที่เอวของแทนทวีอย่างไม่เขินอาย เพราะรู้ว่าสายตาอีกคู่ที่กำลังจ้องมองอยู่มองด้วยความอิจฉาริษยา
"กลับกันเถอะครับพี่แทน ภูมิอยากจะอาบน้ำเต็มที่แล้ว"
"ไปครับ หิวไหมครับภูมิ ไปหาอะไรกินก่อนไหม"
"ก็ดีครับ อยากกินโจ๊กจังเลยครับพี่แทน"
"งั้นไปกินโจ๊กตรงสีลมดีไหมครับ อร่อยนะ"
แทนทวีอ้อมไปเปิดประตูรถให้ภูมิบุญพอเดินกลับไปฝั่งคนขับ ภูมิบุญก็ลดกระจกลงหันหน้าไปแสยะยิ้มให้กับนิตา รายนั้นกระทืบเท้าอยู่ด้วยความเจ็บใจ แทนทวีขับรถออกไปแล้ว
"แก อีภูมิ"
นิตากัดฟันคำรามออกมาจากคอ พอแทน ทวีพาภูมิบุญไปกินโจ๊กเสร็จก็พากลับไปส่งที่บ้าน ก่อนจะกลับบ้านของตนไปนอนเหมือนกันเพราะหลังจากที่คุยโทรศัพท์กับภูมิบุญ เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนอีกเลย
"พี่อ้อยสวัสดีครับ แม่ไปไหนครับพี่"
ภูมิบุญทักทายอ้อยที่กำลังสาละวนอยู่กับกองผ้าที่จะ เตรียมซัก
"อ้าวภูมิ กลับมาแล้วเหรอ เป็นไงสนุกไหม พี่จันทร์กับคุณท่านไปราชบุรี ลุงหมายขับรถไปให้ เห็นบอกจะไปดูโครงการใหม่อะไรนี่ล่ะ"
"อ้าวเหรอครับ ไม่เห็นแม่บอกเลย"
"ก็เราติดต่อไม่ได้นี่นะ แต่พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว หิวไหมภูมิ"
อ้อยถามแต่ภูมิบุญกลับประหวั่นใจว่าตอนนี้ในบ้านก็มี เหลืออยู่กันสามคนสินะ แต่โตโต้คงไปทำงานตามปกติ
"แล้วคุณโตโต้ล่ะครับพี่อ้อย"
"อ้อ ยังไม่ตื่นจ๊ะ พี่ต้มข้าวต้มไว้ให้แล้ว ภูมิมาพอดี วานไปดูแลคุณโต้ให้พี่หน่อยสิ อาทิตย์นี้เสื้อผ้าเยอะมาก ซักไม่ทันเลย"
อ้อยบ่นออกมาภูมิบุญได้แต่พยักหน้า นานแล้วสินะที่ไม่ได้เจอหน้าศัตรูหมายเลขหนึ่ง พออาบน้ำเสร็จก็เตรียมข้าวต้มไปรอที่ตึกใหญ่ เสียงลงส้นเดินลงบันไดมาแล้ว
"สวัสดีครับคุณโตโต้ วันนี้มีข้าวต้มกุ้งนะครับ"
ภูมิบุญทักทายออกไปเสียงเรียบไม่ได้มองหน้าคนที่ตนทัก โตโต้พอเห็นภูมิบุญก็นึกขยาดแต่ก็รักษาท่าทีเอาไว้
"อืม กลับมาแล้วเหรอ เป็นไงบ้าง"
โตโต้ถามเสียงขรึมเช่นกัน เขาเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้
"ก็ดีครับ"
"ท่าทางผู้ชายคงเยอะสินะ ถูกใจไหมล่ะ"
โตโต้ถากถางทันที
"ก็ถูกใจหลายคนเหมือนกันครับ อยากได้ให้มันหมดทุกคนเลย"
"ไม่แปลกใจหรอก ท่าทางคงไม่ใช่ย่อยนี่เราน่ะ"
โตโต้มองหน้าภูมิบุญแล้วยิ้มที่มุมปาก
"ไม่ใช่แค่ท่าทางนี่ครับ คุณโตโต้น่าจะรู้ดีกว่าใครนี่ครับ"
ภูมิบุญยกริมฝีปากขึ้นเช่นกัน
"หึหึ ใช่สินะ เรานี่เก่งนะทำให้พี่ติดใจได้ ว่าแต่มาหาพี่นะครับคืนนี้"
โตโต้เองก็ไม่ยอมง่ายๆเช่นกัน
"ว่าแต่หายดีแล้วเหรอครับ อันนั้นของคุณโตโต้น่ะ เห็นวันนั้นร้องซะดังเลย แน่ใจเหรอครับว่าจะใช้การได้"
ภูมิบุญปรี่เข้าไปใกล้ๆแล้วทำท่าส่องดูตรงเป้ากางเกงของ โตโต้ที่หน้าเสียไปทันที เขาเม้มปากสีหน้าดุดันขึ้นมาทันที
"ขอตัวนะครับ ที่รัก"
ภูมิบุญพูดเสร็จแล้วเดินหันหลังออกไปจากห้องทันที โตโต้กัดฟันกำหมัดอยู่ อารมณ์เสียหงุดหงิดแต่เช้า
"มึงไอ้ภูมิ เดี๋ยวมึงได้เจอดีแน่"
โตโต้ออกไปทำงานด้วยหน้าตาที่บูดเบี้ยวเคร่งเครียด ส่วนภูมิบุญก็นอนพักผ่อนพอตื่นขึ้นมาก็ช่วยอ้อยทำงานบ้านจนเสร็จหมดก็อ่าน หนังสือเรียนอยู่ที่ห้อง
"ภูมิๆ คืนนี้พี่ว่าจะไปดูหมอลำที่อ่อนนุชนะ ภูมิฝากดูบ้านด้วยนะจ๊ะ"
อ้อยเข้ามาบอกตอนหัวค่ำ ภูมิบุญทำสีหน้าตกใจ
"เอ่อ ไปนานไหมพี่"
"ก็ไม่แน่ใจจ๊ะ แหมนานๆมีที เนี่ยใกล้ๆบ้านเรานี่ล่ะนัดกับเพื่อนเอาไว้ ภูมิล็อกบ้านเลยนะจ๊ะ นอนเลยก็ได้เดี๋ยวพี่เอากุญแจไป"
"แล้วคุณโตโต้ล่ะพี่ ภูมิต้องรอไหม"
ที่หนักใจคือคนๆนี้มากกว่าสิ่งอื่นใด
"ก็ดูให้พี่หน่อยส่วนมากกลับมาแล้วแกจะกินน้ำส้มเย็นๆ พี่แช่ไว้แล้ว วานหน่อยนะจ๊ะภูมิ"
จะทำยังไงได้นอกจากตอบรับไป ภูมิบุญนั่งทำใจอยู่นานอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องแล้วเพราะจิตใจมัวกระวน กระวายคิดถึงแต่เรื่องที่จะเกิดขึ้น พอโตโต้กลับบ้านมา ภูมิบุญก็เอาแก้วน้ำส้มไปวางรอไว้ แล้วรีบเดินกลับมาที่ห้องพักของตัวเอง
"พี่อ้อยครับ พี่อ้อย"
โตโต้ร้องหาอ้อยเสียงดังออกมานอกตึก ภูมิบุญเริ่มใจสั่นไหว
"พี่อ้อยมีอะไรกินครับ ผมหิวแล้ว"
โตโต้เห็นบ้านเงียบผิดปกติตามธรรมดาอ้อยจะคอยโตโต้ดู โทรทัศน์อยู่ในห้องรับแขก โตโต้เดินตามมาถึงห้องพักคนงาน
"พี่อ้อย ไม่สบายหรือเปล่าครับ"
เสียงของโตโต้เงียบไปแล้วเพราะไม่มีเสียงตอบรับจากอ้อย หรือใคร แต่พอเหลือบไปเห็นรองเท้าของภูมิบุญที่ถอดไว้หน้าห้องก็เงียบเบาเสียง ลง ภูมิบุญหัวใจเต้นตึกตักกลัวอยู่ในใจ เสียงฝีเท้าดังผ่านไปมาแล้ว
มาหยุดกึกลงหน้าห้องของเขา
"ภูมิๆ นอนหรือยังพี่อ้อยไปไหน"
โตโต้ร้องถามเคาะห้องเสียงดัง
"พี่อ้อยไปหน้าปากซอยครับเดี๋ยวมา คุณโตโต้จะเอาอะไรหรือเปล่าครับ"
"พี่หิว มีอะไรกินภูมิ"
ภูมิบุญถอนหายใจก่อนจะเดินออกมาเปิดประตูห้อง
"เดี๋ยวผมเตรียมไปให้ครับ คุณโตโต้กลับไปรอที่ตึกใหญ่ก่อนนะครับ"
"หึหึ พี่รอตรงนี้ได้ไหมครับ"
โตโต้ได้ทีพลิกตัวเข้าไปในห้องของภูมิบุญทันที
"ก้นนุ่มนะเรา"
ทันทีที่เหวี่ยงตัวเข้าไปก้ละลาบละล้วงจาบจ้วงภูมิบุญ ทันที
"เอ๊ะ คุณโตโต้"
"ภูมิบุญร้องออกมา
"เอากันก่อนไหม แล้วค่อยกินข้าว"
โตโต้พูดไม่อาย แม้ภูมิบุญจะใจสั่นอยู่แต่ก็ฝืนยิ้มออกมา
"แหมคุณโตโต้ครับ กลับมาเหนื่อยๆอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่นก่อนดีกว่านะครับ เดี๋ยวภูมิไปหาถึงห้องเอง"
ภูมิบุญเปลี่ยนเสียงเป็นหวานยั่วยวน
"ได้ งั้นคืนนี้พี่ขอแบบพิเศษนะภูมิ"
โตโต้หัวเราะออกมา รู้สึกสะใจที่ภูมิบุญไม่มีทางเลือก แต่ก็คิดแค้นในใจจากเรื่องวันนั้น วันนี้ภูมิบุญต้องเจ็บและอายมากกว่าเขาหลายเท่านัก พอยกอาหารไปให้โตโต้เสร็จก็รีบกลับมาปิดประตูล็อกกลอนแน่นหนา ส่วนโตโต้ก็รีบอาบน้ำนอนรอภูมิบุญอยู่ในห้อง พอดึกไม่เห็นภูมิบุญมาหาสักทีก็รู้ตัวว่าภูมิบุญกำลังเล่นตลกกับเขาอยู่ โตโต้จึงบุกไปถึงห้อง เพราะหลังจากโทรศัพท์หาอ้อยรู้เรื่องหมดแล้ว โตโต้ยิ้มออกมาทันทีหลังจากวางโทรศัพท์จากอ้อย ซ้ำยังกำชับให้อ้อยกลับดึกได้ตามสบาย
"ภูมิๆๆ เปิดประตูหน่อย"
เสียงโตโต้ทุบประตูดังลั่น
"เปิดให้พี่หน่อยครับ"
ภูมิบุญนั่งนิ่งไม่ยอมไหวตัว
"ผมนอนแล้วครับคุณโตโต้ มีอะไรเอาไว้คุยกันพรุ่งนี้ได้ไหม"
"ไหนบอกจะไปหาพี่ไงครับ"
โตโต้ทวงคำมั่น
"ผมไม่ค่อยสบายครับคุณโตโต้"
"พี่ดูหน่อยสิ เป็นอะไรมากไหม พี่จะได้พาไปหาหมอ"
"ไม่เป็นไรครับ นอนสักพักคงดีขึ้น"
โตโต้กัดฟันพูดออกมาทุกประโยค โอกาสแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆที่แม่ของเขาจะไม่อยู่บ้าน พูดง่ายๆคือตอนนี้มีแค่เขากับภูมิบุญเพียงสองคนเท่านั้นที่อยู่ที่บ้าน "คราวนี้ล่ะมึงกูจะเอาให้เดินไม่ออกทีเดียว" โตโต้นึกในใจ คิดอยู่ว่าจะทำยังไงให้ภูมิบุญยอมเปิดประตู
"ได้ครับภูมิ ยังไงพักเยอะๆนะครับ พี่ไปนอนนะครับ มีอะไรไปเรียกพี่นะ"
โตโต้ทำท่าเดินไปให้พ้นจากหน้าประตู
"โอ๊ย งู"
โตโต้แกล้งล้มลงกับพื้นดิ้นพรวดพราด ภูมิบุญนั่งนิ่งยิ้มออกมา "คิดว่าผมโง่หรือไงคุณโตโต้ ผมไม่ใช่เด็กอมมืออย่างที่คุณคิดนะ"
"โอ๊ย ภูมิ ช่วยด้วย ช่วยพี่ด้วย งูกัดพี่"
"เจ็บมากไหมครับคุณโตโต้ เดี๋ยวผมโทรเรียกรถพยาบาลให้"
ภูมิบุญตะเบ็งเสียงออกไป โตโต้กัดฟันเจ็บแค้นใจที่ภูมิบุญไม่โง่อย่างที่คิดเอาไว้
"โอ๊ย พี่ไม่ได้หลอก โอ๊ย ปวดเหลือเกิน"
โตโต้ยอมลงทุนดิ้นเกลือกกลิ้งอยู่กับพื้นโอดครวญออกมา ภูมิบุญเริ่มใจสั่นจากที่ยิ้มออกมาในตอนแรก เริ่มหวั่นใจ โตโต้เริ่มผ่อนเสียงลงดิ้นก็เบาลง ภูมิบุญใจเต้นแรง ถ้าเขาตายขึ้นมาจริงๆล่ะ มันจะไม่ไร้มนุษยธรรมไปหน่อยหรือ ภูมิบุญตอนนี้ความคิดแตกแยกเป็นสองฝ่าย เถียงกันอยู่ว่าจะช่วยดีหรือไม่ ผลสุดท้ายภูมิบุญก็รีบเดินออกไปเปิดประตู โตโต้ยิ้มในใจ พอเห็นสภาพของโตโต้ภุมิบุญก็ปรี่เข้าไปหาทันที
"คุณโตโต้"
ภูมิบุญปรี่เข้าไปจับตัวหน้าซีดตกใจ
"คุณโตโต้เป็นอะไรไหม ทำใจดีๆไว้นะครับ"
ภุมิบุญร้องออกมาเหมือนคนบ้าจับตามตัวพยายามหารอยแผล
"งูกัดตรงไหนครับ คุณโตโต้"
ภูมิบุญยังร้องเสียงหลงอยู่
"ตรงนี้"
โตโต้ชี้ไปที่เป้ากางเกงของตัวเอง แล้วรีบคว้าตัวของภูมิบุญไว้ทันที พอรู้ตัวว่าโดนหลอกแน่นอนแล้วจะขยับตัวลุกหนีแต่ก็ช้าไปเสียแล้ว
"ทำแบบนี้ทำไมคุณโตโต้"
"หึหึ ไม่ทำแบบนี้แล้วจะได้เจอกันมั้ย"
โตโต้ยิ้มออกมากอดกอดภูมิบุญแน่นกว่าเดิม ส่วนภูมิบุญเองพยายามดิ้น
"ปล่อยนะ เล่นสกปรก คุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย"
"หือ ใครบอก ชายได้ชายคือยอดชายไม่ใช่เหรอภูมิ"
โตโต้หัวเราะชอบใจพยายามเอาปากงับไปตามซอกคอของภูมิบุญ
"ปล่อยนะ เดี๋ยวใครมาเห็น"
"กลัวเหรอ งั้นก็เข้าไปในห้องสิ"
"ไม่ได้ คุณโตโต้กลับไปดีกว่า อย่ามายุ่งกับผม ปล่อยนะ เอ๊ะ บอกให้ปล่อย"
ภูมิบุญเริ่มที่จะออกแรงมากกว่าเดิม แต่เหมือนโตโต้จะอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบกว่า ยิ่งดิ้นออกแรงมากเท่าไหร่ โตโต้ก็ยิ่งกอดรัดแน่กว่าเดิม
"จะขัดขืนทำไมล่ะครับภูมิ ทำยังกะไม่เคย"
โตโต้พูดออกมาเริ่มหงุดหงิดเพราะท่าทางของภูมิบุญยังดิ้น อยู่ไม่ยอมง่ายๆ
"มานี่"
โตโต้ลากภูมิบุญให้ลุกขึ้น ด้วยความที่ตัวโตกว่าแรงมากกว่าจึงลากภูมิบุญไปได้อย่างง่ายดาย พอเข้าไปในห้องก็เหวี่ยงตัวของภูมิบุญลงกับเตียงอย่างแรง พอหลังกระทบเตียงก็ควานหาทางไป
"อย่านะคุณโตโต้"
"ทำเป็นสะดีดสะดิ้ง ไหนไม่สบายไม่ใช่เหรอ มาเดี๋ยวจะฉีดยาให้"
โตโต้กระโดดขึ้นเตียงไปทับตัวของภูมิบุญเอาไว้ ภูมิบุญพยายามขัดขืนแต่โตโต้ก็ไม่ยอมง่ายๆ ซุกไซร้อยู่ตามซอกคอ ภูมิบุญเม้มปากแน่นนอนตัวแข็งอยู่ โตโต้ไซร้ซอกคออยู่สักพักก็ผงกหน้าขึ้นมองหน้าภูมิบุญ
"ทำไม นอนแข็งเป็นตอไม้แบบนี้"
"อยากทำอะไรก็ทำสิ"
ภูมิบุญจ้องหน้าเขม็งเช่นกัน โตโต้จิ๊ปากแล้วลุกขึ้น
"นอนเป็นผีแบบนี้ใครจะไปมีอารมณ์ ช่วยตัวเองยังมันกว่านี้เลย อารมณ์เสียว่ะ"
โตโต้ลุกขึ้หัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไปจากห้อง ภูมิบุญถอนหายใจอย่างโล่งอก
"ไปเสียได้ก็ดี"
ภูมิบุญพูดเบาๆแล้วลุกมาปิดประตู เขาอยู่รอดปลอยภัยไปได้อีกหนึ่งวัน แต่วันข้างหน้า โตโต้อาจจะไม่หยุดอยู่แค่นี้เพราะจากท่าทางแล้วคงไม่ยอมคนง่ายๆเหมือนกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น