ตอนเช้าหมอกหนาที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณทำให้มองเห็นอะไรเป็นเพียงเงาเลือนราง อากาศที่เย็นสบายชุ่มฉ่ำไปด้วยไอน้ำค้างและกลุ่มหมอก ตะวันขึ้นโด่งพอสมควรแล้วแต่ม่านหมอกยังคงปิดบังบริเวณคุ้งน้ำรวมไปถึงบริเวณรีสอร์ทด้วย อากาศภายในรีสอร์ทก็เย็นสบายทำให้คนตัวเล็กเบียดกายเข้าหาคนตัวใหญ่ที่นอนกอดก่ายกันอยู่ ทั้งสองอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ภูมิบุญตื่นนานแล้วแต่ยังคงกอดโตโต้อยู่
"เอี๊ยดดดด"
เสียงเบรครถดังสนั่นไปทั่ว โตโต้พลิกกายแต่ยังไม่ตื่นเพราะรู้สึกสบายตัวร่างอุ่นๆข้างๆกายทำให้เขาเพลิดเพลินกับการนอนไปได้มากทีเดียว
"ไหน มันอยู่ไหน ไอ้ชาติชั่ว"
เสียงสบถก่นด่าดังอื้ออึงมา ภูมิบุญที่กำลังรอคอยอยู่เสียงนี้อยู่ถึงกับแสยะยิ้มออกมา เสียงที่เขารอมาทั้งคืน ละครเรื่องใหม่ที่เขาเป็นคนสร้างบทขึ้นกำลังจะเปิดฉากขึ้นแล้วในไม่ช้า
"ปัง"
ประตูถูกผลักให้เปดออกอย่างง่ายดายเพราะเมื่อคืนภูมิบุญไม่ได้ลงกลอนไว้ แน่ใจมั่นใจเหลือเกินว่ามันต้องเป็นไปตามที่เขาคิด
"คุณแวน" ภูมิบุญทำท่าตกใจแล้วเบียดกายเข้าหาโตโต้ เขาเองก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา
"กรี๊ดดดด โตโต้ ไอ้ภูมิ เลว"
"เพี๊ยะ" "โอ๊ย" "เพี๊ยะ" แวนปรี่เข้าไปจิกผมตบกระหน่ำลงไปที่ใบหน้าของภูมิบุญ
"หือ เฮ้ย อะไรกันแวน อย่าฟังก่อนแวน หยุดก่อน"
แวนที่หุนหันเข้ามาในห้องพอเห็นภาพเบื้องหน้าถึงกับกรีดร้องออกมาปากสั่นปรี่เข้ากระชากตัวภูมิบุญตบหน้าอยู่ พอโตโต้รู้สึกตัวตื่นเต็มที่ก็กอดภูมิบุญไว้
"สกปรก โสโครก เลวทรามที่สุด ทำไมทำแบบนี้ กรี๊ดดด โต้ทำไมทำกับแวนแบบนี้ เพราะมันใช่ไหม แวนจะฆ่ามัน"
แวนขาดไปแล้วซึ่งสติ จิกตีตามเนื้อตัวของโตโต้ให้ปล่อยภูมิบุญออกจากเกราะคุ้มภัย แล้วพยายามที่จะดึงตัวของภูมิบุญออกมาตบตีให้สาแก่ใจ
"หยุดนะแวน แวนมาได้ยังไง"
"กรี๊ดดด ไม่ต้องอยากรู้หรอกว่าแวนมาได้ยังไง มาอย่างนี้ไงคะแวนถึงได้ตาสว่างเสียที แวนเป็นควายมาตลอดใช่ไหมโต้ กรี๊ดดด คิดไว้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ โต้หลงกลมันใช่ไหม อีเลว มานี่น๊ะ"
"อย่านะแวน หยุด"
โตโต้เองก็ตวาดขึ้นเสียงเหมือนกัน ภูมิบุญกอดร่างของโตโต้ไว้แน่น แม้ตามหน้าตามตัวจะโดนตีจนเริ่มแสบร้อนขึ้นมาบ้างแล้ว
"มักง่าย ทำไมโต้เป้ฯคนมักง่ายแบบนี้ คลำไปไม่มีหางก็เอาหมดทุกคนเลยเหรอ สกปรกที่สุด"
"แวนหยุดนะ ออกไปก่อนได้ไหม เราออกไปคุยกันข้างนอก"
"ทำไมคะ แวนจะคุยตรงนี้ โต้อายด้วยเหรอ ที่เสพสมกับเกย์น่ะ ทุเรศ"
แวนไม่ยอมลดเสียงลงเลยแผดเสียงดังไปสามบ้านเจ็ดบ้าน
"มันไม่ใช่อย่างนั้นนะแวน โต้อธิบายได้"
"กรี๊ดดดด ยังจะมาอธิบายอะไร แวนเห็นอยู่ตำตา นี่แน่ะ อีบ้า"
พอโตโต้ลุกขึ้นกุมเป้าไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันกายเอาไว้แวนก็ปรี่ดึงแขนภูมิบุญมากระหน่ำตบทันที
"โอ๊ย อย่าครับคุณแวน อย่า"
ภูมิบุญร้องขอความเห็นใจ น้ำตาไหลออกมา ตามหน้าแดงไปด้วยแรงตบ
"พอแล้วแวน ออกมานี่นะ"
โตโต้ถลาเข้ามาดึงตัวออกแวนกรี๊ดเสียงดังทั้งเท้าทั้งมือพยายามจะดึงเอาตัวภูมิบุญมาทำร้าย
"ฮึกๆ" ภูมิบุญเอามือกุมหน้าร้องไห้ออกมาอย่างอดสู รู้สึกเจ็บและอายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
"พอแล้วแวน ออกไปคุยข้างนอก อย่ามาระรานใครแถวนี้นะ โต้ไม่ชอบ"
เสียงของโตโต้กร้าวแข็ง จับตัวของแวนไว้แน่น
"อะไรค๊ะ นี่โต้ออกรับแทนมัน มันหมายความว่ายังไง ห๊า ตอบมานะโต้ แวนไม่ไปไหนทั้งนั้น มันนั่นล่ะควรจะไป"
แวนเองก็ไม่ยอมลงง่ายๆถลึงตาใส่โตโต้ พลันน้ำตาก็ไหลออกมาอาบน้ำเช่นกัน
"ทำไมค๊ะโต้ ทำไม ทำไมโต้ทำแบบนี้ แวนเสียใจมากนะ แวนผิดหวังในตัวโต้มาก"
"แวน"
"โต้จะเอายังไง แวนไม่ดีตรงไหนโต้ถึงต้องมาเสพสุขกับมัน น่ารังเกียจ แวนรับไม่ได้"
แวนกรีดร้องออกมาร่ำไห้อยู่ปานใจจะขาด ตีอกชกตัวโตโต้อยู่
"โต้ เอ่อ"
"มักมาก ไม่รู้จักพอ เพราะมันยั่วโต้ใช่ไหม เพราะมันใช่ไหม"
แวนหวีดเสียงขึ้นสูงหันไปหาภูมิบุญที่กึ่งนั่งกึ่งนอนตัวสั่นร้องไห้อยู่
"อย่านะแวน"
โตโต้ได้แต่ร้องห้ามเพราะแวนถลาเข้าไปดึงแขนภูมิบุญกระชากออกมาแล้วตบตีอย่างโหดร้าย ภูมิบุญไม่ได้ปกป้องอะไรเลย ยอมแต่โดยดี มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมา
"หยุดนะแวน ผมบอกให้หยุด"
โตโต้กระชากแขนแวนออกมาอย่างแรงจนร่างของเธอเซไปอีกด้าน
"โต้ ตกลงโต้จะเอายังไง ห๊า โต้ปกป้องมันทำไม แวนไม่ย๊อม กรี๊ดดด"
แวนหันมาเล่นงานโตโต้ตีตามตัวอยู่ กรีดร้องเหมือนคนบ้าที่เสียสติไปแล้ว
"ถ้าแวนยังพูดไม่รู้เรื่องเอาไว้คุยกันวันหลัง"
"โต้"
"แกจำเอาไว้ มันไม่จบแค่นี้แน่นอน อีเกย์ทุเรศ"
แวนหันไปชี้หน้าด่ากราดภูมิบุญ แล้วหันหน้ามาหาคนรักที่ปันร่างให้คนอื่นและคนๆนั้นก็เป็นผู้ชายด้วยกัน ความเจ็บแสบมันถาโถมเข้าหาหัวใจของแวนอย่างที่ไม่เคยเผชิญมาก่อน ด้วยสภาพสังคมและฐานะ เกิดมาเธอไม่เคยต้องรับวิบากกรรมใดๆที่บั่นทอนความรู้สึกได้มากมายถึงเพียงนี้ เธอเป็นสาวสวยร่ำรวยที่บรรดาชายหนุ่มทั้งแก่ทั้งอ่อนต่างหมายปอง เวลาไปไหนมาไหนเธอต้องเป็นจุดสนใจของบรรดาคนเหล่านั้น แล้วนี่มันอะไร เกย์คนนั้นมันมีดีตรงไหน ชายคนที่เธอคิดจะเอาให้อยู่หมัดแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว ไฉนกลับมาทำให้เจ็บช้ำได้ถึงเพียงนี้ ความโกรธแค้นเจ็บปวดมันประดังเข้ามาพายุที่ก่อตัวรวดเร็วมันยังกระหน่ำซ้ำเติมอยู่ในหัวใจไม่ได้หยุดหย่อยซาลงเลย
"โต้จะเอายังไง บอกแวนมา โต้ไล่มันออกจากบ้านได้ไหม แวนไม่อยากจะเจอหน้ามันอีก แวนจะทำเป็นลืมเรื่องนี้ไปซะ แค่โต้ทำอย่างที่แวนบอก"
แวนคร่ำครวญออกมาทั้งน้ำตา สายตามองดูหน้าแฟนหนุ่มที่ทำสีหน้าลำบากใจไปไม่น้อยกว่าเธอ
"เอ่อ"
"ว่าไงคะโต้ โต้จะเอายังไง แวนไม่ยอมนะคะ"
แวนยังคงรุกไล่อยู่ไม่ยอมง่ายๆ ถลึงตาใส่โตโต้ที่เมินหน้าเสียไปทางอื่นเพราะความลำบากใจ
"เราเอาไว้คุยกันดีกว่านะแวน"
"ไม่ได้ โต้ต้องตัดสินใจมาเลย แวนไม่ยอม"
แวนหวีดเสียงขึ้นสูง สายตาจิกอยู่ที่ใบหน้าของโตโต้
"แวนกลับไปก่อนได้ไหม ตอนนี้ผมยังคิดไม่ออก"
เสียงของโตโต้เครียดจัด เปลี่ยนสรพพนามแทนตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ตัว
"โต้ ได้ ในเมื่อโต้ทำแบบนี้ อย่าหาว่าแวนไม่เตือน"
แวนสะบัดหน้าออกไปจากห้องทันที โตโต้วิ่งตามออกไป ส่วนภูมิบุญพอทั้งสองออกจากห้องไปก็แสยะยิ้มออกมา
"หึหึ ใครกันแน่ที่จะรักใคร คุณบังคับให้ผมทำเองนะคุณโตโต้"
เมื่อคืนพอกดโทรศัพท์ไปหาพลอยภูมิบุญก็บอกเรื่องที่วานให้พลอยช่วย
"พลอย ช่วยโทรไปเบอร์นี้ให้หน่อยสิ ขอสายพี่ฝนนะ"
"เบอร์ใครอ่ะภูมิ"
"เบอร์บ้านพี่แทน"
"มีอะไรหรือเปล่าภูมิ นายติดต่อพี่แทนไม่ได้เหรอ"
พลอยสงสัยเพราะภูมิบุญยังไม่บอกจุดประสงค์ที่แท้จริง
"ไม่มีอะไรหรอกพลอย เดี๋ยวเราเล่าให้ฟัง"
"ได้ๆ แล้วไงต่อ"
"พลอยขอเบอร์ของพี่แวนนะ บอกว่าเป็นเพื่อนเก่าตั้งแต่สมัยเรียนติดต่อไม่ได้ พอได้เบอร์มาก็ใช้เบอร์ตู้โทรไปบอกพี่แวนหน่อย ว่าตอนนี้เรากับคุณโตโต้อยู่ที่รีสอร์ทกันสองคนที่เขาค้อ เขาน่าจะรู้จัก"
"อ้อ เราเข้าใจแล้ว ร้ายจังนะภูมินายอ่ะ"
"ไม่หรอกพลอย เราไม่ยอมเสียอะไรไปง่ายๆหรอก ทุกอย่างมันเป็นแผนที่เขาวางไว้แล้วต่างหาก เดี๋ยวเราเล่าให้ฟัง ตามนี้นะพลอย"
พอวางสายจากพลอยเสร็จก็เดินกลับออกไปห้องนอน มองคนตัวใหญ่ที่นอนหลับสนิทไปแล้วยิ้มออกมาที่มุมปาก
"ขอให้มันเป็นไปอย่างที่ผมคิดเถอะ อยากรู้จังว่าคุณจะแก้ปัญหายังไง"
ภูมิบุญเบียดกายเข้าหาโตโต้ทันที กอดเขาอย่างไม่มีอะไรเคลือบแคลงใจ แสดงความรู้สึกออกไปอย่างเต็มที่
โตโต้กลับเข้ามาในห้องหน้าเครียด ถอนหายใจออกมา ภูมิบุญยังคงสะอื้นอยู่
"เจ็บไหมภูมิ พี่ขอโทษนะ"
โตโต้เข้ามานั่งข้างเตียงดึงตัวภูมิบุญมากอด นับเป็นครั้งแรกที่เขาขอโทษภูมิบุญออกมาจากใจ รู้สึกผิดมากเหมือนกัน ที่ภูมิบุญโดนทำร้ายต่อหน้าต่อตา เพราะตามพื้นเพนิสัยแล้ว เขาเป็นคนเกลียดการใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะใครกับใคร
"ผมไม่เป็นไรครับ คุณโตโต้ไปดูคุณแวนเถอะ"
"แวนกลับไปแล้ว เฮ้อ รู้ได้ไงวะ ใครมันกวนตีนไปบอก"
โตโต้แสดงความสงสัยออกมา
"คงมีคนไม่หวังดี ภูมิมีแต่คนเกลียดนี่ครับคุณโตโต้ ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย ภูมิขอโทษ"
ภูมิบุญร้องไห้สะอื้นออกมาอย่างสุดกลั้น โตโต้กอดตัวของภูมิบุญไว้
"ไม่หรอกภูมิ เราไม่ผิดหรอก ทำยังไงได้เรื่องมันเกิดแล้วนี่ อย่าคิดมากนะครับ ไม่เอาๆ อย่าร้องไห้"
"ภูมิบอกแล้ว ว่าถ้ามันเกิดขึ้นภูมิจะไปเอง ภูมิเสียใจนะครับคุณโตโต้"
ภูมิบุญกอดโตโต้แน่นสะอื้นจนตัวโยน โตโต้เคลิ้มไปกอดตัวไว้แน่นเช่นกันลูบตามไรผมปลอบอยู่
"แล้วภูมิจะไปไหนครับ"
โตโต้ฉายแววตาออกมา
"ภูมิจะไปจากชีวิตคุณโตโต้เสียที เข้ามาในบ้านภูมิก็เอาแต่เรื่องมาให้ ภูมิไม่ควรค่ากับความดีของคุณท่านกับคุณโตโต้หรอกครับ"
เสียงที่เจือออกมาด้วยน้ำตา แม้มันจะเป็นการเสแสร้งของคนที่กำลังร้องไห้อยู่แต่มันก็สะท้อนลึกลงไปในใจของคนฟัง นี่มันเกิดอะไรขึ้น นี่เขาทำอะไรลงไป เด็กคนนี้ถ้าจะมองให้ดีชีวิตของเขาช่างน่าสงสาร มันน่าสมเพชเวทนามากกว่าที่จะมาจงเกลียดจงชัง แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถ้าเขาเลิกกับแวนในครั้งนี้ เด็กคนนี้ล่ะที่เป็นสาเหตุ
"อย่าพูดอย่างนั้นสิครับภูมิ เราพูดเหมือนเรามีใจให้พี่เลยนะ"
โตโต้พูดทีจริงทีเล่น ภูมิบุญผงะหน้าออกจากอกของเขาแล้วจ้องมองตาของโตโต้ทั้งน้ำตา
"คุณโตโต้ไม่รู้ตัวเหรอครับ ว่าภูมิมีใจให้คุณ เพราะแบบนี้ล่ะครับ ภูมิจะขอไปเอง ภูมิขอเจ็บคนเดียวเอง"
น้ำตาที่ไหลออกมาปกคลุมม่านตามันช่างน่าสงสารจับใจ โตโต้สะอึกเม้มปากเข้าหากันแน่น
"เอาเถอะภูมิ อย่าคิดอะไรมากนะครับ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดนะครับคนดี"
โตโต้ก้มลงจูบหน้าผากของภูมิบุญเอามือปาดน้ำตาออกให้ แต่คนตัวเล็กกลับผลิตน้ำตาออกมา ทำทีเหมือนทราบซึ้งในคำพูดของโตโต้ สภาพของภูมิบุญในตอนนี้ถ้าใครไม่สงสารก็นับว่าใจดำเต็มที น้ำตาที่ไหลอาบลงมาทั้งสองแก้มเปรอะเปื้อนแม้จะมีมือใหญ่คอยปาดออกเช็ดให้แต่มันก็ยังคงไหลออกมา เขาไม่ได้เรียกร้องอะไรจากคนที่เขากอดรัดอยู่ ไม่ได้ขอร้องให้เขาอยู่เป็นเพื่อน แต่คนตัวใหญ่จากที่เกลียดชังก็กอดปลอบโยนไว้อย่างไม่รังเกียจเช่นกัน เกือบจะลืมไปว่าเคยเกลียดคนๆนี้มากมายเพียงใด
มีสิ่งใดไหมที่เราตอบคำถามตัวเองไม่เคยได้ มีสิ่งใดไหมที่เราตั้งคำถามให้ตัวเองแล้วหาคำตอบให้ใจไม่เคยได้ อันความรู้สึกนั้นเปราะบางเช่นใยแก้ว ความรู้สึกเพียงน้อยนิดสามารถโค่นแม้รากของต้นไม้ใหญ่ ทำลายแม้ภูเขาน้ำแข็ง มีคนเขาบอกว่าคนรักกันคือเรื่องของคนสองคน ถ้าหากความรู้สึกตรงกันความรักนั้นไม่มีวันเสื่อมคลาย แต่แม้นหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งความรู้สึกลดน้อยถอยลงไป ความรักนั้นฤาจะยาวนาน จะกล่าวโทษเขาหรือ ก็ไม่ใช่เรื่อง อันความรู้สึกของมนุษย์เราเพียงแค่โดนลมเป่าก็เปลี่ยนไปแล้ว ถ้าหากว่าเรามีคนรัก รักใครสักคนอย่าเอาความรู้สึกเหล่านี้เป็นที่ตั้งเลย ให้เอาใจที่หนักแน่นเป็นที่ยึดเหนี่ยวความสัมพันธ์เอาไว้ เพราะแม้นความรักแปรเปลี่ยนไป ก็เหมือนกับแก้วเจียระไนใบงามที่แม้นหากร้าวเมื่อใด ใครหน้าไหนจะมีปัญญาเชื่อมต่อมันให้เหมือนดังเดิม ไม่มี
โตโต้ปลอบโยนภูมิบุญอยู่จนสาย พอถึงเวลาต้องกลับภูมิบุญก็ขอร้องให้ไปกราบธาตุของยายอีกรอบ โตโต้ไม่ได้ขัดใจแต่อย่างใด บรรยากาศภายนอกช่างสวยงาม อากาศที่เย็นสบาย สายหมอกเริ่มที่จะจางลง พระอาทิตย์สาดแสงได้เต็มกำลังเผยให้เห็นถึงความงามที่ซ่อนเร้นไว้ด้วยเงาแห่งหมอก แต่บรรยากาศเหล่านั้นไม่ได้ช่วยอะไรให้บรรยากาศในรถดีขึ้นมาได้เลย โตโต้เองก็เงียบครุ่นคิดอยู่ ภูมิบุญเองก็เงียบได้แต่มองออกไปนอกกระจกรถราวกับจะจดจำภาพเหล่านี้ให้ติดตาไปตลอด พอถึงวัดภูมิบุญก็แวะซื้อพวงมาลัยกับธูปเทียนเหมือนเคย
"ยายจ๋า ภูมิจะกลับมาที่นี่อีก ภูมิจะมาเยี่ยมยายบ่อยๆนะ"
ภูมิบุญพูดเสียงเบาครางออกมา ควันธูปฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ โตโต้ยืนมองอยู่ด้วยความรู้สึกที่เริ่มปั่นป่วน ความรู้สึกที่มีตั้งต้นไว้อยู่แล้วบวกรับกับความรู้สึกใหม่ที่ถาโถมเข้ามา
"ภูมิจะอดทนนะยาย ภูมิทำจะทำแต่ความดี แต่ยายจ๋า ภูมิต้องยอมเขาไหม คนที่คิดคอยทำร้ายภูมิ ภูมิไม่เคยไปทำร้ายใครก่อน ภูมิจำเป็นต้องยอมเขาไหม ภูมิยังจำวันนั้นได้นะยาย วันที่ยายก้มลงจะกราบไอ้ปลัด ภูมิเสียใจ ภูมิเสียใจ"
พลันน้ำตาก็ร่วงออกมา ภูมิบุญเม้มปากแน่น คราใดที่ระลึกถึงยายผู้เป็นที่รัก คราใดที่คิดภาพย้อนถึงอดีต ภาพเหล่านั้นมันยังฉายออกมาแจ่มชัดนัก ครานั้นความอ่อนแอที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจก็เผยออกมา ตัวตนที่แท้จริงของภูมิบุญคือคนที่กำลังน้ำตาไหลสะอื้นตัวโยนอยู่หน้ากำแพงวัด หน้าป้ายเก็บกระดูกเถ้าธุลีของยายคนนี้เองคือตัวตนของภูมิบุญ โตโต้สะท้อนใจเดินเข้ามานั่งลงข้างๆจับบ่าภูมิบุญไว้อีกรอบ
"โอเคไหมภูมิ"
"ยายจ๋าภูมิลายายนะ ภูมิสัญญาภูมิจะกลับมาหายายอีก ภูมิสัญญา"
ภูมิบุญแทบไม่ได้ยินเสียงเรียกของโตโต้จิตใจเพ่งตรงไปยังแท่นปูนเบื้องหน้าร่ำไห้ปิ่มใจจะขาด พอคืนสภาพดังเดิมโดยใช้เวลาพอสมควรก็รู้สึกตัวได้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียว "ไม่ได้ เขาจะมาเห็นความอ่อนแอของเราไม่ได้" ภูมิบุญบอกตัวเองในใจแล้วลุกขึ้นเอามือปาดน้ำตาออก
"หิวไหมครับภูมิ แวะกินอะไรกันก่อนไหม จะได้ซื้อของฝากไปให้แม่ด้วย"
โตโต้เสนอภูมิบุญก็ไม่ขัดอะไรพยักหน้าแล้วเดินตามโตโต้ไปขึ้นรถ
"คุณโตโต้จะทำยังไงต่อไปครับ เรื่องคุณ"
เว้นช่วงจังหวะไว้ ภูมิบุญถามขึ้นเมื่อเสร็จธุระในตัวเมืองเพชรบูรณ์แล้ว โตโต้กำลังบึ่งรถมุ่งตรงเข้ากรุงเทพฯ สายตาของเขาฉายความเครียดที่อยู่ภายในออกมาทันที
"ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง"
"ครับ ภูมิขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆจากใจ"
น้ำเสียงของภูมิบุญสลดลงไปก้มหน้าลงต่ำ โตโต้เหลือบตามามองแล้วก็ถอนหายใจ
"เอาน่าภูมิ ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องห่วง"
โตโต้ทำเสียงร่าเริงขึ้นมา ภูมิบุญเองก็ถอนหายใจแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างรถ
"หึหึ ผมรอดูอยู่นะครับคุณโตโต้ ผมไม่ถอยให้หรอก แม้แต่ก้าวเดียว"
ภูมิบุญแสยะยิ้มออกมาบอกตัวเองในใจ ภาพป่าเขาที่รายล้อมอยู่ข้างทางมันช่างสวยงามวิจิตรเสียจริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น