พอเดินตามอ๊อฟไปจนถึงหน้าอาคารที่พักภูมิบุญก็ขอตัวแยกกลับไปหาก้องทันที
"อ้าว ไม่ไปนอนกับพี่เหรอครับน้อง"
"ไม่เป็นไรครับพี่ ผมไม่อยากทำให้พี่มีข่าวที่ไม่ดี"
ภูมิบุญพูดอ้อมแอ้มหลุบตาลงต่ำ ในใจอยากจะบอกไปว่า "พี่ไม่กลัวเหรอ ผมเป็นเกย์นะ" แต่ก็เงียบเก็บความคิดให้มลายหายไปกับสายตาที่ก้มลงมองดูพื้น
"เฮ้ย เสียหายอะไรน้อง พี่ไม่ได้ทำอะไรเสียหายทำไมต้องมีข่าวที่ไม่ดี"
อ๊อฟยังไม่เข้าใจที่ภูมิบุญพยายามจะสื่อออกไป
"พี่ครับ ผมไม่กวนพี่ดีกว่า เดี๋ยวเพื่อนๆเขาจะหมั่นไส้ผมเอา เป็นรุ่นน้องแต่ไปนอนห้องของรุ่นพี่ ผมไม่อยากได้อภิสิทธิ์เหนือเพื่อนๆครับ ขอบคุณนะครับพี่"
ภูมิบุญขี้เกียจที่จะอธิบาย บอกขอบคุณแล้วเดินแยกไปทันที อ๊อฟเองก็เกาหัวอยู่ยืนงงอยู่
"มันเหมือนเกย์ตรงไหนวะ แค่หน้าตาน่ารักเท่านั้นเอง"
อ๊อฟพูดกับตัวเอง แล้วเดินไปที่ห้องพักของรุ่นพี่ ส่วนพลอยพอแยกจากภูมิบุญก็เดินขึ้นตึกไปยังห้องพักของคณะของตัวเอง แต่ฟ้าและนิตาเดินตามหลังมาด้วย
"ว่าไงอีตัวดี แกทำชั้นเสียทรงผมเลยนะ วันนี้ล่ะแกเตรียมตัวไว้เลย ชั้นจะมาเอาคืน"
ฟ้าผลักหลังของพลอยที่กำลังจะขึ้นบันได้ตึกให้หัวขมำไป แต่เจ้าตัวเอามือค้ำบันได้เอาไว้จึงไม่เป็นไร
"ตบมันเลยฟ้า เอาให้มันรู้ว่าการที่ทำให้คนอื่นอายน่ะเป็นยังไง"
"นี่ ใครกันแน่ที่ทำให้คนอื่นอาย อย่ามาวอแวกันนะ"
"อ้าว ไม่ไปนอนกับพี่เหรอครับน้อง"
"ไม่เป็นไรครับพี่ ผมไม่อยากทำให้พี่มีข่าวที่ไม่ดี"
ภูมิบุญพูดอ้อมแอ้มหลุบตาลงต่ำ ในใจอยากจะบอกไปว่า "พี่ไม่กลัวเหรอ ผมเป็นเกย์นะ" แต่ก็เงียบเก็บความคิดให้มลายหายไปกับสายตาที่ก้มลงมองดูพื้น
"เฮ้ย เสียหายอะไรน้อง พี่ไม่ได้ทำอะไรเสียหายทำไมต้องมีข่าวที่ไม่ดี"
อ๊อฟยังไม่เข้าใจที่ภูมิบุญพยายามจะสื่อออกไป
"พี่ครับ ผมไม่กวนพี่ดีกว่า เดี๋ยวเพื่อนๆเขาจะหมั่นไส้ผมเอา เป็นรุ่นน้องแต่ไปนอนห้องของรุ่นพี่ ผมไม่อยากได้อภิสิทธิ์เหนือเพื่อนๆครับ ขอบคุณนะครับพี่"
ภูมิบุญขี้เกียจที่จะอธิบาย บอกขอบคุณแล้วเดินแยกไปทันที อ๊อฟเองก็เกาหัวอยู่ยืนงงอยู่
"มันเหมือนเกย์ตรงไหนวะ แค่หน้าตาน่ารักเท่านั้นเอง"
อ๊อฟพูดกับตัวเอง แล้วเดินไปที่ห้องพักของรุ่นพี่ ส่วนพลอยพอแยกจากภูมิบุญก็เดินขึ้นตึกไปยังห้องพักของคณะของตัวเอง แต่ฟ้าและนิตาเดินตามหลังมาด้วย
"ว่าไงอีตัวดี แกทำชั้นเสียทรงผมเลยนะ วันนี้ล่ะแกเตรียมตัวไว้เลย ชั้นจะมาเอาคืน"
ฟ้าผลักหลังของพลอยที่กำลังจะขึ้นบันได้ตึกให้หัวขมำไป แต่เจ้าตัวเอามือค้ำบันได้เอาไว้จึงไม่เป็นไร
"ตบมันเลยฟ้า เอาให้มันรู้ว่าการที่ทำให้คนอื่นอายน่ะเป็นยังไง"
"นี่ ใครกันแน่ที่ทำให้คนอื่นอาย อย่ามาวอแวกันนะ"
"ชั้นไม่ได้มาวอแวกับแกแต่จะมาตบสั่งสอน อีปากดี"
"เอาสิ มีมืออยู่คนเดียวเหรอ"
พลอยตั้งตัวได้ยืนขึ้นอยู่ขั้นบันไดที่สูงกว่าหันหน้าสู้
"ทำไม แกจะทำไม หนอย ขอตบสักทีเถอะ"
"มาสิ เดี๋ยวถีบตกบันได้อย่าหาว่าไม่เตือน"
พลอยตั้งท่า ฝ่ายฟ้ากับนิตาถอยร่นไปเพราะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่า พอเห็นทีท่าของพลอยก็ไม่ใช่จะยอมง่ายๆจึงได้แต่กัดฟันอยู่ พลอยเดินถอยหลังขึ้นบันได้ไปเพราะหวาดๆอยู่เหมือนกัน ด้วยตัวเองมีคนเดียวแต่ศัตรูมีถึงสี่ พอถึงพื้นของชั้นสองพลอยก็รีบเดินไปหาห้องพักของตัวเอง เห็นหน้าเพื่อนร่วมคณะก็ปรี่เข้าห้องนั้นไป ฝ่ายฟ้ากับนิตาก็ใช่ว่าจะยอมแพ้ง่ายๆ เดินตามขึ้นไปอีก
"ใครไม่เกี่ยวออกไปจากห้องนี้ให้หมด อย่าหาว่าชั้นไม่เตือน"
เสียงนิตาขู่ดังลั่น ในห้องมีแต่รุ่นน้องปีหนึ่งที่พอได้ยินเสียงตวาดก็พากันกลัว มองหน้ากันเหรอหราหน้าซีด
"ยังไม่ออกไปอีก อยากโดนตบหรือไง ห๊า"
นิตาปรี่เข้าไปยืนกลางห้องมองตาขวาง ปรี๊ดเสียงแหลมดังขึ้น น้องๆเดินออกจากห้องทันที เหลือเพียงพลอยที่ยืนใจสั่นอยู่ แม้จะใจนักเลงแต่ตัวคนเดียวลำพังตัวพลอยคนเดียวสู้แบบรุมหรือมาแบบหมู่ย่อมต้านไม่ได้แน่นอน
"แกหนีไปไหนไม่พ้นหรอกนะ อีตัวดี"
ฟ้าปรี่เข้าไปหาพลอย แบกมือไปตั้งแต่ยังไม่ถึงตัว พลอยเห็นท่าก็ถีบเข้าที่ห้อง
"กรี๊ดดด"
"อีนี่ จัดการมันเลยพวกเรา"
นิตาส่งเสียงเรียกแนวร่วม ทั้งสามกรูกันเข้าหาพลอย
"หยุดนะ!!!!"
เสียงตวาดดังมาจากประตูห้อง
"พวกเธอจะทำอะไร เป็นรุ่นพี่ประสาอะไรมารังแกรุ่นน้อง น่าเกลียดที่สุด"
หญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าประตูตวาดเสียงดังลั่น ทั้งหมดชะงักอยู่มองไปทางต้นเสียง
"ฝ้าย เธอไม่เกี่ยวนะ นี่มันเป็นเรื่องของเรากับอีนี่" นิตาตวาดคืน
"ฉันไม่รู้นะว่าพวกเธอจะมีปัญหาอะไรกันมา แต่อย่างน้อยเธอควรจะให้เกียรติเคารพสถานที่บ้าง"
ฝ้ายก็ไม่ยอมแพ้เดินเข้ามาบังหน้าพลอยเอาไว้ สายตามองนิตาไม่ยอมวางตา
"อย่ามายุ่งนะฝ้าย ชั้นจะตบอีนี่ให้เลือดปากออก ให้สาสมกับที่มันทำให้ชั้นเสียผมของชั้นไป"
"หยุดนะฟ้า พวกนี่เธอนี่อะไรกัน นี่มารับน้องนะ พวกเธอเป็นรุ่นพี่ ทำตัวแบบนี้แล้วน้องที่ไหนมันจะเคารพนับถือ ไร้สาระที่สุด"
"เธอไม่รู้เรื่องอะไรถอยไปดีกว่าฝ้าย ถ้าเธอไม่อยากเจ็บตัว" นิตาขู่สายตาไม่ละจากฝ้าย
"ก็ลองดูนิตา ถ้าเธอคิดว่าอำนาจเงินของเธอมันจะสู้กับความจริงได้ แต่เธอคงลืมอะไรไปว่าเราก็เป็นลูกรองคณบดีนะ อยากงัดข้อกันก็ลองดู"
"ฝ้าย"
"หรือ เธออยากให้เรื่องมันถึงมหาฯลัย"
ฝ้ายขู่ นิตากับพวกมองหน้ากันแล้วกัดฟันอยู่ ปกตินิตาเป็นคนที่เรียบร้อยไม่เคยคุยโอ้อวดว่าเป็นลูกใครมีฐานะทางบ้านเป็นอย่างไร แต่พอเวลาจวนตัวเธอก็พูดให้ตนเองเป็นใหญ่ได้เหมือนกัน
"แกได้เจอดีแน่ อีพลอย"
ฟ้ายังคงขู่ก่อนจะสะบัดหน้าเดินตามนิตาออกไปจากห้อง
"ขอบคุณมากนะคะพี่ฝ้าย"
พลอยยกมือไหว้ ฝ้ายคือรุ่นพี่ปีสี่คณะเดียวกันกับพลอย เป็นคนสวยผิวสีแทนจมูกเป็นสันตากลมโต ฝ้ายคือแฟนสาวของโต้งนั่นเอง ทั้งสองคบกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งจนจะจบการศึกษา บิดาของโต้งเป็นรองผู้ว่าในจังหวัดทางภาคเหนือ เรื่องอุปสรรคกีดกันจึงไม่มีปัญหา อีกทั้งทั้งสองคนเป็นรุ่นพี่ที่ดีไม่เคยโอ้อวดยกตนเองข่มคนอื่น
"มีอะไรกันพลอย ทำไมพวกนั้นถึงตามมาหาเรื่องถึงที่นี่"
ฝ้ายหันหน้ามามองหน้าพลอยอย่างต้องการคำตอบ
"ก็เคยมีเรื่องกันล่ะค่ะพี่ฝ้าย พวกนี้ร้าย ที่จริงเขาตั้งใจจะหาเรื่องภูมิค่ะ ไม่ใช่พลอย แต่พลอยดันไปขวางทางพวกเขาเลยโดนตามจองล้างจองผลาญแบบนี้ล่ะค่ะ"
พลอยเล่าระบายลมหายใจออกมา ฝ้ายมองหน้าพลอยอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมรุ่นพี่ที่โด่งดังในรั้วมหาวิทยาลัย มีชื่อเสียงว่าอยู่ในแวดวงไฮโซ ต้องมาตามราวีภูมิบุญแม้กระทั่งพลอยเอง พลอยถอนหายใจออกมาก่อนจะเล่าให้ฝ้ายฟังเรื่องราวคร่าวๆ ฝ้ายพยักหน้ารับรู้ถึงเรื่องที่พลอยถ่ายทอดออกมา
"น่าเห็นใจภูมินะ รู้สึกมีแต่คนไม่หวังดี แต่เอาเถอะ คนไม่ดีก็อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเขาเลย มันจะดึงเราให้ลงที่ต่ำไปด้วยเปล่าๆ"
"แต่แหมพี่ฝ้ายคะ หนูไม่ได้อยากยุ่งด้วยหรอกนะคะ แต่พี่ดูเอาเถอะ ตามมาจะตบหนูถึงที่นี่"
"มีอะไรก็ให้มาบอกพี่นะพลอย อย่าเอาตัวเข้าแลก ถ้าเรื่องถึงมหาฯลัยขึ้นมามันจะลำบาก เคราะห์ซ้ำด้ามพลอยจะได้ย้ายที่เรียนเอาเพราะวิวาทกัน"
ฝ้ายบอกมองหน้าพลอยที่เริ่มครุ่นคิดในสิ่งที่รุ่นพี่บอก
"เราโตๆกันแล้ว การใช้กำลังไม่ใช่วิถีทางของการแก้ปัญหา"
"แล้วให้ทำยังไงล่ะคะพี่ฝ้าย ให้หนูยืนนิ่งให้เขาตบไม่ได้หรอกนะคะ หน้าตาหนูเสียโฉมหมดพอดี"
พลอยยังพูดติดตลก ฝ้ายเหลือบตาขึ้นมองพลอยจึงหยุดยิ้มหุบปากลงทันที
"มันมีหลากหลายวิธีนะจ๊ะพลอย การสู้รบกันผลออกมาก็คือเจ็บตัวด้วยกันทั้งสองฝ่าย เผลอๆปัญหาก็ยังแก้ไม่ได้พอกพูนเพิ่มขึ้นไปอีก สู้เรามาหาทางออกด้วยสันติวิธีจะดีกว่าไหม"
ฝ้ายพูดยกเอาหลักการเหตุผลมาอ้างอิง
"พี่ฝ้ายคิดว่าคนพวกนี้จะคุยด้วยสันติวธีได้ด้วยเหรอคะ หนูว่าคงยาก"
"พลอยคนเราน่ะไม่มีใครชอบโดนรังแกหรอกนะ ทุกคนรักในสิทธิเสรีภาพของตนเองกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นพี่ว่าพวกนิตาเองก็คงไม่ใช่ว่าชอบที่มาวอแวคนอื่นหรอกนะ คงทำเพราะกำลังโกรธ คนโกรธน่ะเหมือนอยู่ในที่สว่าง เวลาทำอะไรลงไปมักควบคุมตัวเองไม่อยู่ แต่ผลที่ได้มันอาจจะไม่คาดคิดก็ได้นะ"
ฝ้ายพูด "ใช่สินะ ถ้าเราอยู่ในที่มืดพวกนิตาอยู่ในที่สว่าง ไม่เอาทองไปลู่กระเบื้อง ทีนี้จะทำอะไรคนก็มองไม่เห็นอยู่ดีว่าเราทำ" พลอยกลับคิดไปในทางนั้น ยืนคุยอยู่กับฝ้ายสักพักก็เดินตามออกไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆที่หน้าอาคาร เพื่อที่จะรับประทานอาหารและฟังการกล่าวต้อนรับของครูใหญ่พอทานข้าวเสร็จ รุ่นพี่จัดเรียงรุ่นน้องตามคณะ วันแรกของการรับน้องจะเป็นการช่วยงานสร้างอาคารห้องสมุด เพราะอยากให้เสร็จภายในวันเดียว โครงสร้างของอาคารถูกวางไว้แล้ว เพราะมีรุ่นพี่คณะวิศวะฯหลายคนมาที่นี่ก่อนหน้าแล้ว เหลือเพียงมุงหลังคาเทปูนที่พื้นฉาบผนัง ทาสี และจัดหนังสือเข้าชั้นไม้ที่ทำไว้ก่อนแล้ว ก็เป็นอันเสร็จ พอวันรุ่งขึ้นถึงจะมีการรับน้องกันตามคณะ พลอยปรี่เข้าไปหาภูมิบุญหลังจากที่รุ่นพี่แจงรายการที่ต้องทำภายในวันนี้
"ระวัง ตัวหน่อยก็ดีนะพลอย เราเองก็ยังไม่เจอไอ้ทัน"
ภูมิบุญพูดออกมาสีหน้าเป็นกังวลไม่น้อยไปกว่าพลอยเหมือนกัน
"แต่อย่างน้อยเราก็มีก้อง แต่พลอยสิไม่มีใครคอยช่วย มีอะไรโทรหาเราทันทีเลยนะ"
ภูมิบุญพูดต่อจับบ่าพลอยไว้ สายตามองพลอยเป็นห่วงเป็นใยมากเป็นพิเศษ
"ไม่เป็นไรหรอกภูมิ ถ้ามันเล่นกันต่อหน้า เราก็ไม่ยอมง่ายๆเหมือนกันหรอก แต่อย่ามาลับหลังก็แล้วกัน"
พลอยยังแสดงความใจใหญ่ใจนักเลงออกมา
"นั่นล่ะที่เราเป็นห่วง อย่าประมาท พวกนั้นวางแผนกันขนาดนี้เราว่าคงไม่ยอมง่ายๆแน่ๆ"
"เออ จริงสิ นายจำพี่ฝ้ายรุ่นพี่ที่คณะเราได้ไหม คนสวยๆคมๆน่ะ"
พลอยร้องขึ้นมา ภูมิบุญทำท่าคิด
"อ้อ ใช่แฟนพี่โต้งป่ะ"
"ใช่ พี่ฝ้ายเขาเข้ามาช่วยเราเมื่อเช้า ไม่งั้นคงได้เปิดฉากตบกันสนั่นห้องแน่ๆ"
พลอยพูดออกมาไม่ได้รู้สึกว่ากลัว กลับเห็นว่าเป็นเรื่องสนุกไปเสีย
"แหมพลอย พูดเป็นเล่นไปได้พวกนั้นมีกันตั้งหลายคน พลอยตัวคนเดียวนะ"
"ภูมิ พี่ฝ้ายเขาพูดให้ข้อคิดเรามาด้วยล่ะ พี่ฝ้ายบอกว่าถ้าเราอยู่ในที่มืดแม้จะทำอะไรคนที่อยู่ในที่สว่างย่อมไม่มีทางรู้ เราว่าถ้าจะเล่นกับพวกนี้ต้องใช้สงครามประสาทสู้กันแล้วมั้ง"
พลอยพูดออกมา ภูมิบุญนิ่งฟังอยู่ในใจคิดเรื่องนี้ตั้งนานแล้ว แต่ไม่อยากเอ่ยปากออกมาเพราะเกรงว่าเพื่อนจะหาว่าตนเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นไม่ยอมให้อภัยใคร พอได้ยินพลอยพูดออกมาก็แสยะย้ิมออกมา
"นั่นล่ะพลอย เพราะถ้าเราทำอะไรโจ่งแจ้งไป เรื่องคงไม่จบง่ายๆ อีกอย่างเรื่องเรียนของเรามันคงต้องจบเพราะการมีเรื่องกันเพราะอารมณ์ชั่ววูบเป็นแน่"
ภูมิบุญแสดงความคิดออกมา พลอยยิ้มเพราะความคิดของภูมิบุญช่างคล้ายกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินได้ฟังมาจากฝ้าย ทั้งสองคุยกันอยู่สักพักก็ออกไปช่วยเพื่อนๆทำงาน ขนถังปูนช่วยยกไม้โดยไม่ได้เหน็ดเหนื่อยหรือทำแบบหยิบโหย่งอย่างที่เพื่อนๆหลายคนทำ
"อย่าพักนานนักสิครับน้องๆ เดี๋ยวไม่เสร็จไม่ได้กลับง่ายๆนะครับ เรายืดเวลาได้นะ"
อ๊อฟว่าให้รุ่นน้องที่นั่งจับกลุ่มกันใต้ร่มไม้ พอแดดเริ่มแรงก็เริ่มไม่มีใครสู้ มีเพียงเพื่อนอีกห้าหกคนที่สู้อยู่ พลอยกับภูมิบุญก็รวมอยู่ในนั้น ก้องเองอยู่บนขื่อช่วยรุ่นพี่มุงหลังคาอยู่
"พี่อ๊อฟขา น้ำเย็นๆค่า"
นกคือหนึ่งในกลุ่มของนิตาที่ชื่นชอบในตัวอ๊อฟอย่างออกหน้าออกตา แม้จะเรียนกันคนละคณะแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใดต่อความปรารถนาของเธอที่มีต่ออ๊อฟ เธอกางร่มสีชมพูสดใส่ส้นสูงอยู่ เดินปรี่เข้าหาอ๊อฟ
"ขอบใจนะครับนก"
อ๊อฟหยิบเอาแก้วน้ำจากมือนกแล้วจะยกขึ้นดื่ม
"อุ๊ย หิวน้ำจังภูมิ ภูมิเอาด้วยไหม ก้องกินน้ำไหม"
พลอยที่ใส่หมวกสานด้วยไม้ไผ่ใบกว้างร้องขึ้นเสียงดัง เรียกร้องความสนใจ
"น้องครับ หิวน้ำเหรอครับ เอานี่ไปก่อนไหม"
อ๊อฟแสดงความเป็นสุภาพบุรุษออกมาทันที เดินลิ่วไปหาพลอยกับภูมิบุญ
"อุ๊ย ไม่เป็นไรค่ะพี่ น้ำนี่พี่เขาเตรียมมาเพื่อพี่โดยเฉพาะนี่คะ"
พลอยยิ้มให้แล้วมองเลย ไปทางกลุ่มของนิตา ที่ยืนมองตาเขียวอยู่
"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่ไปเอามาใหม่ น้องดื่มก่อนดีกว่าพี่เห็นยังไม่ได้พักเลยนี่เราน่ะ ขยันๆแบบนี้เดี๋ยวก็เป็นลมหรอก"
"ไม่กล้าค่ะพี่ หนูเคยรับน้ำใจจากคนอื่นแล้วแต่เค้าใส่ยาลงไปคิดไม่ดีไม่ร้าย ไม่เป็นไรค่ะ หนูไปกินน้ำกับพี่ๆฝั่งโน้นดีกว่า"
นกกัดฟันแน่นอยากจะสาดน้ำใส่หน้าพลอยเหลือเกินเพราะสายตาท่าทาง ไม่ได้มองที่อ๊อฟเลยแม้แต่น้อยกลับมองเลยไปยังกลุ่มเพื่อนๆของเธอ
"หือ น้องเคยเจอเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอครับ ใครกันช่างชั่วช้าจริงๆ"
อ๊อฟสบถออกมา คนที่ยื่นแก้วน้ำให้หน้าชากัดปากสายตามองพลอยอย่างเคียดแค้น
"ช่างมันเถอะค่ะพี่ คนเลวยังไงมันก็ไม่มีทางเจอสิ่งดีๆหรอกค่ะ สักวันผลกรรมจะตามสนองมัน ก้องเดี๋ยวเราเอาน้ำมาให้นะ"
พลอยบอกแล้วเดินผละไปทางกลุ่มผู้ชายที่นั่งล้อมวงกันแจกจ่ายเหล้าให้เพื่อนที่ทำงาน บางคนเมาบางคนยังคงทำงานอยู่ นิตาอยากโผเข้าแล้วตบหน้าให้สาแก่ใจ ภูมิบุญเองก็ยืนนิ่งอยู่ ยิ้มออกมาน้อยๆมองไปทางกลุ่มของนิตาที่กางร่มสีสันสดใสกันทุกคน
"เราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะพลอย"
ภูมิบุญบอกหลังจากที่ดื่มน้ำที่พลอยตักมาให้ พอเดินออกจากกลุ่มสายตาสองคู่ก็จ้องมองตามทันที คู่หนึ่งคือทันที่ยังจับกลุ่มกับเพื่อนๆในคณะของตนอยู่ยังไม่เข้าใกล้ภูมิบุญเพราะยังหาโอกาสไม่ได้ ส่วนอีกคู่คือกัสที่คอยมองภูมิบุญอยู่ไม่ห่างเช่นกัน ห้องน้ำต้องเดินอ้อมไปหลังอาคารไม้ เป็นห้องน้ำชายกับหญิงติดกัน ทันเดินอ้อมไปอีกทางทันที กัสเองก็เดินตามภูมิบุญไปห่างๆ
"ก้นนุ่มนี่หว่า ไม่น่าล่ะไอ้แทนมันถึงติดใจ ยอมทิ้งนิตาได้ลงคอ"
ภูมิบุญยังไม่ทันที่จะเปิดประตูเข้าไปในห้องน้ำทันก็ปรี่เข้ามาถึงตัวแล้ว แม้จะรู้ว่ามีคนเดินตามมาแต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเขา ภูมิบุญสะดุ้งเพราะทันจาบจ้วงบีบเนื้อที่ก้นของเขาอย่างแรง
"ทำอะไรน่ะ"
"ทำเป็นสะดีดสะดิ้ง ทำไม กูจับไม่ได้เหรอ เกย์ถูกๆอย่างมึงน่ะจะยอมอยู่กับไอ้แทนเพียงคนเดียวเหรอ กูไม่เชื่อหรอก หน้าอย่างมึงมันหาเงินกูดูแค่นี้กูก็รู้"
ทันผลักของภูมิบุญให้เบียด เข้าไปกับประตูห้องน้ำ
"ปล่อยนะ ผมไม่อยากมีเรื่อง"
"ใครบอกกูอยากมีเรื่องกับมึง กูอยากจะเอามึงต่างหากล่ะไอ้ภูมิ ไหนมีอะไรกับกูมันจะดีเหมือนไอ้แทนไหม เผื่อกูติดใจ มึงรู้ไหมว่ากูรวยกว่าไอ้ทันไม่รู้กี่เท่า"
สายตาสีหน้าที่มองมันเหมือนมองสิ่งมีชีวิตสิ่งอื่นที่ไม่ใช่คนด้วยกัน ภูมิบุญเม้มปากแน่น แต่ก็ไม่อยากโต้ตอบเพราะเห็นกัสเดินมาแล้วอยู่ไม่ไกล
"อย่านะพี่ ผมไปทำอะไรให้พี่ พี่ถึงตามตอแยผม"
ภูมิบุญใส่จริตทำเสียงอ้อนวอน
"อย่ามาตอแหล มึงทำให้คนอย่างไอ้แทนมันตัดความเป็นเพื่อนกับกู มึงเป็นใคร ห๊า เกิดมามีแต่คนอยากคบกับกู มึงทำให้กูเสียหน้า มึงได้คืนอย่างสาสมแน่"
ทันพูดจาฟังไม่รู้เรื่องหน้าแดงก่ำเพราะโกรธกระแทกหลังของภูมิบุญแรงเข้า
"ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมขอโทษนะพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ"
ภูมิบุญพูดเสียงเครือ สายตาที่มองเขาอ้อนวอนขอร้อง มือก็จับแขนของเขาไว้
"หยุดนะไอ้ทัน มึงทำอะไร"
กัสตวาดเสียงดังลั่น เขาเห็นทุกอย่างเพราะยืนมองอยู่ แม้ภูมิบุญจะเห็นกัสเดินมาตั้งนานแล้วแต่ก็ทำท่าเป็นมองไม่เห็น ทันผงะหันไปมองทางกัส
"มึงไม่เกี่ยว กูจะเคลียร์กับมัน"
"ทำไมจะไม่เกี่ยว นั่นแฟนเพื่อนกู มึงมีอะไรให้เคลียร์ ปล่อยน้องเดี๋ยวนี้นะ"
กัสเดินเข้ามากระชากตัวของทันออก ทันเองก็ง้างมือชกไปที่หน้าของกัสทันที แต่รายนั้นหลับทัน
"อย่าพี่ อย่า"
ภูมิบุญร้องเสียงดังผลัก ทันให้ออกไปจากกัส ทันเซไปอีกทาง
"อย่ามีเรื่องกันเลยครับ ผมขอร้อง ถ้าพี่มีเรื่องกันแล้วเรื่องถึงรุ่นพี่ขึ้นมาพี่จะทำยังไง"
ภูมิบุญพูดออกไปเสียงดัง ดังพอที่จะเรียกสติคืนมาให้ทั้งสองคน กัสดึงภูมิบุญไปอยู่ข้างหลังเขา
"มึงอย่าได้คิดเชียวไอ้ทัน มึงจะอะไรนักหนากับน้องมัน ห๊า"
"มึงไม่เข้าใจหรอก มึงไม่ใช่กู เพราะมัน เพราะมันคนเดียว"
"ที่ไอ้แทนเลิกคบกับมึง มึงเองก็น่าจะรู้ตัว กูเตือนมึงแล้ว มึงไม่ฟังเอง"
"หุบปาก กูไม่ยอมง่ายๆแน่ มึงจำไว้"
ทั้งสองสาดเสียงชี้หน้าด่าทอกัน เสียงดังอื้ออึงจนรุ่นน้องหลายคนที่เดินมาเข้าห้องน้ำเดินมาดู ทันเดินหนีไปแล้ว หน้าตาบอกบุญไม่รับเดินจากไปด้วยความเคียดแค้น ภูมิบุญยืนยิ้มอยู่หลังกัส
"เป็นอะไรไหมภูมิ"
กัสหันหน้ามาหาภูมิบุญที่เปลี่ยนสีหน้าทันที
"ขอบคุณนะครับพี่ ผมไม่เป็นไรครับ"
ภูมิบุญเม้มปากก้มหน้า ยกมือไหว้ขอบคุณกัส พอเห็นท่าทางแบบนั้นก็สงสารภูมิบุญขึ้นมาจับใจ "เด็กน่ารักเรียบร้อยขนาดนี้ยังจะคิดเกลียดชังได้ เลิกคบไปน่ะดีแล้วไอ้แทน เพราะกูเองก็จะเลิกคบคนเลวๆแบบนี้เหมือนกัน" กัสบอกตัวเองในใจ ภูมิบุญขอตัวเข้าห้องน้ำไป พอประตุปิดก็แสยะยิ้มออกมาอีกครั้ง
"ลองดูสิ อย่าให้ผมต้องเกลียดใคร ผมไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆแน่"
ภาพคืนวันเก่าๆย้อนเข้ามาในมโนจิต ใบหน้าของอภิชัยที่กอดขาขอร้องไม่ให้ไป รอยยิ้มของภูมิบุญฉายขึ้นมา เงาปีศาจเข้าครอบงำจิตใจ ความมืดของความอคติมันบดบังแสงใดๆที่จะสาดส่องมาให้ความสว่าง ปากกัดเม้มเข้าหากัน "แรงมาเท่าไหร่ จำเอาไว้ผมจะให้คืนกลับไปร้อยเท่าพันเท่า" ความเจ้าคิดเจ้าแค้นฝังมาติดใจจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ภาพยายแก่กับหลานก้มลงกราบแทบเท้าปลัดอำเภอ ขอร้องวิงวอนให้อย่าได้ใจร้ายทำอะไรที่รุนแรง แต่สิ่งที่ได้รับคืออะไร คือภาพวันที่ยายนอนอยู่บนที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติง นอนเหมือนหลับสนิทแต่มือเท้าเย็นเหมือนน้ำแข็ง ร้องเรียกจนไม่มีเสียง เขย่าตัวจนหมดแรงกาย ภาพยายที่เขาเอาโลงยัดเข้าไปในตะแกรง ภาพของเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่สูญเสียช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดของชีวิตไปเพราะมัว คิดหาแต่วิธีแก้แค้นกำลังจะพยายามโผเข้าไป ประหนึ่งจะให้ไฟที่กำลังจุดขึ้นเผาตัวให้ตายไปตามยาย เสียงร้องที่โหยหวนชวนให้น่าสังเวชใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็น เขานอนกลิ้งอยู่กับพื้นจนหมดสติไป ภาพเหล่านั้นมันฉายย้อนให้ภูมิบุญเม้มปากหนักขึ้น สายตามองผนังไม้สีน้ำตาลเก่าๆเหมือนว่ามันได้สร้างริ้วรอยในใจเหล่านี้ให้ แก่เขา
"มึงไม่เกี่ยว กูจะเคลียร์กับมัน"
"ทำไมจะไม่เกี่ยว นั่นแฟนเพื่อนกู มึงมีอะไรให้เคลียร์ ปล่อยน้องเดี๋ยวนี้นะ"
กัสเดินเข้ามากระชากตัวของทันออก ทันเองก็ง้างมือชกไปที่หน้าของกัสทันที แต่รายนั้นหลับทัน
"อย่าพี่ อย่า"
ภูมิบุญร้องเสียงดังผลัก ทันให้ออกไปจากกัส ทันเซไปอีกทาง
"อย่ามีเรื่องกันเลยครับ ผมขอร้อง ถ้าพี่มีเรื่องกันแล้วเรื่องถึงรุ่นพี่ขึ้นมาพี่จะทำยังไง"
ภูมิบุญพูดออกไปเสียงดัง ดังพอที่จะเรียกสติคืนมาให้ทั้งสองคน กัสดึงภูมิบุญไปอยู่ข้างหลังเขา
"มึงอย่าได้คิดเชียวไอ้ทัน มึงจะอะไรนักหนากับน้องมัน ห๊า"
"มึงไม่เข้าใจหรอก มึงไม่ใช่กู เพราะมัน เพราะมันคนเดียว"
"ที่ไอ้แทนเลิกคบกับมึง มึงเองก็น่าจะรู้ตัว กูเตือนมึงแล้ว มึงไม่ฟังเอง"
"หุบปาก กูไม่ยอมง่ายๆแน่ มึงจำไว้"
ทั้งสองสาดเสียงชี้หน้าด่าทอกัน เสียงดังอื้ออึงจนรุ่นน้องหลายคนที่เดินมาเข้าห้องน้ำเดินมาดู ทันเดินหนีไปแล้ว หน้าตาบอกบุญไม่รับเดินจากไปด้วยความเคียดแค้น ภูมิบุญยืนยิ้มอยู่หลังกัส
"เป็นอะไรไหมภูมิ"
กัสหันหน้ามาหาภูมิบุญที่เปลี่ยนสีหน้าทันที
"ขอบคุณนะครับพี่ ผมไม่เป็นไรครับ"
ภูมิบุญเม้มปากก้มหน้า ยกมือไหว้ขอบคุณกัส พอเห็นท่าทางแบบนั้นก็สงสารภูมิบุญขึ้นมาจับใจ "เด็กน่ารักเรียบร้อยขนาดนี้ยังจะคิดเกลียดชังได้ เลิกคบไปน่ะดีแล้วไอ้แทน เพราะกูเองก็จะเลิกคบคนเลวๆแบบนี้เหมือนกัน" กัสบอกตัวเองในใจ ภูมิบุญขอตัวเข้าห้องน้ำไป พอประตุปิดก็แสยะยิ้มออกมาอีกครั้ง
"ลองดูสิ อย่าให้ผมต้องเกลียดใคร ผมไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆแน่"
ภาพคืนวันเก่าๆย้อนเข้ามาในมโนจิต ใบหน้าของอภิชัยที่กอดขาขอร้องไม่ให้ไป รอยยิ้มของภูมิบุญฉายขึ้นมา เงาปีศาจเข้าครอบงำจิตใจ ความมืดของความอคติมันบดบังแสงใดๆที่จะสาดส่องมาให้ความสว่าง ปากกัดเม้มเข้าหากัน "แรงมาเท่าไหร่ จำเอาไว้ผมจะให้คืนกลับไปร้อยเท่าพันเท่า" ความเจ้าคิดเจ้าแค้นฝังมาติดใจจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ภาพยายแก่กับหลานก้มลงกราบแทบเท้าปลัดอำเภอ ขอร้องวิงวอนให้อย่าได้ใจร้ายทำอะไรที่รุนแรง แต่สิ่งที่ได้รับคืออะไร คือภาพวันที่ยายนอนอยู่บนที่นอนแน่นิ่งไม่ไหวติง นอนเหมือนหลับสนิทแต่มือเท้าเย็นเหมือนน้ำแข็ง ร้องเรียกจนไม่มีเสียง เขย่าตัวจนหมดแรงกาย ภาพยายที่เขาเอาโลงยัดเข้าไปในตะแกรง ภาพของเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่สูญเสียช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดของชีวิตไปเพราะมัว คิดหาแต่วิธีแก้แค้นกำลังจะพยายามโผเข้าไป ประหนึ่งจะให้ไฟที่กำลังจุดขึ้นเผาตัวให้ตายไปตามยาย เสียงร้องที่โหยหวนชวนให้น่าสังเวชใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็น เขานอนกลิ้งอยู่กับพื้นจนหมดสติไป ภาพเหล่านั้นมันฉายย้อนให้ภูมิบุญเม้มปากหนักขึ้น สายตามองผนังไม้สีน้ำตาลเก่าๆเหมือนว่ามันได้สร้างริ้วรอยในใจเหล่านี้ให้ แก่เขา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น