วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

(Heroine) ที่นี่ไม่มีนายเอก ฉากสามสิบหก

พอสอบเสร็จภูมิบุญก็โล่งใจขึ้นมาก ดูเหมือนว่าศัตรูคู่อาฆาตจะเพลามือลงไม่ค่อยตามราวีสักเท่าใดนัก โตโต้ก็ดูเหนื่อยล้าไม่มีแรงพลังอะไรจะมาคอยถากถางเพราะมีโครงการใหม่ที่ทางบริษัทกำลังสร้างที่ราชบุรี ต่อด้วยโครงการใหญ่ที่เขาค้อ ดังนั้นโตโต้จึงปลีกตัวไปไหนไม่ได้เลย แม้แต่คุณอภิสราเองก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเหมือนแต่ก่อน จะคอยไปดูงานที่ราชบุรี บางครั้งพาจันทร์ไปด้วยสลับกับอ้อย ส่วนแวนก็หายจากวงโคจรชีวิตไปเลย เพราะแม้แต่โตโต้เองแวนก็ไม่ค่อยได้มีเวลาจะเจอแฟนสาวของตัวเอง แวนเริ่มน้อยใจเที่ยวเตร่กลางคืน กลับมาเป็นแวนคนที่เคยเป็นก่อนไปเรียนต่ออเมริกา มีผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้ามาติดพัน ส่วนนิตาช่วงนี้แม้จะคอยตามราวีถากถางแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรมากนัก เพราะนิตากับเพื่อนไม่ได้มีพิษภัยอะไรมากนักไม่ได้คิดการใหญ่ที่จะคอยทำร้าย หรือคิดทำอะไรที่มากกว่าปากพูด ส่วนทันหายเงียบไปเลยนับจากเหตุการณ์วันนั้น

วันนี้ภูมิบุญนัดกับพลอยที่สยามพารากอนเพื่อที่จะไปดูหนังกันก้องไม่ว่างเพราะต้องอยู่ช่วยงานอาที่บ้าน ภูมิบุญมายืนรอพลอยอยู่หน้าห้างตามที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ ระหว่างที่คุยโทรศัพท์อยู่กับแทนทวีที่วันนี้พาแม่ของเขาไปดูพลอยที่จันทบุรีอยู่นั้นก็เหลือบสายตาไปเห็นทันที่เดินมากับเด็กสาวหน้าตาน่ารักคน หนึ่ง ภูมิบุญไม่อยากจะสนใจจึงเมินหน้าหนีไปเสีย แต่พอคิดอะไรแวบขึ้นมาได้ในใจก็รีบวางสายจากแทนทวีทันที

"พี่ทันครับ พี่ทัน สวัสดีครับ"

ภูมิบุญปรี่เข้าไปหาทัน พอเห็นหน้าภูมิบุญถึงกับหน้าถอดสี

"พี่ทันสบายดีเหรอครับ เป็นยังไงบ้างไม่เจอหน้าตั้งนาน"

ภูมิบุญไม่รอให้เขาตอบรับเข้าประชิดตัว เด็กสาวที่มาด้วยมองหน้าภูมิบุญอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงหันไปมองชายคนที่มาด้วย

"เอ่อ"

"ไม่โทรหาผมเลยนะครับพี่ทัน ผมเป็นห่วงพี่นะครับ"

ภูมิบุญจับแขนของทัน แล้วยิ้มหวานอย่างที่ไม่เคยยิ้มให้เขามาก่อน

"มีอะไรหรือเปล่าภูมิ"

"แหมพี่ทันครับ เจอผมทำไมต้องหน้าซีดแบบนั้นด้วย ผมแค่เป็นห่วง วันนั้นเจ็บไหมครับพี่"

น้ำเสียงที่ราบเรียบไม่ได้มีจุดประสงค์เหน็บแนมแต่อย่างใดทำให้ทันมองหน้าภูมิบุญด้วยความสงสัย

"เอ่อ"

"พี่ทันโทรหาผมบ้างนะครับ ผมเป็นห่วงพี่จริงๆนะ"

ภูมิบุญยิ้มหวานแล้วลูบที่แขนของทันเบาๆก่อนจะตีตัวออกห่างเดินหนีไปทันที

"ใครคะพี่ทัน"

เด็กสาวแว๊ดเสียงขึ้นทันที เพราะสายตาของภูมิบุญไม่ได้ชายตามองเธอสักนิดเดียว

"น้องที่คณะน่ะครับ มินท์ ไปกันเถอะ"

"น้องที่คณะ ทำไมต้องจับมือถือแขนแบบนี้ด้วยคะ มินท์ไม่เข้าใจ ท่าทางไม่น่าไว้ใจเลยนะคะ"

"เอาน่า ไม่มีอะไรหรอก ไปครับเดี๋ยวหนังฉายก่อน"

ทันเองก็ครุ่นคิดหนักอยู่ไม่น้อย คิ้วขมวดเป็นปมเข้าหากัน นี่ไอ้ภูมิมันจะมาไม้ไหนอีก

"หึหึ เรามาเจอกันสักตั้งดีไหม ไอ้ทัน"

ภูมิบุญพูดอยู่คนเดียวแล้วแสยะยิ้มออกมา พอพลอยมาถึงก็เดินเข้าห้างไปด้วยกันตรงไปที่ชั้นโรงหนัง เหมือนฟ้าเป็นใจหรือสวรรค์แกล้ง ทันกับเด็กสาวดูหนังเรื่องเดียวกันกับภูมิบุญ พอเหลือบไปเห็นภูมิบุญก็ยิ้มออกมา

"เจอไอ้เชี่ยนั่นอีกแล้วว่ะ ซวยจริงๆ"

พลอยสบถออกมาแล้วทำหน้าไม่สบอารมณ์

"มันซวยนะไม่ใช่เรา"

ภูมิบุญพูดแล้วยิ้ม พลอยหันขวับทันที

"จะทำอะไรเหรอ ภูมิ"

"ปล่าวนี่ แค่อยากทำให้คนเสียหน้ากลางโรงหนัง"

"หึหึ ร้ายนะภูมิ แต่จะดีเหรอ อย่าไปยุ่งกับมันเลยดีกว่าเดี๋ยวเสนียดจัญไรติดตัว"

พลอยหัวเราะออกมาแล้วดันหลังให้ภูมิบุญเดินเข้าไปในโรงหนัง ภูมิบุญขืนตัวไว้ปล่อยให้ทันกับเด็กสาวเดินเข้าไปในโรงหนังก่อน

"เดี๋ยวพลอย เราจะทำอะไรให้ดู"

"หือ ทำอะไร อย่าบอกนะว่า"

"ไม่หรอก แค่อยากจะให้คนบางคนคิดอะไรเพลินๆเล่นๆหน่อยเดียว"

ภูมิบุญพูดแล้วเดินตามเข้าไปในโรงหนัง สายตาเหลือบไปมองที่นั่งของทันเอาไว้แล้ว เขาซื้อที่นั่งพิเศษที่อยู่แถวบนสุดส่วนภูมิบุญกับพลอยซื้อที่นั่งราคาปกติ อยู่แถวล่างลงมาหน่อย พอหนังเริ่มฉายไปได้สักพักภูมิบุญก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เนื่องจากที่นั่งราคาพิเศษไม่ค่อยมีคนสักเท่าไรนักแต่ก็พอมีอยู่บ้างภูมิบุญยอมให้คนมองเพราะแถวที่เขานั่งกับที่นั่งของทัน ถ้าจะเดินไปเข้าห้องน้ำมันไม่ใช่ทางที่จะผ่านกันได้เลย แต่ด้วยความจงใจภูมิบุญเดินก้มตัวเข้าไปในแถวราคาพิเศษนั้น พอจะผ่านทันที่เหลือบตามามองขึ้นมาแล้ว ภูมิบุญก็ทำท่าสะดุดล้มลง

"อุ๊ย ขอโทษครับ"

"ไม่เป็นไรครับ"

ปากของภูมิบุญตั้งใจที่จะไปประทับกับแก้มของทัน ไอร้อนของริมฝีปากผ่านเข้าไปในร่างของทันทันที ภูมิบุญแทนที่จะรีบถอนปากออกจากใบหน้าของเขาแต่กับยื่นปากออกไปฝังฝากรอยจุมพิศนี้ไว้ให้ทัน

"เอ่อ ขอโทษนะครับ"

ยังเอ่ยคำขอโทษอยู่ เด็กสาวที่นั่งข้างทันเริ่มตาเขียว

"ผมจะไปเข้าห้องน้ำครับ"

บอกออกไปอย่างมีจุดประสงค์ แล้วภูมิบุญก็เดินผ่านเขาไป แต่ยังชายตามองเด็กสาวที่นั่งข้างๆแล้วแสยะยิ้มให้ในความมืด

"อะไรกันคะ ทางไปห้องน้ำไม่ใช่ทางนี้สักหน่อย เดินผ่านมาทำไมเนี่ย บ้าหรือเปล่า"

เธอโวยวายเสียงเบา ทันเองเริ่มที่จะกระสับกระส่ายอยู่ไม่ติดที่ ไม่ได้สนใจในตัวเด็กสาวที่มาด้วยเลยในใจร้อนรนหลังจากได้รอยประทับจากปากบางอุ่นจนร้อนของภูมิบุญ

"พี่ทัน เป็นอะไรคะ ทำไมยุกยิกจัง"

"เอ่อ มินท์เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะ"

พูดล้วลุกขึ้นทันทีไม่รอฟังคำของเด็กสาวที่กำลังจะห้ามเอาไว้เพราะเขาเพิ่งจะเข้าก่อนเดินเข้ามาในโรงหนัง ในใจของทันร้อนรนคิดไปว่าภูมิบุญคงมีใจให้ตนหรือเขาจะสับสนคิดไปเอง ทันเดินตามออกไปที่ห้องน้ำ ภูมิบุญยืนล้างมืออยู่ พอเปิดประตูเข้าไปภูมิบุยก็ยกริมฝีปากสูงขึ้น

"อ้าวพี่ทัน เข้าห้องน้ำเหมือนกันเหรอครับ"

ภูมิบุญหันมายิ้มให้ ทันเองก็ทำหน้าไม่ถูก

"ครับ"

เขาตอบสั้นๆแล้วยืนเก้ๆกังอยู่ ก่อนจะเดินไปที่โถปัสสาวะ ภูมิบุญยังคงยืนล้างมือต่อยิ้มออกมา

"ภูมิ เรื่องวันนั้นพี่ขอโทษนะ"

ทันตัดสินใจพูดออกมา ภูมิบุญก้มหน้าลงพยายามเปลี่ยนสีหน้าให้เศร้า

"ไม่เป็นไรครับพี่ทัน ผมไม่ว่าอะไรครับ แต่น้อยใจอยู่อย่างเดียว"

ภูมิบุญพยายามเปิดประเด็นยิงเข้าเป้าที่ตนวางเอาไว้

"น้อยใจอะไรครับ"

"ก็ถ้าวันนั้นพี่ทันให้เด็กพวกนั้นทำอะไรผม ผมคงจะเสียใจมาก น้อยใจที่พี่ทันไม่ทำคนเดียวไงครับ"

ภูมิบุญพูดออกไปเว้นช่วงจังหวะแล้วมองดูสีหน้าของทัน เขาหน้าแดงขึ้นมาทันที

"ภูมิ"

ทันครางออกมา มองหน้าของภูมิบุญสมองปั่นป่วนไปใหญ่

"ครับพี่ทัน ถ้าพี่ทันจะทำอะไรผมแค่คนเดียว ผมจะไม่รู้สึกน้อยใจเลย"

ภูมิบุญพูด แล้วเดินออกไปจากห้องน้ำทันที ทันรีบวิ่งตามออกมา

"ภูมิ ภูมิหมายความว่ายังไงครับ"

"โง่จริง"

ภูมิบุญพูดออกมาเบาๆทำสีหน้าไม่สบอารมณ์แต่ก็หันกลับไปยิ้มอายๆให้ทัน

"ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่ทัน มันผ่านมาแล้ว"

"นี่เราชอบพี่เหรอครับ"

ทันพูดเข้าข้างตัวเอง แล้วปรี่เข้าไปประชิดตัวภูมิบุญ

"เอ่อ ไม่เป็นไรครับพี่ ช่างมันเถอะ ภูมิไม่คู่ควรของของสูงล้ำค่าอย่างพี่ทันหรอกครับ"

"ภูมิ"

เดินหนีเข้าโรงหนังไปแล้ว ทันยืนนิ่งเอ๋ออยู่ไม่รู้ทางไป เขางงสับสนอลม่านในหัว นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนที่เขาเกลียดมากที่สุดในช่วงนี้ึแต่วันนี้ถึงได้แลดูน่ารักน่าเอ็นดูมากขนาดนี้นะ ทันยืนคิดอยู่นานก่อนจะกลับเข้าไปในโรงหนัง พอกลับเข้าไปนั่งที่เดิมเด็กสาวก็ถามว่าหายไปไหนมาเสียนาน ทันไม่ตอบจากที่เคยเกาะกุมมือหญิงสาวล้วงนั่นล้วงนี่กลายเป็นกอดอกอยู่ แม้หญิงสาวจะเบียดกายเข้าหา พอชายหนุ่มไม่ล้วงเธอก็ล้วงเสียเอง ฝ่ายภูมิบุญพอเดินกลับไปที่นั่งพลอยก็ถามทันที

"เดี๋ยวพลอยได้ดูเด็กสาววัยรุ่นกรี๊ดแน่ๆ"

ภูมิบุญบอกพลอยไปแล้วยิ้มออกมา

"จะอาย คนไหมล่ะภูมิ"

"หึหึ เราไม่ได้กรี๊ดนี่ จะอายทำไม น่าสนุกดีออกพลอย"

ภูมิบุญหัวเราะเบาๆแล้วตั้งใจดูหนังต่อ พอหนังจบก็รีบจูงมือพลอยออกจากโรงหนัง เป็นไปตามที่ภูมิบุญคาดคิดเอาไว้ ทันรีบเดินตามออกมาทันที

"ภูมิๆ เดี๋ยวก่อน"

เสียงทันร้องเรียกอยู่ข้างหลัง แต่ภูมิบุญทำเป็นไม่ได้ยิน

"เริ่มแล้วพลอย"

พลอยเองก็ยิ้มออกมาอยากจะรู้ว่าเรื่องมันจะเป็นไปยังไง

"ภูมิเดี๋ยวก่อนครับ"

"อ้าว ครับพี่ทัน มีอะไรเหรอครับ"

ภูมิบุญหันหน้าไปแล้วยิ้มให้

"ไปทานข้าวกับพี่ไหม"

ทันชวนออกมาเด็กสาวที่เกาะแขนเขาอยู่มองตาเขียวขึ้นมาทันที

"พี่ทัน ไหนบอกจะพามิ้นท์ไปซื้อรองเท้าไงคะ"

"เอ่อ มิ้นท์กลับไปก่อนได้ไหมครับ พอดีพี่มีธุระจะคุยกับภูมิ"

"ว้าย ไม่ได้นะคะพี่ทัน อะไรกัน จะมาเปลี่ยนใจง่ายๆแบบนี้ไม่ได้นะคะ พี่ทันบอกจะไปส่งมินท์ด้วยนะ"

"พี่ทันครับ เอาไว้วันหลังก็ได้ครับ ไปกับน้องเขาเถอะ"

ภูมิบุญปราดสายตาไปมองเด็กสาวที่ใบหน้าเริ่มที่จะเกรี๊ยวกราดตาถลนออกมา

"เอ่อ"

"ไปสิคะพี่ทัน มิ้นท์หิวแล้ว" 

เด็กสาวกระตุกแขนแล้วพยายามดึงทันให้เดินตามไป

"เอ่อ งั้นพี่ขอเบอร์เราได้ไหมภูมิ"

"เดี๋ยวค่อยเอาก็ได้ครับพี่ แหมทีวันนั้นไม่ขอนะพี่ทันในห้องน้ำของคณะอ่ะครับ จำได้ไหม"

ภูมิบุญยิ้มออกมาสายตายั่วยวน

"อะไรคะพี่ทัน ห้องน้ำอะไรกันคะ"

เธอวี๊ดเสียงสูงขึ้นทันที สายตาจ้องหน้าทันเขม็ง

"เบาเสียงหน่อยสิมินท์ อายคนเขา"

"องอายอะไรล่ะคะ พี่ทันไปทำอะไรกับเขาในห้องน้ำ"

เธอไม่ยอมลดเสียงลงเลยกลับเพิ่มความดังขึ้นไปอีก จนผู้คนที่เดินออกจากโรงหนังหันมามองกันใหญ่

"เอ่อผมขอตัวนะครับพี่ทัน เอาไว้เจอกันนะครับ รำลึกความหลังกันใหม่นะครับ"

ภูมิบุญยิ้มให้หวานฉ่ำก่อนจะจูงมือพลอยเดินหนีไป

"กรี๊ดดด อะไรคะพี่ทัน บอกมานะ มันอะไรกัน"

กรีดร้องออกมาอย่างที่คิดไม่มีผิด พลอยถึงกับหัวเราะออกมา

"แน่จริงๆภูมิ นายนี่ร้ายกาจจริงๆ"

"ไม่หรอกพลอย มันแค่เริ่มต้น เราเคยอายแค่ไหนเขาต้องอายกว่าเราหลายเท่า"

สายตาที่ฉายแววออกมามันช่างเยือกเย็นวาบเข้าไปในใจของพลอย

"ภูมิ"

พลอยได้แต่ร้องออกมาจับแขนของเพื่อนเอาไว้ ภูมิบุญพยักหน้าน้อยๆให้พลอยก่อนที่ทั้งสองจะเดินไปกินข้าวที่ฝั่งของสยามสแควส์ พอแยกย้ายกันกลับบ้านภูมิบุญก็นั่งรถเมล์เรื่อยเปื่อยไปลงที่หน้าโลตัสอ่อนนุชก่อนจะเดินย้อนเข้าไปในซอยทางลัดตรงคาร์ฟูลเพื่อที่จะนั่งรถสองแถวเข้าบ้าน พอถึงบ้านก็เห็นคุณอภิสรานั่งอยู่หน้าบ้าน ภูมิบุญเดินเข้าไปหายกมือไหว้

"ว่าไงภูมิ หนังสนุกไหมลูก"

คุณอภิสรายังเหมือนเดิมเป็นคนที่เคารพรักยังไงความรู้สึกที่มีให้ก็ไม่เคยเปลี่ยนกลับเพิ่มพูนมากขึ้น

"สนุกดีครับ คุณท่านทานชาอยู่เหรอครับ เดี๋ยวภูมิรินให้นะครับ"

"เอาสิจ๊ะ วันนี้อากาศดีนะ ครึ้มๆอย่างนี้ล่ะดี วันก่อนแดดร้อนเปรี๊ยงเชียว"

"ครับคุณท่านรับของว่างไหมครับ เดี๋ยวภูมิไปยกมาให้"

"อุ๊ย ไม่ต้องหรอกจ๊ะ จันทร์เขาจัดการให้เรียบร้อยแล้ว ภูมินั่งคุยกับป้านี่ล่ะจ๊ะ ไม่ได้คุยกันนานแล้ว"

ภูมิบุญสนทนาอยู่กับคุณอภิสราอย่างออกรสหัวเราะต่อกระซิกกันอยู่จนบ่ายแก่ๆ คุณอภิสราขอตัวไปงีบสักพักภูมิบุญจึงกลับมาช่วยแม่ของตนกับอ้อยทำอาหารเย็นเตรียมไว้ พอตกเย็นเมื่อโตโต้กลับมาถึงบ้านแล้วก็เตียมตั้งโต๊ะจัดอาหาร โตโต้ยังอยู่ในชุดทำงานเปลี่ยนแค่กางเกงจากกางเกงแสล็คขายาวเป็นกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นใส่อยู่บ้าน

"เออ แม่ครับวันศุกร์นี้ผมว่าจะพาน้องภูมิไปดูงานที่เขาค้อนะครับ จะได้พาไปเรียนรู้งานด้วยเลย ว่างไหมภูมิ"

โตโต้พูดเสียงราบเรียบ ตั้งกระทู้ขึ้นทันทีโดยที่ยังไม่ได้เริ่มทานอาหาร แต่น้ำเสียงที่ราบเรียบนี้ทำไมมันถึงบาดลึกลงไปถึงสันหลังของภูมิบุญ รายนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปทันทีเมื่อได้ยิน

"อืม ดีเหมือนกันจะได้ไปเรียนงานกับพี่เขา ว่างไงจ๊ะภูมิว่างไหมเสาร์อาทิตย์นี้"

อยากตอบออกไปเหลือเกินว่าไม่ว่าง แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อนายใหญ่ถามแบบให้ตอบเพียงคำตอบเดียวคือ "ว่าง" เท่านั้นภูมิบุญก้มหน้าลงน้อยๆ

"ว่างครับคุณท่าน"

เสียงเบาเหลือเกิน ระหว่างที่ภูมิบุญก้มหน้าลงนั้น โตโต้แอบอมยิ้มออกมา "หึหึ มึงได้เจอกูแน่ไอ้ภูมิ" โตโต้ยิ้มร่าในใจไม่สนใจอีกตั้งหน้าตั้งตากินข้าว

"พอดีเลย แวะซื้อมะขาวหวานกับมะขามเปียกมาให้ป้าด้วยนะจ๊ะ เปรี๊ยวปากอยากจะกินอยู่พอดี"

คุณอภิสราสั่ง ภูมิบุญได้แต่พยักหน้า ใจหนึ่งก็ดีใจที่จะได้กลับไปเยี่ยมบ้าน ไประลึกถึงความหลังมองในแง่ดีก็ถือโอกาสนี้ไปกราบยายด้วย อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเถิด ภูมิบุญปลอบใจตัวเองฝืนทนร่วมโต๊ะกินข้าวกับเขา พอกินข้าวเสร็จก็ช่วยอ้อยเก็บกวาดแล้วก็ขอตัวกลับไปที่ห้องพักของตน

"เตรียมตัวให้พร้อมนะครับน้องภูมิ หึหึ"

โตโต้เดินตามไปที่ห้องพักยืนยิ้มที่มุมปาก

"ครับ คงไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากหรอกครับ ว่าแต่คุณโตโต้เองก็เถอะ เตรียมตัวเตรียมใจไปด้วยนะครับ"

ภูมิบุญก็ไม่ยอมน้อยหน้ายืนยกริมฝีปากสูงแสยะยิ้มให้เขา

"นั่นสินะ พักหลังๆไม่ค่อยได้แสดงความรักกันเลยนี่นะ คราวนี้คงได้รักกันจริงๆจังๆเสียที"

โตโต้พูดแล้วหัวเราะเดินหนีไปทันที ส่วนภูมิบุญยืนเม้มปากเข้าหากัน

"ได้ อยากจะรักกันก็ได้ จะจัดให้"

ภูมิบุญเดินเข้าห้องไปอย่างอารมณ์ไม่ดี ในใจก็คิดไปต่างๆนานา

"พลอยเหรอ ว่างอยู่ไหม"

พอจิตใจมืดมิดหาทางออกไม่พบเจอจึงตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่ไว้ใจที่สุด

"ว่าไงจ๊ะภูมิ มีอะไรหรือเปล่า"

ภูมิบุญตัดสินใจระบายความอัดอั้นตันใจให้ เพื่อนฟัง พลอยเองก็รับฟังและนิ่งคิดอยู่

"อย่าเพิ่งคิดมากไปภูมิ เรื่องมันยังมาไม่ถึงตัว นิ่งๆไว้ก่อนดีกว่า เราว่าไอ้บ้านั่นมันคงไม่ทำอะไรหรอก"

ได้แต่ปลอบใจทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าคนๆนั้นคิดการใดอยู่

"เราก็หวังให้มันเป็นแบบนั้นนะพลอย ไม่อยากจะไปเลย แต่ทำไงได้คุณท่านกำชับมา"

"แล้วบอกพี่แทนหรือยังล่ะภูมิ ท่าทางเขาน่าจะเป็นห่วงอยู่นะ"

"ยังเลย ถ้ารู้ว่าไปกันสองคนมีหวังตามไปแน่ๆ"

"อย่าไปบอกสิว่าไปกับใคร บอกว่าไปกับคุณท่านก็ได้"

ภูมิบุญเห็นดีไปกับพลอย ได้แต่ถอนหายใจออกมา ทำไมชีวิตมันน้ำเน่ากว่าละครเสียอีกนะ จะเจอเรื่องแบบนี้อีกสักกี่ครั้ง แม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม แต่การเดินทางไปกับคนที่เกลียดกันมันย่อมไม่สบายใจ หนักใจกว่าการอยู่ด้วยกันเสียอีก ประสบการณ์ครั้งก่อนบนถนนศรีนครินทร์ยังติดตาฝังใจ แรงถีบของคนตัวใหญ่ถีบเขาให้หล่นออกจากรถ ความกลัวในครั้งนั้นมากกว่าครั้งไหนๆ เขาทำไปได้ยังไงกัน เกลียดกันมากขนาดนั้นเชียวหรือ นี่ล่ะนะที่เขาบอกคนเกลียดกันเวลาโกรธสามารถฆ่าฟันกันได้ โตโต้ก็คงอยู่ในอารมณ์นั้น เขาจะรู้บ้างไหมว่าเขาได้สร้างตราบาปไว้ในใจ เวลาอยู่ด้วยกันลำพังสิ่งที่สร้างขึ้นมาว่าไม่เกรงกลัวเขานั้นมันเป็นแค่เปลือกนอก แต่ในใจมันสั่นไหวกลัวว่าเขาจะทำอะไรรุนแรงอีก

"ไอ้พอล กูทำอย่างที่มึงบอกแล้วนะ แล้วให้กูทำยังไงต่อ"

พอขึ้นไปบนห้องของตัวเองก็โทรศัพท์รายงานเจ้าของแผนการทันที

"อ้าว มึงก็ทำให้มันติดมึงสิวะ ทำยังไงก็ได้ให้มันรัก"

"ยังไงวะ"

"ไอ้ ควาย มึงก็ไม่จำเป็นต้องไปขืนใจมันหรอก พวกกะเทยน่ะมันชอบผู้ชายเอาใจ มึงก็ทำเป็นรักมันสิ เอาใจมันทำให้มันเชื่อใจ"

"เชี่ย กูจะอ้วก ที่ผ่านมากูก็ฝืนใจจะแย่อยู่แล้ว มึงยังจะให้กูเอาใจมันอีกเหรอ"

"อ้าว เรื่องของมึงนะ มึงก็อาจจะฝืนใจหน่อยละวะ แต่ถ้ามึงอยากให้มันไม่สงสัยในสิ่งที่มึงทำมึงก็ต้องทำให้เนียนดิ"

"เออๆ กูจะพยายาม"

โตโต้ยิ้มกริ่มอยู่ในใจ "หึหึ ดูซิมึงจะแน่สักแค่ไหนไอ้ภูมิ กูจะทำให้มึงรักกู แล้วคราวนี้ล่ะกูจะเอาให้หัวอกกลัดหนองเลยมึง" สายตาเคียดแค้นโกรธชัง กะเทยยังไงมันก็อยากได้แค่ผู้ชาย อยากได้แค่แก่นกายของชายยัดเข้าไปในร่างของมัน โตโต้เดินไปเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วรอให้เครื่องทำงาน มือก็กดเมาส์เลื่อนไปคลิกตรงแฟ้มส่วนตัว พอป้อนรหัสเข้าไปภาพที่เขาเก็บงำเอาไว้เตือนใจก็ฉายออกมา แววตาที่จ้องมองเหมือนเกลียดโกรธกันมาเป็นชาติ แต่เป้าหมายเปลี่ยนไปจากเกย์ที่ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนตอนนี้มันคือ "ภูมิบุญ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น