วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

(Heroine) ที่นี่ไม่มีนายเอก ฉากยี่สิบแปด

หลังจากเหตุการณ์วันนั้นโตโต้ก็เงียบไปเพราะยังเจ็บตรงส่วนนั้นอยู่ กลับบ้านก็ค่ำเหมือนเคย ไม่มาวอแวกวนใจภูมิบุญอีก ภูมิบุญเองก็มีความสุขขึ้นมากขึ้นเพราะไม่มีคนมาคอยถากถางแทะโลม ด้านแทนทวีก็ทำคะแนนเป็นการใหญ่ ภูมิบุญมีใจเอนเอียงไปหาแทนทวีมากกว่าครึ่งแล้ว ทุกครั้งที่อยู่กับแทนทวีเขารู้สึกอบอุ่น เหมือนมีเกราะคอยปกป้องคุ้มภัย แทนทวีไม่เคยขัดใจหรือทำให้ภูมิบุญเคืองใจเลย มีแต่เรื่องที่เขาทำให้ภูมิบุญอิ่มใจสบายใจ พอไม่เจอก็คิดคำนึงถวิลหา ฝ่ายนิตากับเพื่อนช่วงนี้ซาๆไปแม้จะแค้นใจแต่หาจังหวะเวลาที่จะเข้าใกล้ภูมิบุญไม่ได้เสียที แต่ทว่ากลุ่มนี้แตกคอกันแล้ว ทันเองก็หันไปหาเบส นิตาก็มีฟ้าที่หัวอกเดียวกัน ส่วนกัสเป็นเพื่อนคนเดียวที่แทยทวียังคบหาอยู่ ทันกับนิตาแค้นฝังใจในตัวภูมิบุญ หาโอกาสที่จะทำร้ายตลอดเวลา แต่แทนทวีเป็นคนพูดอะไรแล้วทำจริง บอกจะไม่คบก็ไม่คบเจอหน้าก็ทำเหมือนเป็นไม่รู้จักกันมาก่อน สร้างความร้าวรานให้กับนิตาเป็นอย่างมาก

"ภูมิๆ คณะเราจะไปรับน้องที่มุกดาหารนะ เห็นรุ่นพี่บอกจะไปสร้างห้องสมุดให้น้องๆที่นั่นด้วย"

พลอยบอกตอนเย็นวันพุธ

"ไปเมื่อไหร่ล่ะพลอย"

"วันศุกร์นี้จ๊ะ ดีใจจังจะได้ไปนอนที่อื่นบ้าง เบื่อเสียงม้ากับพี่ไพลินเต็มที"

"แหม ได้ทีเชียวนะพลอย แต่ไม่ได้มีแต่คณะเราไปนี่"

ก้องเสริมหัวเราะที่ได้แหย่พลอยเพื่อนสาวจอมห้าว

"เหรอ แล้วมีคณะอะไรไปด้วยล่ะก้อง"

ภูมิบุญถามสนใจขึ้นมาเพราะรับน้องเมื่อวานก็ไม่เห็นรุ่นพี่บอกอะไร

"ก็วิศวะ ส่วนอักษรกับถาปัตย์ไปหัวหิน"

"ต๊าย ไฮโซเชียว มีอะไรให้สร้างเหรอหัวหินน่ะ เจริญจะตาย"

พลอยร้องขึ้นมา

"ไม่รู้ เขาคงไม่ได้ไปสร้างอะไรหรอก ไปเที่ยวขำๆ"

"เราต้องเตรียมอะไรไปบ้างไหม เราเอาเสื้อผ้าไปให้น้องๆด้วยไหม หรือเอาหนังสือดี"

ภูมิบุญเสนอความคิดเห็น

"อืม ก็ดีนะ จะได้ไถพี่ไพลิน รายนั้นเสื้อผ้าล้นตู้จนของเราไม่มีที่จะเก็บ"

"เราว่าไปถามรุ่นพี่ก่อนดีกว่า เออ จริงสิ เดี๋ยวเราไปเอาระเบียบการมาดูดีกว่าจะได้เตรียมตัวถูก"

ก้องบอกแล้วเดินไปทางห้องกิจกรรมนิสิตทันที พอก้องกลับมาพร้อมระเบียบการภูมิบุญก็อ่านให้พลอยฟัง ทางคณะจะออกเดินทางตอนเย็นวันศุกร์กลับตอนเย็นวันอาทิตย์ เพราะวันจันทร์งดเรียนไปหนึ่งวัน พอรับน้องตอนเย็นรุ่นพี่ก็ประกาศอีกครั้ง พร้อมทั้งบอกว่าถ้าใครมีหนังสือที่ไม่ใช้แล้ว หรือเสื้อผ้าอุปกรณ์การเรียนการกีฬาก็ให้นำติดตัวไปด้วย แต่สิ่งที่รุ่นพี่ประกาศอีกอย่างที่ทำให้ทั้งสามคนมองหน้ากัน คือมีอีกคณะที่จะไปรับน้องด้วยคือนิติศาสตร์ พลอยมองหน้าภูมิบุญทันทีที่รุ่นพี่ประกาศจบ

"เอาแล้วสิภูมิ อีนั่นมันเรียนคณะนี้นี่"

"คงไม่มีอะไรหรอกน่าพลอย รุ่นพี่ไปกันเยอะแยะ พวกนั้นคงไม่กล้าทำอะไรหรอก"

ภูมิบุญปลอบใจพลอย แม้ในใจของตนจะคิดล่วงหน้าไปเยอะกว่าพลอยแล้วก็ตาม พอแทนทวีมารับตอนเย็นภูมิบุญก็เล่าให้ฟัง

"เอ้ย จริงดิ เมื่อวานยังบอกจะไปกาญจน์อยู่เลย ไปกับทันตะนี่ แล้วไหงเปลี่ยนเร็วอย่างนี้"

แทนทวีร้องออกมาสีหน้าตกใจ

"อ้าว แล้วทำไมวันนี้ รุ่นพี่ที่คณะบอกแบบนั้นล่ะครับพี่แทน"

ภูมิเองก็เริ่มสงสัย

"ชักยังไงๆแล้ว"

แทนทวีหยิบสายโทรศัพท์ขึ้นมาเสียบใส่หูแล้วโทรศัพท์ไปหากัสทันที พอรู้เรื่องจากกัสว่าทางรุ่นพี่ที่จัดการเรื่องรับน้องไปบอกเปลี่ยนสถานที่กับอาจารย์โดยอ้างว่าไปกาญจนบุรีแค่ไปรับน้อง แต่ถ้าร่วมเดินทางไปกับคณะวิศวะกับรัฐศาสตร์ก็จะได้ร่วมกันสร้างอาคารห้องสมุดให้น้องๆที่ด้อยโอกาส อาจารย์เองก็เห็นดีด้วย

"ใครเป็นตัวนำวะ"

แทนทวีกรอกเสียงถามไป

"พี่ตี๋ และก็ไอ้ทัน"

"ห๊า อะไรนะ"

แทนทวีไม่ค่อยได้เข้าร่วมกลุ่มจึงไม่ค่อยรู้เรื่องไม่ได้สนใจเกี่ยวกับคนอื่นเท่าไหร่นัก เพราะเขาสนใจอยู่แต่ตัวเองและคนที่เขารักเท่านั้นในช่วงนี้ แทนทวีมองหน้าภูมิบุญยากที่จะอ่านใจ ทั้งเห็นใจสงสารระคนกันไป

"ทำไม เหรอครับพี่แทน"

ภูมิบุญเองก็เริ่มที่จะวิตกกับสีหน้าท่าทางของแทนทวี

"ภูมิ พี่จะทำยังไงดี พี่บอกทางคณะไปแล้วว่าพี่ติดธุระ ต้องพาแม่ไปต่างจังหวัด ไปดูพลอยอ่ะ พี่ไปยกเลิกแม่ดีกว่า ไปกับภูมิ พี่ไม่ไว้ใจ"

แทนทวีระบายความอัดอั้นตันใจออกมา สีหน้าวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด ภูมิบุญนิ่งอยู่ แม้ใจจะอยากให้แทนทวีไปด้วยแต่ก็ไม่อยากทำให้เขาลำบากใจ

"ไม่ได้นะครับพี่แทน รับปากแม่เอาไว้แล้ว ไม่เป็นไรหรอกครับ ใช่จะมีแต่ภูมิเท่านั้นที่ไป พลอย ก้องก็ไป อีกอย่างพี่ๆที่คณะก็น่ารักออก ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่แทนอย่าห่วงไปเลย"

ภูมิบุญยิ้มให้แทนทวี เอื้อมมือไปกุมมือของเขาที่วางอยู่ที่พวงมาลัยรถ

"แต่พี่ไม่ไว้ใจคนพวกนั้นเลยนะภูมิ เป็นห่วงจริงๆ"

แทนทวียังไม่คลายความวิตกกังวล ใบหน้าเริ่มเครียดคิ้วขมวดเข้าหากัน

"แหมพี่แทน ภูมิไม่ใช่คนอ่อนแอนะครับ ภูมิเองก็มีฤิทธิ์มีเดชเหมือนกันน้า"

ภูมิบุญหัวเราะออกมา แทนทวีรู้ว่าภูมิบุญไม่ได้เครียดอย่างที่เขาเป็นก็ยิ้มออกมาได้ แต่ในใจก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี พอส่งภูมิบุญที่บ้านเสร็จก็โทรศัพท์หาเพื่อนที่ไว้ใจได้อย่างกัสทันที รายนั้นรับปากว่าจะเป็นหูเป็นตาให้ แทนทวีจึงค่อยโล่งใจ  ส่วนภูมิบุญเข้าไปขออนุญาติคุณอภิสรา รายนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรให้ทุนไปสมทบกับทางคณะสร้างห้องสมุดอีกต่างหาก ภูมิบุญกลับมาเก็บของเตรียมตัวไว้แม้จะยังไม่ถึงวันเดินทางก็ตาม

"ดูแล ตัวเองดีๆนะลูก ไปนอนค้างอ้างแรมที่อื่นแม่เป็นห่วง"

จันทร์บอกในวันเดินทาง ภูมิบุญกลับจากมหาวิทยาลัยตั้งแต่บ่าย เพราะต้องมาเก็บของ วันนี้ต้องเดินทางไปเองเพราะแทนทวีพามารดาของเขาไปต่างจังหวัดแล้ว

"ครับ แม่"

ภูมิบุญกราบลงที่อกของจันทร์ แล้วเดินไปกราบลาคุณอภิสราที่ตึกใหญ่

"เตรียมพร้อมหรือยังจ๊ะภูมิ"

คุณอภิสราถามแล้วลูบหัวอยู่อย่างเอ็นดู ภูมิบุญตอบรับ

"ดูแลตัวเองดีๆนะ ลูก ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง"

ภูมิบุญกราบอีกครั้ง คุณอภิสรายิ้มให้ พอออกจากบ้านก็นั่งแท็กซี่ตรงไปยังมหาวิทยาลัย เพราะตั้งแต่แทนทวีคอยรับคอยส่งภูมิบุญก็ไม่ค่อยได้ออกจากบ้านเอง แม้จะรู้ทางไปแต่ก็นัดกับเพื่อนไว้เพราะจะพากันไปกินข้าวก่อนที่จะมาเจอเพื่อนๆที่หน้าคณะ ภูมิบุญจึงไม่อยากจะเสียเวลานั่งรถสองแถวไปต่อรถไฟฟ้ากลัวว่าเพื่อนจะรอ เพราะตนเคยไปช้าหลายครั้งหลายหนแล้ว พอถึงก็เห็นก้องยืนรออยู่ก่อนแล้ว

"จะไปกินอะไร กันดีก้อง"

"รอพลอยอ่ะ รายนั้นเจ้าแม่ออการ์ไนซ์"

ก้องพูดแล้วหัวเราะ สักพักพลอยก็มาถึงไพลินขับรถมาส่ง ภูมิบุญกับก้องเข้าไปไหว้ทักทาย

"ฝากดูและยัยลิงหน่อยนะภูมิ อย่าให้ห้าวมากเดี๋ยวหาแฟนไม่ได้"

ไพลินหยอกน้องสาวตัวเอง

"แหม พี่ไพลิน ระวังเถอะพลอยจะหาแฟนหล่อกว่า ดีกว่าพี่อ้นอีก"

"จ้าแม่คนสวย แต่พี่ว่าลดความห้าวลงก่อนเถอะ ค่อยว่าเรื่องแฟน"

ไพลินหัวเราะชอบใจ ภูมิบุญกับก้องเองก็หัวเราะ ที่เห็นพี่น้องคู่นี้คอยกัดแทะกันแต่มันเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความห่วงใย พลอยเองค้อนประหลับประเหลือก

"ไปกิน สเต็กกันดีกว่า อีกตั้งนานกว่าจะถึงเวลา"

"แพงป่ะพลอย"

ภูมิบุญทำหน้าคิดหนักเพราะแค่ได้ยินชื่อก็ทำหน้าซีดแล้ว

"ไม่แพงเลยภูมิ แหมนายนี่นะประหยัดจริง"

"เขาเปิดแล้วเหรอพลอย เขาไม่ได้เปิดค่ำๆเหรอ"

ก้องแย้งเพราะเข้าใจว่าที่ๆพลอยหมายถึงน่าจะ เป็นสเต็กสามย่าน

"แหมเขาเปิดตลอดนั่นล่ะย่ะก้อง เราเป็นคนที่นี่นะอย่ามาเถียง"

พลอยพูดแล้วหัวเราะ สรุปต้องตามพลอยไปกินสเต็กที่บอกกัน ร้านอยู่ชั้นสองของตลาดสามย่าน ตอนกลางวันคนไม่เยอะเท่าไหร่นัก ทั้งสามหาที่นั่งแล้วสั่งอาหาร พอภูมิบุญเห็นราคาก็แปลกใจเพราะขึ้นชื่อว่าอาหารฝรั่งแล้วราคาน่าจะไม่ใช่ถูก ยิ่งพอเห็นจานสเต็กหมูที่สั่งไปมาวางตรงหน้าก็ทำตาโต

"เยอะมาก เลยอ่ะ ไม่แพงมากด้วย"

"เห็นไหมล่ะ เราบอกแล้ว อิอิ อร่อยด้วยนะรสชาติไม่เลว กินก่อนเลยภูมิ"

พลอยบอกแล้วหยิบเอาชิ้นมันฝรั่งทอดในจานของภูมิบุญไปจิ้มกับซอสมะเขือเทศเข้าปาก ภูมิบุญเองก็ทำบ้าง ตามด้วยก้อง พอกินเสร็จก็เดินข้ามถนนกลับมารอเพื่อนๆที่หน้าคณะ รอเวลาที่รุ่นพี่จะเรียกรวมตัวกัน พอถึงเวลารวมตัวรุ่นพี่ก็เช็ครายชื่อแล้วทยอยขึ้นรถประจำทางที่เช่ามา เป็นโดยสารประจำทางระหว่างจังหวัดสีแดงสภาพไม่เก่ามากนักมีแต่พัดลมไม่ใช่รถโดยสารประจำทางที่มีเครื่องปรับอากาศคณะละคัน คณะของภูมิบุญคนครบก่อนจึงออกรถไปก่อน พอขึ้นบนรถรุ่นพี่ก็ตีกลองร้องรำกันอยู่ท้ายรถ

"ไปกินเหล้ากะรุ่น พี่ดีกว่า"

พลอยบอกแล้วทำท่าจะลุกไป

"พลอย จะเอาจริงเหรอ มีแต่ผู้ชายนะ"

"เออ นั่นดิเราไปเองดีกว่า"

ก้องบอกแล้วลุกไปทันที

"อ้าว"

"อยู่กับเรานี่ล่ะพลอย อย่าเพิ่งกินเลย"

ภูมิบุญขอร้อง พลอยทำหน้าเซ็งแต่ก็ยอมทำตามที่ภูมิบุญบอก

"อ่ะ กินหนมดีกว่า ถ่ายรูปกัน"

ภูมิบุญบอกพลอยพอเห็นกิจกรรมทำค่อยยิ้มอกมา แต่ก็เอี้ยวคอไปดูหลังรถอยู่ตลอดเวลา ในใจพอพ้นรั้วบ้านมากอยากจะทำตัวให้สุดโต่งไปเลย แต่ก็เกรงใจเพื่อนคนที่นั่งข้างๆ พอรถออกพ้นเขตกรุงเทพฯตะวันก็เริ่มลับขอบฟ้า สีแสดแดงของแสงตะวันทอแสงพาดผ่านทำให้ทุกสรรพสิ่งในเวิ้งสายตางดงามหาที่ติไม่ได้ ลมเย็นผสมไอแดดอ่อนๆลามเลียตามใบหน้าตามตัว สายตาของภูมิบุญเหม่อลอยออกไปไกลแสนไกล

"สวยอ่ะภูมิ นายดูดีมาก มาเราถ่ายรุปให้"

พลอยกดชัตเตอร์กล้องดิจิตอลถ่ายรูปของภูมิบุญตอนที่มองเหม่อออกไปนอกกระจกรถ คิดไกลย้อนไปถึงที่เพชรบูรณ์ เคยรู้สึกสงบเงียบกับแสงตะวันแบบนี้ ข้างกายเป็นยายที่นั่งเย็บปลอกหมอนอยู่

"เป็นอะไรไปภูมิ หน้าเศร้าเชียว"

พลอยทักภูมิบุญสะดุ้ง

"ไม่มีอะไร เราคิดถึงยาย"

พลอยทำหน้าสลดลงทันที พอจะรู้เรื่องของเพื่อนบ้าง แต่คงสะเทือนใจจริงๆถึงได้เหม่อลอยแบบนี้

"เอาน่าภูมิ อย่าคิดมากเรามาสนุกกัน ยิ้มๆหน่อยสิ นะนะ"

พลอยทำหน้าย่นให้ภูมิบุญยิ้ม รายนั้นก็ยิ้มออกมาทันที

"ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีคนชอบภูมิมากมาย เวลายิ้มแล้วหล่อแบบนี้นี่เอง"

"บ้าเหรอพลอย"

ภูมิบุญอายหน้าแดงขึ้นมา เพราะนานๆพลอยจะเอ่ยปากชมใครซึ่งๆหน้าแบบนี้

"พี่ค้า หนูขอสักกรึ๊บได้ไหมค้า"

พลอยยืนขึ้นหันหลังไปทางรุ่นพี่กับก้องที่ กำลังสนุกสนานกันอยู่

"มานี่เลยครับน้องพลอย อ้าว น้องภูมิด้วย มาๆ"

พี่โต้งรุ่นพี่ปีสี่เป็นคนชวน หน้าของเขาเริ่มแดงตาหวานฉ่ำเหมือนกับรุ่นพี่คนอื่นๆ รวมทั้งก้องด้วย

"ไปภูมิ ดีกว่ามานั่งอยู่เฉยๆ อีกตั้งไกลกว่าจะถึง"

"เราไม่กินเหล้านะพลอย"

ภูมิบุญค้านแล้วรั้งมือพลอยไว้

"เราก็ไม่กิน อิอิ เอาน่าสักหน่อยไม่มีใครรู้หรอก แค่แก้วเดียว"

พลอยไม่ฟังเสียงค้าน ของภูมิบุญลากแขนให้ลุกขึ้นแล้วตรงไปหารุ่นพี่ที่ท้ายรถทันที

"อ่า พลอย เอา อิอิ"

ก้องที่เริ่มพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วเพราะเมา ยื่นแก้วเหล้าให้พลอย

"ตายแล้ว ก้องเมาแล้วเหรอ เอามาๆ"

พลอยคว้าแก้วเหล้าจากมือก้องทันที มองหน้าภูมิบุญที่ยืนเก้ๆกังอยู่ก่อนจะกระดกเข้าปากไปทั้งแก้ว เสียงโห่ฮาปรบมือเกรียวกราวดังขึ้นมาทันที

"ถูกใจจริงๆน้องคนนี้"

"อ่า ร้อนคอ เหล้าอะไรอ่ะพี่"

"ฮันเดร็ดนี่ล่ะน้อง"

พลอยสั่นหน้าขนลุก ภูมิเองก็ทำหน้าแสยะกลัวขึ้นมา

"อ่ะภูมิของนาย"

ก้องยื่นแก้ว เหล้าให้ภูมิบุญที่ยืนอยู่ข้างหลังพลอย

"ไม่อ่ะ เราไม่กินเหล้า นายกินเถอะ"

"เหอะน่า ไม่เมาหรอกน่า จะได้รู้"

"ภูมิๆๆๆ"

เสียงรุ่นพี่เชียร์ พลอยกับก้องเองก็เชียร์ ภูมิบุญลังเลก่อนจะหยิบแก้วเหล้ามาถือไว้ในมือ

"ลองหน่อยน่าภูมิ ไม่เป็นไรหรอก"

พี่โต้งคนเดิมเชียร์ ภูมิบุญเม้มปากมองน้ำในแก้วอย่างขยาด ก่อนจะกลั้นใจยกแก้วเหล้าขึ้นกลืนลงคอไปรวดเดียว

"เย้ ให้ได้อย่างนี้สิภูมิ"

พลอยร้องออกมาปรบมือดีใจ ภูมิบุญทำหน้าย่นฝึนทน เพราะเหล้าที่ไม่ได้ผสมอะไรบาดคอลงไป สั่นหน้าเหมือนพลอยขนลุกซู่ขึ้นทั้งตัว

"อ่า ร้อนๆ"

ภูมิบุญทำหน้าแบบเหลือทน รุ่นพี่ก็หัวเราะกันเกรียวกราวชอบใจ

"ไม่ไหวๆ พอแล้วครับพี่ ไม่เอาแล้ว"

ภูมิบุญโบกไม้โบกมือปฏิเสธเมื่อรุ่นพี่เทเหล้าให้อีกแก้ว

"น่านะน้องภูมิ น่ารักๆแบบนี้กินให้พี่หน่อยนะครับ"

"อะไร อ่ะพี่ น่ารักแล้วเกี่ยวอะไรกับเหล้า"

ภูมิบุญต่อปากต่อคำ เพราะเหล้าแก้วเดียวที่เขากระดกลงไปเริ่มวิ่งเข้าไปตามกระแสเลือด ร้อนวูบวาบไปทั้งหน้าแล้ว

"อ้าว พี่ก็อยากดูไงเวลาคนน่ารักกินเหล้าแล้วเป็นยังไง"

"พี่ค้า หนูก็น่ารัก มาหนูกินเอง"

พลอยดอดขึ้นมาแล้วคว้าแก้วเหล้าจากรุ่นพี่ไปกระดกลงคอ

"อ่า ถูกจายจัง"

พลอยสั่นหน้าตาปรือ เริ่มร้องรำทำเพลงกับรุ่นพี่ เสียงรุ่นพี่ก็โห่ร้องพอใจกับพลอยเป็นอย่างมาก ภูมิบุญเองจะถอยกลับไปนั่งที่เดิม แต่รุ่นพี่คนเดิมดึงตัวเอาไว้

"ไปไหนครับน้องภูมิ เอาหน่อยน่า เดี๋ยวพี่เสียใจนะ"

"ภูมิเอาหน่อยสิ นะนะ กินเป็นเพื่อนเรา"

พลอยเข้ามาจับแขนภูมิบุญไว้ทำตาปรือใส่ ภูมิบุญตัดใจยอมกินอีกแก้ว พอแก้วที่สองผ่านไปหน้าก็เริ่มร้อน ตาเริ่มหวานเหมือนพลอย ร้องรำทำเพลงเหมือนกันเพราะภูมิบุญเริ่มเมาแล้ว ทั้งพลอยทั้งภูมิบุญสร้างความครื้นเครงให้กับคณะเป็นอย่างมาก พอเมาก็แสดงท่าทางต่างๆโดยไม่ได้ห่วงภาพพจน์เลย ก้องเองก็เมานอนกองอยู่กับพื้น ทั้งสองร้องรำทำเพลงจนดึกจึงกลับไปนั่งที่เดิม เหลือเพียงรุ่นพี่บางคนที่ยังนั่งกินเหล้ากันอยู่หลังรถ พลอยกับภูมิบุญหลับไปแล้ว

แสงตะวันของวันใหม่ทอแสงทองระยับอยู่ริมขอบแม่น้ำโขง สายน้ำที่เป็นชีวิตของชาวไทยริมฝั่งกับพี่น้องชาวลาวกระเพื่อมรับแสงเหมือนสุริยาดังแพรผืนงามประดับด้วยเกล็ดอัญมณีระยิบระยับงามสะท้อนเข้าตา รถบัสจอดริมแม่น้ำเพื่อให้น้องๆได้ลงไปทำธุระส่วนตัวที่ตลาดอินโดจีนก่อนที่ตะมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านตามแผนงาน

"เอ้า น้องๆ ตื่นๆ ตะวันขึ้นแล้วครับ"

เสียงรุ่นพี่ดังก้องอยู่หน้ารถ น้องๆพากันงัวเงียตื่นขึ้นมา

"สวยจังภูมิ มาถ่ายรูป"

พลอยพอตื่นแล้วเห็นภาพแม่น้ำโขงข้างๆก็สะกิดภูมิบุญให้ตื่นมาดู

"ไม่เอาพลอย สภาพคงดูไม่ได้"

ภูมิบุญเอามือปิดหน้าไว้

"แหม ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่หัวยุ่งๆนิดหน่อย มาๆ เราจัดให้"

พลอยเอื้อมมือมาจัดทรงผมให้ภูมิบุญ แล้วก็กดชัตเตอร์ถ่ายรูปทันที

"เห็นมะ ดูดีออก นี่ๆ ไปถ่ายรูปก้องดีกว่าดูโน่น นอนแผ่อยู่ น่าเกลียดจริงๆ"

พลอยลุกไปหลังรถเห็นก้องยังนอนอยู่ หน้าตาดูไม่ได้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนเพราะนอนกับพื้นรถ พลอยเอาหน้าไปใกล้แล้วถ่ายรูปคู่กับคนเมาที่นอนยังไม่ตื่น ภูมิบุญก็เอาด้วย พอเสร็จจากการถ่ายทำสารคดีคนเมาก็เดินลงจากรถไปกับเพื่อนๆคนอื่นๆ พลอยกับภูมิบุญไปโพสต์ท่าถ่ายรูปริมแม่น้ำโขงอยู่สองคน

"อ้าว น้องพลอย น้องภูมิไม่ไปล้างหน้าล้างตาก่อนเหรอครับ"

พี่โต้งเดินมาเจอจึงร้องทักมา

"เอาไว้ก่อนค่ะพี่ ขอเก็บความทรงจำก่อน"

"มาๆ พี่ถ่ายให้"

พอได้ช่างภาพทั้งภูมิบุญและพลอยก็ได้ใจโพสต์ท่าถ่ายรูปกันใหญ่ พอเสร็จธุระส่วนตัวก็กลับขึ้นมาบนรถ ก้องยังนอนอยู่ท่าเดิม พลอยจะปลุกแต่ภูมิบุญห้ามไว้เพราะเมื่อคืนคงดื่มมากไปหน่อย รุ่นพี่บอกว่าจะไปทานข้าวเช้ากันที่โรงเรียน เพราะทางคณะครูอาจารย์ได้เตรียมการต้อนรับเอาไว้แล้ว รถบัสเคลื่นตัวไปตามถนนลาดยางมะตอยริมแม่น้ำโขงไปเรื่อยๆ สักพักลำน้ำใหญ่ก็หายวับไปมีเพียงป่าไม้กับทุ่งนาเรียงรายข้างทาง จากถนนลาดยางมะตอยอย่างดีเปลี่ยนเป็นถนนลูกรังสีแดงส้ม พอรถแล่นผ่านไปฝุ่นก็คลุ้งกระจายแดงเป็นกลุ่มตามหลังรถบัสทันที รถของคณะนิติศาสตร์ที่มาร่วมโดยกระทันหันวิ่งตามรถของคณะวิศวะฯมาติดๆ ส่วนรถคันที่ภูมิบุญนั่งมานำหน้าคันอื่นๆ พอถึงโรงเรียนก็ลงจากรถ สภาพโรงเรียนก็เล็กไม่ทันสมัยเหมือนโรงเรียนในกรุงเทพฯ มีตึกที่ทางรัฐบาลสร้างให้อยู่หลังหนึ่งเป็นตึกปูนสองชั้น หน้าตึกเป็นสนามฟุตบอลที่หญ้าตายหมดแล้ว เหลืออยู่เพียงหย่อมสีเหลืองๆแดงๆกระจายอยู่เต็มสนาม มีเสาธงชาติอยู่หน้าตึกแต่ดอกเข็มสีแดงที่ปลูกรอบเสาธงชาติกลับเขียวขจีตัดกับดอกสีแดงสด ข้างๆตึกปูนเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวแต่ยกใต้ถุนให้สูงขึ้นเป็นแถวยาวสีน้ำตาลดำ แต่แรกคงเป็นสีแดงหรือไม่ก็สีน้ำตาลแก่ๆ แต่ด้วยความที่ผ่านแดดผ่านฝนมาหลายปี สีจึงเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา พอลงไปจากรถรุ่นพี่ก็เรียกตัวรวมกลุ่มกัน เช็คชื่ออีกครั้งก่อนจะแบ่งให้เข้าที่พักไปตามคณะของตน อาศัยห้องเรียนของเด็กๆเป็นที่พักพิง นิสิตชายของแต่ละคณะแยกกันอยู่ โดยได้เข้าพักห้องเรียนของนักเรียนชั้นประถมสี่ ห้า หก มีสามห้องเรียงตามคณะไป ส่วนนิสิตหญิงได้อยู่ตึกปูนแยกคณะอีกเช่นเคย ตอนแรกรุ่นพี่จะให้นอนรวมกัน แต่ก็มีคนแย้งขึ้นมาว่าขนาดของห้องมันเล็กไปที่จะเข้าไปอัดยัดเยียดกันนอน ความเห็นนี้จึงตกไป ภูมิบุญเดินลากก้องไปที่ห้องพักของคณะรัฐศาสตร์

"ภูมิ เดี๋ยวๆ ไปดูบ่อปลาข้างหลังเร็ว เขาเลี้ยงปลาด้วยอ่ะ"

พลอยร้องบอกให้ภูมิบุญหยุดก่อน

"เดี๋ยวค่อยมาดูก็ได้นี่พลอย เอาของไปเก็บก่อน"

ก้องแย้งเพราะคงอยากจะงีบต่ออีกสักพัก

"นายก็ไปก่อนสิก้อง ไปภูมิ ให้ก้องเอาของไปเก็บให้"

ภูมิบุญมองหน้าก้อง รายนั้นพยักหน้าเซ็งๆแล้วยื่นมือมาถือกระเป๋าเป้ของภูมิบุญแล้วเดินไปทางห้องพักทันที

"ต๊าย เขามีแต่หอพักชายกับหอพักหญิง แล้วหอพักกระเทยล่ะค่ะพี่อ๊อฟ"

เสียงที่ไม่ได้ยินมานานแต่ก็ใช่ว่า อยากจะได้ยินดังแหลมขึ้นมา นิตากับพวกยืนเรียงหน้ากันอยู่พร้อมหน้า อ๊อฟคือรุ่นพี่ปีสี่คณะวิศวะฯและเป็นประธานของการรับน้องนอกสถานที่ครั้งนี้ด้วย

"อ้าว นิตา กระเทยก็นอนโน่นไงโรงจอดรถ ไม่มีที่ไหนเขาต้อนรับหรอก"

ฟ้าเสริม เธอได้ทรงผมใหม่ซอยสั้นหั่นออกกว่าเดิมเพราะคงแก้ผมที่ติดหมากฝรั่งไม่ได้ด้วยวิธีอื่นนอกจากตัดมันออก

"ใครเป็นกระเทยเหรอน้องนิตา พี่ไม่เห็นใครเหมือนสักคน มีน้องคณะนิตาอยู่คนนึงนี่ที่ออกสาวกว่าใครนี่ จริงไหม"

อ๊อฟทำหน้าสงสัยเดินเข้ามาถามเพราะชื่อของตนได้รับการกล่าวขานโยงใยแล้ว

"ก็นั่นล่ะค่ะพี่อ๊อฟ อีแอบก็เยอะนะคะแถวนี้น่ะ ดูสิแอบได้แอบดี"

"ว่าไงจ๊ะภูมิ เป็นอีแอบหรือเปล่าจ๊ะ"

ฟ้าถากถางระบุตัวตนจนได้ พลอยยืนกัดฟัน ภูมิบุญก็เม้มปากแน่น

"ใครว่าผมแอบครับพี่ ผมไม่เคยแอบ ผมเป็นเกย์ ผมไม่เคยอาย เพราะเกิดมาไม่เคยอายตัวเอง"

ภูมิบุญโต้ตอบทันที

"พี่ครับ ผมเป็นเกย์ครับ พี่จะให้ผมนอนห้องน้ำหรือนอนโรงรถก็ได้นะครับ"

ภูมิบุญพูดต่อหันไปมองทางอ๊อฟ สายตาหยิ่งยโสก่อนจะมองกลับไปที่ต้นเสียง รายนั้นหน้าเหวอไปเพราะสีหน้าท่าทางของภูมิบุญไม่ได้รู้สึกอายหรือกระดากใจเลย กลับยกริมฝีปากขึ้นเชิดสูงไม่ยอมยี่หระให้ใครโดยง่าย

"ดีค่ะพี่อ๊อฟ ในเมื่อน้องเขาเสนอเอง สนองไปเลยค่ะ ให้ยุงหามไปกินให้เข็ด"

"อะไรกันครับนิตา น้องเขาไม่เห็นจะน่ารังเกียจตรงไหน พี่เคยเห็นที่คณะมีแต่คนรายล้อม ไปนอนห้องพี่ก็ได้ครับน้องภูมิ ปะเอาของไปเก็บกัน"

อ๊อฟพูดออกมาหน้าตาเฉย ทั้งนิตาทั้งฟ้ากัดปากสั่นอยู่ เพราะอ๊อฟคือนักกีฬาบาสฯของมหาวิทยาลัย และยังได้ทุนไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียอีกต่างหาก รูปร่างหน้าตาฐานะไม่ต้องห่วงเพราะทั้งสาวแท้สาวเทียม เกย์คิงเกย์ควีนหมายตากันเป็นแถบ ภูมิบุญยกริมฝีปากสูงขึ้น กระซิบบอกพลอยให้เอาของไปเก็บก่อน ส่วนเขาเองเดินตามอ๊อฟไป แล้วหันหน้ากลับมาหากลุ่มของนิตา ยักไหล่ขึ้นแล้วเบะปาก

"คนมันเด่นอ่ะนะ ทำอะไรก็เด่น คนมันด้อยอย่างพวกเธอ พยายามไปเถอะ ชะนี!!!"

"กรี๊ดดดด"

"มีอะไรกันครับ"

อ๊อฟหันมาแต่ผมบุญเดินตามไปติดๆหน้าของภูมิบุญชนกับแผงหน้าอกของอ๊อฟอย่างจัง ด้วยความตั้งใจของภูมิบุญที่อยากจะทำให้พวกของนิตาอกแตกตาย

"เอ่อ ขอโทษครับพี่ ผมไม่ทันมอง"

ภูมิบุญยิ้มเขินๆ อ๊อฟเองก็เกาหัวแกรกๆเพราะกลุ่มของนิตายังกรี๊ดอยู่เสียงดังลั่น อ๊อฟเดินนำหน้าภูมิบุญไปทางห้องพักของรุ่นพี่ที่อยู่รวมกันทุกคณะ ซึ่งก็อยู่ถัดกันไปจากห้องพักของรุ่นน้องทั้งสามคณะ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น