พอแพทย์หญิงศิริกานต์จอดรถได้ไม่ทันนิ่งสนิทดีแทนทวีก็ลงจากรถวิ่งเข้าบ้านทันที เห็นแวนนั่งร้องไห้อยู่กับผู้เป็นบิดา
"พี่แวน ตกลงมีอะไร นิตาตายยังไง"
แทนทวีร้องถาม แวนเงยหน้าขึ้นร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ผุ้เป็นบิดากอดบ่าลูกสาวไว้ แพทย์หญิงศิริกานต์เดินตามเข้ามา แทนทวีนิ่งฟังพี่สาวเล่า พยายามปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดเพราะแวนเล่าซ้ำไปซ้ำมาร้องไห้ไม่ยอมหยุด
"แล้วภูมิไปเกี่ยวด้วยได้ไงพี่"
แทนทวีจับจุดได้เพราะแวนเอ่ยถึงชื่อของภูมิบุญ เขาเสียงเครียดขึ้นมาทันที
"ให้พี่เขาสบายใจก่อนไหมแทนค่อยถาม"
ผู้เป็นมารดาปรามขึ้นเพราะบรรยากาศเริ่มตึงเครียด
"ไม่ได้ครับแม่ ผมทนรอมานานแล้ว ให้รู้เรื่องกันวันนี้เลย"
"พี่ผิดเอง พี่ผิดเอง พี่ขอโทษ เพราะคิดอยากให้ภูมิออกไปจากชีวิตของเรา แค่คิดอยากจะให้เขาไปให้ไกล ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงถึงเพียงนี้"
แวนพร่ำพรรณนาออกมา แทนทวีเม้มปากแน่นสายดูเกรี้ยวกราด
"เวรกรรม ทำไมลูก ทำไม" สองสามีภรรยาอุทานออกมาพร้อมกัน
"ทำไมครับพี่ ทำไมทำแบบนี้ เกลียดภูมิเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมต้องทำถึงขั้นนี้ด้วย"
แทนทวีพยายามเก็บเสียงไม่ให้เป็นการตะเบ็งมากจนเกินไป ผู้เป็นมารดาจับเข่าลูกชายไว้เพราะรู้นิสัยดีว่าใจร้อนวู่วาม แทนทวีลุกขึ้นออกจากบ้านไปทันที
ด้านภูมิบุญพอกลับมาถึงบ้านก็ขลุกตัวอยู่ในห้องแม้จะไม่ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนแวนแต่ก็น้ำตาไหลรินออกมาไม่ขาดสายเช่นกัน นี่มันเป็นฝันหรือเรื่องจริง ขอให้มันเป็นฝันร้ายทีเถิด ภาพกองเลือดที่ท่วมตัวนิตาอยู่มันยังติดตาติดใจ เสียงยางรถไถลไปกับพื้นถนนยังก้องอยู่ในโสตประสาท ไม่จริงใช่ไหม มันไม่ใช่เรื่องจริง ภูมิบุญนอนตัวสั่นอยู่จนสาย จันทร์เดินเข้าไปในห้องเห็นลูกชายในสภาพที่ผิดปกติไป
"ภูมิ เป็นอะไรลูก ภูมิเป็นอะไร"
จันทร์ร้องออกมาเสียงหลงเพราะภูมิบุญพอเห็นมารดาก็ร้องไห้ออกมา ใช้เวลาเนิ่นนานกว่าที่จะหยุดร้องไห้ได้ พอเล่าเรื่องให้ฟังจันทร์เองก็ตบอกตัวเองอุทานออกมา
"ตายแล้ว เวรกรรม เพื่อนเขาไปดีแล้วล่ะภูมิอย่าเสียใจไปเลย"
ที่ภูมิบุญพูดออกไปแค่เห็นเพื่อนโดนรถชนตายกับตา ไม่ได้บอกเรื่องก่อนหน้านั้น คราบเลือดที่เกรอะกรังอยู่ตามหน้าเริ่มแห้ง คราบเลือดที่โดนแจกันเซรามิกทุบจากข้างหลัง จันทร์เองก็เอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดให้ พอคุณอภิสราตื่นก็ไปรายงาน คุณอภิสราตกใจเรียกภูมิบุญเข้าไปพบ พอเห็นสภาพของภูมิบุญที่ซีดเซียวเหมือนคนโดนผีหลอกมา หน้าตากระเซอะกระเซิงเพราะยังไม่ได้อาบน้ำ ถึงกับน้ำตาคลอ
"ตายแล้วลูก ขวัญเอ๋ยขวัญมา ไม่มีอะไรแล้วนะ หมดเวรหมดกรรมกันไปนะ"
คุณอภิสรากอดปลอบโยนอยู่ ภูมิบุญแค่เพียงน้ำตาคลอเพราะร้องไห้มามากพอแล้ว คุณอภิสราก็ปลอบโยนอยู่ไม่ได้ซักว่าเรื่องราวเป็นมายังไงเพราะคิดว่าภูมิบุญคงสะเทือนใจอยู่ไม่น้อย
"คุณท่านครับ ภูมิขออนุญาตไปต่างจังหวัดสักสองสามวันนะครับ"
ภูมิบุญพูดน้ำเสียงแหบแห้ง คุณอภิสรานิ่งคิดอยู่
"จะไปไหนหรือลูก ไกลไหม"
"ภูมิอยากไปมุกดาหารครับคุณท่าน"
"อืม ป้าว่าไปพักบ้างก็ดี เจออะไรหนักๆมาไปพักให้สบายก็ดีเหมือนกัน อย่าคิดมากนะลูก สิ่งที่ผ่านมาแล้วให้มันผ่านไปอย่าไปยึดมั่นถือมั่นกับมันมาก คนจากไปเขาน่ะสบายแล้ว คนอยู่ซิต้องทนชดใช้กรรมต่อไป ให้ลุงหมายไปส่งไหมลูก"
"ไม่เป็นไรครับคุณท่านภูมิอยากจะไปรถประจำทาง ไม่รบกวนลุงหมายดีกว่าครับ"
คุณอภิสราไม่รบเร้าต่อลูบหัวอยู่ ภูมิบุญเก็บของใส่เป้ออกจากบ้านตอนสายทันที หัวใจที่อ่อนล้าเหนื่อยหน่าย ความคิดที่สับสนวกวนไม่ไปไม่มาไม่เข้าไม่ออก เขาพาร่างมายืนอยู่สถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ ร่างลอยไปกับเสียงเรียกของคนขายตั๋วที่ร้องระงมอยู่หน้าสถานีขนส่ง
"เอาตั๋วชั้นหนึ่งครับ ไปมุกดาหาร"
ภูมิบุญบอกหน้าเคาท์เตอร์ขายตั๋ว พอจ่ายเงินเสร็จก็เดินไปรอรถที่ชานชลานั่งเหม่อลอยมองไปข้างหน้าไม่มีจุดตกของสายตา ในใจยังคิดหวนถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านมาเมื่อคืน บนหัวก็ยังเจ็บร้าวอยู่แม้จะทำแผลแล้วแต่แผลสดใหม่เวลาเพิ่งจะโดนมันมักจะชาไม่แสดงฤทธิ์เดชอะไรมากนัก แต่พอผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงความเจ็บปวดเหล่านั้นมันก็จะฟ้องออกมา แต่ดูเหมือนคนที่นั่งรอรถประจำทางอยู่นั้นจะไม่ได้เจ็บที่หัวเพียงอย่างเดียว ในใจลึกๆเองก็แหลกสลายร้าวรานไปด้วยเช่นกัน ย้อนหวนคิดถึงเรื่องที่ผันผ่าน เคยเกลียดกันเคยทะเลาะกัน เรื่องบางเรื่องที่เคยทำให้กันถ้าหากว่ายังมีชีวิตอยู่ก็คงยากที่จะให้อภัย แต่ตอนนี้คนๆนั้นหามีลมหายใจอยู่ไม่ จะเก็บความเคียดแค้นชิงชังไว้ในใจก็ไม่ใช่เหตุ อภัยให้แล้วไม่ถือโทษโกรธเคืองแล้ว แต่ก็ยังไม่อยากให้ถึงกลับตายไปต่อหน้าต่อตา คนเรานั้นแม้นหากมีชีวิตอยู่แล้วหมั่นทำแต่ความดีเกราะของความดีก็จะปกป้องคุ้มครองเรา แม้นหากตัวตายหายไปจากโลกนี้แล้ว ชื่อนั้น ภาพนั้น สิ่งนั้นที่เคยทำไว้ก็จะคงอยู่ต่อไปตราบนานแสนนาน
แทนทวีวิ่งออกจากบ้านของตัวเองตรงมายังบ้านหลังใหญ่ในซอยเดียวกัน เขาดูร้อนรนไม่มีอะไรที่จะหยุดยั้งเขาได้ ทุกอย่างที่พี่สาวของตนเล่าออกมาเขาพยายามจะปะติดปะต่อกัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพียงข้ามคืนนี่เป็นแผนชั่วของพี่สาวของตนกับคนที่ตายไปแล้ว เรื่องโทรศัพท์ที่ตกน้ำก็คงเป็นส่วนหนึ่ง "ใจร้าย" แทนทวีอยากจะตะโกนใส่หน้า แต่ก็เป็นห่วงคนที่รักเหลือเกินป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง คนที่เจอเหตุการณ์ร้ายๆหนักๆมาโดยตลอดคนนั้น คนที่เขารักจนหมดใจ คนที่ไม่เคยปริปากบ่นให้กับโชคชะตาที่คอยลากถูชีวิตเขาให้เป็นไปอย่างลำบาก ทำไมคนพวกนี้ถึงได้ใจไม้ไส้ระกำกันนัก เกลียดชังอะไรกันหนักหนาถึงได้จงใจจะทำกันถึงขั้นนี้ แทนทวียิ่งคิดก็ยิ่งร้อนใจ เร่งฝีเท้าขึ้นเพื่อให้ไปถึงที่หมายให้เร็วกว่าเดิม ที่เสียชีวิตไปคงเป็นกรรมแล้วหมายจะทำร้ายภูมิบุญแต่ตัวได้รับกรรมเอง แทนทวีประนามการกระทำของพี่สาวและคนที่ตายแม้จะเคยขออโหสิกรรมกันแล้ว แต่เมื่อมารู้ความจริงเขาเองก็รับไม่ได้
"สวัสดีครับพี่ แฮ่กๆๆ ภูมิอยู่ไหม ภูมิ"
แทนทวีค้อมตัวลงจับเข่าตัวเองหายใจทางปากหอบอยู่
"ใจเย็นๆค่ะคุณแทน มาหาภูมิเหรอคะ ภูมิไปต่างจังหวัดน่ะค่ะคุณแทน"
อ้อยบอกแทนทวี
"ห๊า ไปไหนนะครับ ไปกับใคร ภูมิไปไหนนะครับพี่"
แทนทวีตะโกนออกมาลืมเหนื่อยไป
"เห็นได้ยินจะไปมุกดาหารหรืออะไรนี่ล่ะค่ะ ไปคนเดียวนะคะ เห็นบอกว่าไม่สบายใจพอดีเพื่อนภูมิเขาเสียน่ะค่ะคุณแทน แต่ภูมิออกจากบ้านไปแล้วตั้งแต่เที่ยง"
แทนทวีหันหลังกลับออกวิ่งกลับบ้านทันที ในใจก็ร้อนรนยิ่งกว่าเดิมเหมือนไฟที่เผาเหล็กร้อน เพิ่มความร้อนในใจมากขึ้นไปอีกเมื่อโทรศัพท์เขาใช้ไม่ได้ อยากจะเข้าไปต่อว่าพี่สาวเหลือเกิน เพราะความสิ้นคิดของเธอทำให้เรื่องมันบานปลายได้มากมายขนาดนี้
"จะไปไหนแทน ลูก"
แพทย์หญิงศิริกานต์วิ่งออกมาดูลูกชายที่กระโดดเข้าไปในรถแล้วบึ่งออกจากบ้านทันที
ไม่รู้ว่าคนทางโน้นจะเป็นยังไงบ้าง ไม่รู้จะทำยังไงอยากบอกเหลือเกินว่าอยู่ไหนแล้ว อยากได้ยินเสียงเหลือเกิน อยากได้ยินเสียงเพื่อชะโลมหัวใจที่กำลังห่อเหี่ยว อยากได้กำลังใจ แต่ขอโทษจริงๆที่อยู่รอเจอหน้าไม่ได้ ขอโทษจริงที่ทำใจอยู่พบหน้าไม่ได้ ยังไม่อยากจะเจอใคร ไมอยากจะคุยกับใครแม้แต่ตัวเอง ภูมิบุญอยู่ในสภาวะช๊อคอย่างแรงสายตาเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่างรถไม่มีจุดหมายปลายทาง ทำไมเขาไม่พักใจอยุ่ที่บ้าน ทำไมถึงไม่อยู่รอเจอคนที่เขาบอกว่ารักมากกว่าใครเสียก่อน ทำไมถึงออกต่างจังหวัด ไปไกลๆแล้วจะช่วยได้เหรอ คำถามมากมายผุดขึ้นในหัว แต่ท่านเอยอันสติของคนเราหากมันขาดหายหรือโดนกระทบกระเทือนไป เคยไหมที่เดินจะกลับบ้านตัวเองแต่พอเงยหน้าขึ้นมันกลับเป็นหน้าบ้านของคนรักทั้งที่เขาเพิ่งบอกเลิกตัดความสัมพันธ์ เคยไหมเวลาจะกินข้าวแต่เอาแต่ช้อนตักลมเข้าปาก ภูมิบุญเองก็เป็นเช่นนั้น ครั้งที่ยายเสียนอนแน่นิ่งอยู่เขาก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่ครั้งนั้นพอมีสติคืนมาเขากลับคิดแค้นคนที่ทำร้ายเขา แต่ครั้งนี้เพราะความแค้นที่มีต่อกัน ทำทุกอย่างเพื่อให้อีกฝ่ายด้อยกว่าตน นี่คือผลของมัน
เวลาสามทุ่มตรงรถประจำทางปรับอากาศชั้นหนึ่งเข้าจอดเทียบที่ชานชลาของสถานีขนส่งประจำจังหวัดมุกดาหาร คนสุดท้ายที่ลงจากรถคือภูมิบุญเขาสะดุ้งตัวเด้งขึ้นมาเมื่อพนักงานประจำรถมาเขย่าตัว ไม่ได้หลับตายังเบิกกว้างอยู่ แต่จิตใจไม่ได้อยู่ตรงนั้น แสงไฟในเมืองแม้ไม่มากเท่าเมืองหลวงแต่ก็บอกให้รู้ว่าเป็นเมืองไม่ใช่ที่ที่เขากำลังมุ่งหน้าจะไป ที่ที่เขาจะไปพึ่งบุญเอาใจไปพักรักษาเยียวยาให้ดีกว่าเดิม ภูมิบุญเดินลงจากรถ มีรถรับจ้างเข้ามารุมตามประสาของสถานีขนส่งตามต่างจังหวัด
"ไปไสหล่า"
คำพูดภาษาถิ่นดังอยู่ข้างๆหูรื้อฟื้นความทรงจำ ภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งประสบการณ์ชีวิตดวงหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงใจฉายเด่นออกมาในหัว ภูมิบุญบอกสถานที่ที่จะไป คนขับรถรับจ้างโก่งราคา ภูมิบุญไม่พูดอะไรสักคำพยักหน้ารับรู้ พอขึ้นรถไปได้ก็นั่งหันหน้าออกนอกกระจกรถ จนขับรถเกาหัวบ่นเป็นภาษาถิ่นออกมา จากแสงสีในเมืองรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่วิ่งไปตามถนนลาดยางผ่านความมืดที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า มีเพียงแสงไฟนีออนจากหน้ารถสาดส่องนำทางไป จากถนนลาดยางรถกระบะเลี้ยวเข้าถนนลูกรังแต่ตอนนี้ไม่มีฝุ่นคลุ้งกระจายมากนักเพราะเหมือนว่าฝนเพิ่งจะตกเมื่อไม่นานมานี้
"จอดตรงนี้ล่ะครับพี่"
ภูมิบุญเอ่ยขึ้นเมื่อรถแล่นผ่านมาหน้าบ้านที่คุ้นตา เสียงสุนัขเห่าหอนต้อนรับอยู่เป็นระนาว
"แม่นผู้ได๋มาน้อ ไปเบิ่งแน่บักพงษ์"
เสียงยายที่งัวเงียออกมาจากมุ้ง ร้องเรียกหลานชายให้ตื่นตาม ภูมิบุญจ่ายเงินไปแต่คนขับไม่เอาตามจำนวนที่เรียกไปแต่แรก เพราะเห็นสภาพแล้วไม่น่าโกงได้ลงคอ
"ยาย สวัสดีครับ"
"อ้าว บักหล่า ไปจั๋งได๋มาจั๋งได๋น้อ มาๆเข้าเฮือนก่อน"
พอเห็นหน้ายายภูมิบุญก็ยกมือขึ้นไหว้ น้ำตาซึมออกมา
"ผมขออยู่กับยายที่นี่สักสองสามวันได้ไหมครับ"
ภูมิบุญเม้มปากพูดกัดมันไว้เพราะกลัวว่าจะร้องไห้ออกมา
"บ่อเป็นหยังบักหล่อ อยู่โดนๆก็ได้ ยายบ่อว่าดอก"
ภูมิบุญเกินจะทานทนกับความรู้สึกได้ โผเข้ากอดยายร้องไห้ออกมาจนได้
"ไอ้กัส มึงโทรตามน้องภูมิให้กูหน่อย"
จุดหมายปลายทางของแทนทวีคือบ้านของกัสเพื่อนสนิท พอไปถึงก็บุกขึ้นห้องของกัสทันที
"เฮ้ยมีอะไรวะไอ้แทน"
"เอาโทรศัพท์มึงมา"
เป็นทางเดียวที่เขาคิดได้ในตอนนี้ จนปัญญาแล้วคิดไม่ออกแล้ว
"เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถ"
"เฮ้ย"
แทนทวีกดสายทิ้งทันทีเมื่อเสียงตอบรับอัติโนมัติดังขึ้น แต่ก็ยังพยายามต่อสายอยู่อย่างนั้น
"มีอะไรวะไอ้แทน ทำเหมือนใครตาย"
สะกิดใจเข้าพอดี แทนทวีปาโทรศัพท์ในมือลงเตียงนอนของกัสทันที
"ไอ้ห่า มึงมัวแต่นอน มึงรู้ไหม๊ ว่านิตาตายแล้ว"
แทนทวีตะคอกออกไปเสียงดัง กัสหน้าซีดลงพูดอะไรไม่ออกอ้าปากค้าง
"ไอ้ส้นตีน มึงรีบลุกเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพากูไปมุกดาหาร ก่อนที่มึงจะเป็นศพรายต่อไป"
แทนทวียังตวาดเสียงดังลั่น กัสรีบลนลานลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำไม่ถึงห้านาทีก็รีบออกมาจากห้องน้ำอยู่ในชุดที่ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ แต่ก็ต้องจำยอมเพราะถ้านานกว่านี้มีหวังโดนแทนทวีเล่นงานเอาแน่ๆ กัสนั่งข้างๆแทนทวีพยายามจะเอ่ยปากถามแต่แทนทวีได้แต่ถอนหายใจ
"มึงพยายามติดต่อภูมิให้กูหน่อย"
นี่คือคำที่หลุดออกจากปากเขา สีหน้าแววตากระวนกระวายเหมือนนั่งทับหินร้อน เหงื่อกาฬก็ผุดออกมาจากดวงหน้าอยู่แม้เครื่องปรับอากาศภายในรถจะทำงานจนเพื่อนที่นั่งมาด้วยเริ่มสั่นเพราะความเย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่าอากาศภายนอกมากยิ่งนัก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนับจากนี้แทนทวีให้คำมั่นกับตัวเองว่าเขาจะเชื่อภูมิบุญมากกว่าใคร แค่คนตัวเล็กๆคนหนึ่งทำไมผู้คนมากมายหมายที่จะปองร้าย แววตาของภูมิบุญแม้จะมีจริตของความแข็งกร้าวเจืออยู่เวลาที่ต้องเผชิญกับศัตรู แต่ลึกๆแล้วแววตานั้นมันเศร้า เศร้าเสียจนน่าใจหาย แทนทวีได้แต่หวังว่าอย่าให้ภูมิบุญเป็นอะไรไปอีกคน เพราะตอนนี้หัวใจของเขามันกำลังร้อนรนเต็มที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น