วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

(Heroine) ที่นี่ไม่มีนายเอก ฉากห้าสิบห้า

"อีบ้านั่นห้ามก็ไม่ฟังนะภูมิ มันมาทำอะไร"

พลอยเดินเข้ามาถามภูมิบุญในห้องทำงาน ภูมิบุญระบายลมหายใจออกมา

"จะให้เราเซ็นอนุมัติแผนงานให้ ทั้งที่ยังไม่ได้พรีเซนต์"

"อีนี่ มันเอาตาตุ่มคิดเหรอ จะบ้าไปแล้ว"

"นั่นน่ะสิ เราก็โทรไปถามคุณโตโต้ เขาบอกว่าอย่าไปเซ็น"

"แหม พวกมันอาศัยช่วงที่บอสไม่อยู่น่ะสิ เลวที่สุด คอยดูนะถ้ามาอีกจะตบให้หน้าหงายเลย"

"อย่าเลยพลอย อย่าไปแลกกับคนพวกนี้เลย ใจเย็นๆก่อน"

"ไม่ได้หรอกภูมิ คนพวกนี้มันไม่เห็นโลงศพมันไม่หลั่งน้ำตาหรอก เราไม่ยอมให้มันมาแรงใส่ฝ่ายเดียวหรอก เป็นพนักงานใหม่แล้วไง เป็นรุ่นน้องแล้วไง อยากจะเคารพอยู่หรอกนะถ้าไม่ทำตัวแบบนี้"

พลอยโพล่งออกมา ภูมิบุญถอนหายใจ

"น้องภูมิ ทำไมคะ ทำไมถึงไม่เซ็นให้พี่"

ประตูถูกผลักออกพร้อมร่างของแพรที่มีแฟ้มเอกสารอยู่ในมือ ข้างหลังเป็นเมย์ที่ยืนแสยะยิ้มอยู่

"ไวจริงนะ เรื่องฟ้องน่ะ"

พลอยพูดขึ้นหันขวับไปกันไว้ยืนตาเขียว

"ไม่ใช่เรื่องของเธอ ถอยไป"

แพรขึ้นเสียงตวาดเสียงดัง

"ทำไมจะไม่ใช่ ในเมื่อหนูเป็นเลขาฯหน้าห้องนี้ หนูเคยบอกแล้ว ว่าใครหน้าไหนถ้าจะผ่านเข้ามาในห้องต้องผ่านหนูก่อนไม่ใช่เหรอ"

แพรเม้มปากมองหน้าพลอยเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

"พลอย ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราจัดการเอง พลอยตามคุณหินให้ที"

"จะตามมาทำไมคะน้องภูมิ ก็พี่เอามาให้เซ็นอยู่นี่คะ"

"คุณ แพรครับ ให้เกียรติผมด้วย ผมว่าคุณแพรน่าจะเข้าใจนะครับว่าห้องนี้เป็นห้องทำงานของเจ้าของกิจการ ถ้าไม่ยำเกรงผมก็ให้เกรงในตำแหน่งผมด้วย อย่ามาส่งเสียงดังแถวนี้ ผมไม่ชอบ"

"น้องภูมิ" วี้ดเสียงขึ้นสูงยืนมองหน้าตาเขียว ภูมิบุญลุกขึ้นจ้องหน้าเช่นกัน

"ในเมื่อผมไม่เซ็น แล้วทางคุณต้องการอะไรล่ะครับ ผมไม่เซ็นคือไม่เซ็น อยากให้เซ็นก็ต้องรอถึงวันพรีเซนต์ ไม่ใช่วันนี้ แล้วไหนครับ ตัวอย่างของที่ผมขอไป ทำงานกันง่ายไปไหมครับคุณแพร ผมเพิ่งทำงานก็จริงนะครับ แต่ไม่ใช่ว่าหัวผมกลวง ผมไม่รู้ว่าหลักการทำงานของที่นี่เขาทำกันยังไง แต่ตามหลักสากลการจะเซ็นอนุมัติโปรเจ็กต์แต่ละอย่าง ผมต้องมั่นใจแล้วว่าคุณมีคุณสมบัติเพียงพอแล้ว"

"น้องภูมิ"

ได้แต่สะอึกขึ้นเสียงสูง

"เชิญครับถ้าหมดธุระแล้ว อ้อต่อไปถ้ามีธุระกับห้องนี้อีก กรุณาทำตามอย่างที่เลขาฯผมบอกนะครับ รบกวนด้วย"

นั่งลงเปิดเอกสารดูต่อไม่ได้สนใจในสายตาหรือกริยาท่าทางของคนทั้งสอง

"ปัง"

เสียงปิดประตูดังลั่น

"เป็นไงคะ ขอดูหน่อยสิคะว่าลายเซ็นของบอสยังสวยเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า"

"ปากดีนะแก คอยดูเถอะ สักวันแกต้องก้มลงศิโรราบให้ชั้น"

"เมื่อไหร่คะคุณแพร ต๊าย อย่าให้รอนานนักนะคะ พลอยเป็นพวกขี้เบื่อน่ะค่ะ รอนานๆไม่ชอบ"

"แก มากเกินไปแล้วนะ ชั้นตำแหน่งใหญ่กว่าแกนะ"

แพรถลาเข้าหาสายตาหมายจะตบเอาสักที พลอยลุกขึ้นยืนจังก้าไม่ยอมเช่นกัน

"แล้วไงคะ ตำแหน่งน่ะ จะถอดพรุ่งนี้มะรืนยังได้ ใหญ่มาจากไหนคะคุณแพร ถ้าใหญ่จริงทำตัวให้น่าเคารพนับถือหน่อยสิคะ เพิ่งจะรู้ว่าคนที่ตำแหน่งใหญ่ๆนี่กลัวคนเขาไม่รู้เหรอคะถึงคอยป่าวประกาศ ทั่วบ้านทั่วเมืองขนาดนี้"

"แก"

แพรยกมือขึ้น มาดของหัวหน้าพีอาร์ที่คอยติดต่อประชาสัมพันธ์ให้บริษัทหายไปทันที มาดของแม่ค้าขายปลาเข้ามาแทนที่ พลอยเอกก็ยกแฟ้มขึ้นเหมือนกัน

"แก"

"น้องพลอยครับ ตามตัวพี่เหรอ"

พอดีหินเดินมาร้องทักก่อน ทั้งสองคนจึงเปลี่ยนสีหน้าเหมือนกิ้งก่าทันทีสายตายังคงเขียวมองอยู่

"อ้อคุณหิน เรื่องแผนงานน่ะค่ะ เชิญด้านในดีกว่านะคะ"

พลอยเชิญหินให้ตามเข้าไปในห้องทำงานของภูมิบุญ ส่วนแพรกับเมย์ทำท่าทางอยากรู้อยากเห็น

"ยังไงๆงานนี้ก็ต้องเป็นของคุณแพรล่ะค่ะ หินน่ะไม่เคยทำงานใหญ่ทำไม่ได้หรอก"

เมย์เปรยขึ้น เมื่อเห็นพลอยเดินกลับออกมา

"ได้ไม่ได้ไม่รู้อ่ะนะ แต่รู้ว่าคนที่ทำงานใหญ่แต่ไม่เอาอ่าวน่ะมีถมไป สักแต่เอาตำแหน่งมาบังหน้า ทำงานห่วย"

พลอยพูดขึ้นลอยๆ

"แกว่าใคร ปากดีนักนะ รักษาเก้าอี้แกไว้ให้ดีเถอะ ชั้นจะมาทวงคืน"

เมย์แว้ดเสียงขึ้นแพรเองก็กัดปากแน่น

"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เพราะหนูคงไม่ยอมให้ใครแย่งตำแหน่งง่ายๆเหมือนกัน เด็กสาวๆยังไงก็มีภาษีเหนือกว่าพวกหนังเหี่ยวๆ"

"กรี๊ดดด แก อี"

พลอยลุกขึ้นถลึงตาใส่ แพรลากเมย์ออกไปเสียเพราะมีคนจากออฟฟิศออกมาดูแล้ว

"น้องภูมิจะดูตัวอย่างของใช่ไหมครับ พี่เตรียมมาแล้ว แต่ยังเหลือแต่อาหารนะครับ ซัพพายเออร์เขานัดวันพุธ ยังไงเดี๋ยววันพุธพี่เอามาให้ดูอีกที"

พอนั่งลงเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของภูมิบุญหินก็เอาแฟ้มงานที่ตัวเองหอบมาออกมาวาง ต่างกับเจ้าก่อนที่เพิ่งออกจากห้องไป ภูมิบุญจ้องมองครุ่นคิดอยู่

"ครับไม่มีปัญหา ผมขอดูตัวอย่างเลยได้ไหมครับ"

ภูมิบุญเอ่อยออกไป ฝ่ายหินก็กดโทรศัพท์ส่วนตัวไปบอกเพื่อนร่วมงานให้เอาตัวอย่างของมาให้ดู

"แต่น้องภูมิครับ เรื่องเซเลปที่จะไปเปิดงาน คือพอดีพี่รู้จักออการ์ไนเซอร์ เป็นรุ่นพี่ที่มหาฯลัยน่ะครับ เขามีออนแฮนด์อยู่หกคนถึงแปดคน"

หินเอ่ยรายชื่อให้ภูมิบุญฟัง ภูมิบุญพยักหน้ารับฟัง

"แต่เรื่องบัดเจ็ท พี่เขาต่อรองอยากจะขอที่สองแสนครับ รวมทุกอย่าง ทั้งค่าเครื่องค่าตัว ส่วนที่พักพี่จะให้พักที่รีสอร์ทของเรานั่นล่ะครับ"

"สองแสนเหรอครับ อืม ผมขอพิจารณาดูก่อนนะครับ อันนี้ราคาดีที่สุดแล้วใช่ไหมครับคุณหิน"

"มีอีกทางครับ บัดเจ็ทแสนนึงแต่เซเลปได้แค่สี่คนถึงห้าเป็นอย่างมาก พี่คิดว่าเปิดตัวทั้งทีเอาให้ดังไปเลยครับ เพราะงานเปิดตัวเรามีอยู่แค่สองทางเลือก คือดับกับเกิด คราวที่แล้วที่เขาค้อ เซเลปไม่กี่คนแต่บัดเจ็ทสูงกว่านี้นะครับน้องภูมิ"

"ครับ ผมกำลังตรวจสอบอยู่ เพราะผมคิดว่าการโชว์ตัวแค่ไม่ถึงชั่วโมงนี่เขาคิดกันแพงขนาดนี้เชียวหรือ อีกอย่างค่าเครื่องที่พักต่างๆ เราก็ออกให้หมด ยังไงผมรบกวนขอรายละเอียดมากกว่านี้นะครับ"

"แล้วน้องภูมิอยากให้มีเซเลปประมาณกี่คนดีครับ พี่ว่าไม่เกินแปดน่าจะโอเค เพราะถ้าเยอะกว่านั้นจะเหมือนไปแย่งซีนงานของเราเสีย"

"อืม ผมว่าเท่านั้นก็น่าจะโอเคนะครับ เดี๋ยวผมลองปรึกษากับคุณโตโต้ดูอีกที แล้วเรื่องสื่อล่ะครับ"

"อ้อ เรื่องสื่อ ตอนนี้ผมมีนิตยสารเกี่ยวกับที่พักอาศัยออนแฮนด์อยู่ห้าเล่มครับ หนังสือพิมพ์อีกสองฉบับ ส่วนสื่อโทรทัศน์นี่พี่ไม่แนะนำนะครับ เพราะค่าเวลาเขาแพงแอดให้เราก็ไม่กี่นาที ส่วนมากจะเป็นดึกๆด้วย"

"เหรอครับ แล้วรายการท่องเที่ยวได้ดูมาบ้างไหมครับ"

"ดูครับ แต่พี่คิดว่าน่าจะเป็นหลังเปิดตัวน่าจะเหมาะกว่า จะได้ส่งเทียบเชิญมาทำรายการเลย เพราะถ้ามาช่วงงานคงไม่ได้เห็นพร็อพเพอร์ตี้เราเท่าไหร่นัก"

ภูมิบุญพยักหน้า ตั้งใจฟังในสิ่งที่หินเล่า สักพักก็มีเพื่อนร่วมงานเอาตัวอย่างของมาให้ดู

"ผ้าที่ใช้ในงาน พี่คิดว่าจะเน้นผ้าพื้นเมืองนะครับ เพราะในรีสอร์ทเราก็ใช้ผ้าแบบนี้อยู่แล้ว ผมขอให้ซัพพายเออร์เอามาให้ สีก็จะเน้นสีขาวผ้าฝ้าย กับสีทองส้มสัญลักษณ์ของรีสอร์ทเรา ส่วนแบบการจัดงานตามนี้ครับ เซ็ทไว้สองแบบ นี่ครับน้องภูมิ"

หินเอาแฟ้มตัวอย่างผ้าขึ้นมาให้ภูมิบุญดู พร้อมกับแฟ้มแผนงาน ภูมิบุญเปิดดูแล้วพยักหน้าพอใจกับสิ่งที่ได้เห็น

"ส่วนนี่เป็นรายชื่อดอกไม้สดที่ใช้ในงานครับ ผมติดต่อไว้สองที่ ให้ราคาใกล้เคียงกัน เจ้านี้มีดอกไม้หลายชนิดกว่าแต่พี่ว่าดอกมันเล็กไปหน่อย ส่วนเจ้านี้เน้นกุหลาบกับกล้วยไม้แต่ดอกใหญ่เห็นเขาบอกส่งมาขายในกรุงเทพฯ"

หินเอาแฟ้มงานอีกเล่มขึ้นนำเสนอ

"อืมครับ ขอบคุณนะครับคุณหิน ผมพอใจมากครับ เดี๋ยวยังไงวันพฤหัสฯผมค่อยตัดสินใจอีกที ผมรอปรึกษากับคุณโตโต้ก่อนนะครับ"

ภูมิบุญบอกเมื่อดูแผนการเสนองานของหินเสร็จ เขายิ้มออกมา

"คุณหินครับ คราวที่แล้วคุณหินได้ช่วยคุณแพรเตรียมงานหรือเปล่าครับ"

ภูมิบุญเบนเข้าประเด็น

"น้องภูมิครับ แผนงานทุกอย่างพี่เป็นคนร่างกับทีม แต่พอทำเสร็จชื่อพี่กลับไม่มีเลย แล้วคุณแพรก็เปลี่ยนรายการตามใจชอบ ทั้งที่พี่แย้งแล้วว่าบางรายการมันไม่เหมาะ อย่างเซเลปเชิญคนที่มีข่าวฉาวทั้งปีไปงาน แต่งตัวก็ไม่ดูกาลเทศะสรุปก็เป็นอย่างที่เห็นล่ะครับ"

"หมายถึงคุณหินคอยเตรียมงานให้คุณแพรตลอดเลยเหรอครับ"

"ครับ แต่ทำไงได้ครับน้องภูมิ เขาเป็นหัวหน้านี่นะ พี่ก็ทำตามหน้าที่"

หินพูดออกมาไม่รู้ว่าจุดประสงค์คืออะไรแต่ภูมิบุญก็สูดลมหายใจเข้าปอดครุ่นคิดอยู่

"งั้นหลังงานเปิดตัว รบกวนคุณหินรวบรวมงานที่คุณหินเคยทำมาให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ เผื่อว่าผมจะทำอะไรได้บ้าง"

ตาฉายแววดีใจขึ้นมาทันที พอสนทนากันจบภูมิบุญก็นั่งไตรตรองอยู่ ชีวิตการทำงานมันช้างหนักหน่วงเสียจริง การตัดสินใจพลาดหมายถึงการเสียอะไรไปสักอย่างไม่มากก็น้อย ไม่เหมือนตอนเรียนแม้จะทำรายงานผิด อาจารย์ก็ตีกลับมาให้แก้ใหม่ได้ แต่นี่มันไม่ใช่ ชีวิตการทำงานถ้าพลาดไปคนที่รอซ้ำเติมมีอยู่ตลอดเวลา คนที่คอยหาช่องหาโอกาสมันมีอยู่ตลอด

"พี่น้อยคะ แพรว่ามันรู้ตัวแล้วนะคะพี่น้อย"

พอกลับไปถึงทีทำงานก็เดินออกไปหาที่เงียบๆกดโทรศัพท์ไปหาน้อย

"จริงเหรอคะน้องแพร หึมันฉลาดกว่าที่เราคิด ไม่เป็นไรนะคะน้องแพร เราต้องไวกว่าพวกมัน เดี๋ยวพี่จะให้คนไปเอาเอกสารไปทำลายซะ มันก็ไม่มีหลักฐานจะทำอะไรเราได้แล้วล่ะค่ะ"

"อย่าช้านะคะพี่น้อย แพรกลัวว่ามันจะไหวตัวทัน รู้สึกไม่ดีเลยค่ะ"

น้อยกดสายวางไปแล้ว สายตาเคียดแค้นขึ้นมา

"หล่อนมาทำเองสิยะ แหมช่วยได้เยอะมากนะยะหล่อนน่ะ อย่าริมาสั่งชั้น"

น้อยพูดออกมาก่อนที่จะเรียกมือซ้ายมาพบ

"ให้เอาขายหมดเลยใช่ไหมคะคุณน้อย"

สายใจมือซ้ายของน้อยพูดขึ้น

"ขายแล้วบอกให้เขาเอาไปทำลายด้วย อย่าให้เหลือซาก เอาให้เนียนนะสายใจ"

น้อยกำชับ พอสายใจลงไปห้องเก็บเอกสารก็เห็นคล้องกุญแจดอกใหญ่อยู่เหมือนเคย กดโทรศัพท์หาลุงให้มาเปิดห้องให้ทันที

"มาเปิดห้องให้ชั้นหน่อย"

"อ้อ คุณสายใจ ขอโทษนะครับผมออกมาทำธุระให้ออฟฟิศน่ะครับ กุญแจคุณภูมิแกเก็บไว้"

"อะไรกันยะ ทำไมให้คนแบบนั้นเก็บไว้ ลุงนี่ไม่ได้เรื่องจริง"

สายใจหัวเสียไปแล้วทำหน้าบึ้งตึงครุ่นคิดอยู่ว่าจะทำยังไงต่อไปดี

"คะพี่ ติดต่ออะไรคะ"

พลอยถามขึ้นเมื่อเห็นสายใจยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าโต๊ะ

"คือพี่จะมาเอากุญแจห้องเก็บเอกสารค่ะ"

"หือ แล้วทำไมมาที่นี่ล่ะคะ เราไม่มีกุญแจนะคะพี่"

"อ้าว ก็ลุงบอกว่าน้องภูมิเก็บไว้นี่คะ พี่เสียเวลานะคะน้อง"

แว้ดเสียงขึ้นทันที

"เสียเวลาหรือไม่ไม่ทราบค่ะ แต่รู้ว่าคุณภูมิไม่ได้เก็บกุญแจไว้"

พลอยตอบกลับไม่ได้สนใจ สายใจเม้มปากหนัก

"ดีค่ะ งั้นพี่จะให้ช่างงัดกุญแจออกมาเลย"

"เชิญ ค่ะ แต่จากที่ดูระเบียบการของพนักงาน ใครที่ทำลายข้าวของบริษัท โทษคือจำหน่ายออกนะคะ ไม่ทราบพี่ทำงานมานานจนลืม หรือว่าไม่เคยอ่าน"

"เธอ"

สายใจมองสายตากร้าว

"เอาสิคะ ในเมื่อคำสั่งให้ล็อคห้องนั้นคือคุณโตโต้ พี่คิดว่าพี่มีอำนาจการตัดสินใจเหนือกว่า เชิญค่ะ"

พลอยยังไม่หยุด มองสายตายียวน

"มีอะไรกันเหรอพลอย"

ภูมิบุญเดินออกมาจากห้องพอดีเอ่ยถามขึ้น

"ก็พี่เค้าจะมาเอากุญแจห้องเอกสารน่ะค่ะบอส พอดีพลอยบอกว่าเราไม่ได้เก็บกุญแจไว้ แต่พี่เค้าบอกว่าจะให้ช่างงัดห้อง"

พลอยเล่าใส่จริตจนสายใจมองตาเขียว

"ด่วนมากเหรอครับพี่ แต่เท่าที่ทราบแผนกบัญชีจะเก็บเอกสารทุกต้นเดือนนี่ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ ผมจะได้ให้คนเปิดให้"

ภูมิบุญมองด้วยสายตาที่ราบเรียบ

"เอ่อ คือพี่ว่าจะค้นเอกสารสั่งจ่ายเช็คเมื่อเดือนก่อนน่ะค่ะน้องภูิ พอดีมีปัญหานิดหน่อย"

"อ้อ เหรอครับ พลอยบอกช่างให้กุญแจสำรองไปเปิดให้พี่เขาสิ"

"ภูมิ"

พลอยร้องขึ้นไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

"พี่ไปรอหน้าห้องเลยนะครับ เดี๋ยวให้ช่างไปเปิดให้"

ภูมิบุญไม่ได้สนใจท่าทางของพลอยหันไปบอกสายใจ รายนั้นยิ้มออกมาแล้วเดินหนีไป

"โง่จริงๆ"

เธอพูดออกมาระหว่างรอลิฟท์ลงไปชั้นใต้ดิน

"ทำไมล่ะภูมิ"

"ไม่เป็นไรหรอกพลอย หึหึ ไปค้นเอาสิถ้าเจอ"

ภูมิบุญแสยะยิ้มออกมา

"หมายความว่ายังไงอ่ะภูมิ"

"ก็เราโทรมาบอกให้ลุงกับลุงหมายขนไปเก็บที่บ้านหมดแล้วนี่พลอย เอกสารที่เราต้องการ ที่เหลือก็ไม่สำคัญอะไร อยากได้อะไรก็หาเอาสิ"

"ภูมิ นายนี่น่ากลัวจริงๆนะ"

"ว่าไปนะพลอย เราก็ต้องรอบคอบไว้ก่อนสิ ยิ่งเราก้าวไวกว่าอีกฝ่ายเราก็ย่อมได้เปรียบ แต่เราก็ต้องไม่ประมาทนะ"

"จ้า ยิ่งนานวันนายยิ่งโตขึ้นทุกวันนะเนี่ย อย่าเจ้าเล่ห์มากนักล่ะกับเราน่ะ"

พลอยพูดติดตลกออกมา

"พลอย เวลาเราอยู่กับพลอย เราเป็นตัวของเรามากที่สุดนะ มันเป็นตัวเราจริงๆ เราไม่ได้เสแสร้ง"

ภูมิบุญพูดเสียงจริงจังก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไป

ส่วนโตโต้ก็กลับมาถึงบ้านตอนห้าโมงเย็นพอถึงบ้านก็สลบเป็นตายเพราะหน้าตาเหมือน คนไม่ได้นอน คุณอภิสราก็ไม่ได้กวนใจอะไร ภูมิบุญกลับไปถึงบ้านก็เข้าไปคุยกับเจ้าของบ้านอยู่พักใหญ่แล้วก็หอบเอกสารมาตรวจดูอีก

"พี่แทน เป็นอะไรหรือเปล่าครับ เมื่อวานไม่เห็นออน ภูมิเป็นห่วงนะครับ"

พอดึกทำงานทุกอย่างเสร็จก็มีเวลาส่วนตัว พอเห็นแทนทวีออนไลน์ก็รีบเข้าไปทัก ทั้งที่ปกติแทนทวีจะเป็นคนทักมาก่อนทุกครั้ง

"อ้อ ภูมิ โทษทีนะ เมื่อวานพี่ทำงานส่งเหนื่อยมาก หลับเป็นตาย ภูมิสบายดีไหม"

"เอ่อ ครับ พี่แทนโอเคใช่ไหม กินข้าวหรือยังอ่ะครับ"

"อืม เรียบร้อยแล้ว ภูมิ พี่ทำงานค้างไว้ แค่นี้ก่อนนะ พี่รักภูมินะครับ"

"ได้ครับพี่แทน ภูมิก็รักพี่แทนนะครับ"

มันไม่ชื่นฉ่ำใจเหมือนเคย ทำไมวันนี้มันถึงสั้นกระชับแบบนี้ เขาคงทำงานยุ่งจริงๆ ขนาดเรายังยุ่งปกติจะออนไลน์ตลอดเวลา แต่พอทำงานยุ่งก็ไม่ได้ออนไลน์เวลาทำงาน เขาคงยุ่งจริงๆนั่นล่ะ ภูมิบุญปลอบใจตัวเองก่อนจะเข้านอน

ส่วนพลอยวันนี้นัดทานข้าวกันกับไพลินพี่สาวกับก้องเพื่อนรักที่โรงแรมที่ไพลินทำงาน

"แหมก้อง ตัวห่างๆกันบ้างก็ได้นะ แล้วจะนัดพลอยมาทำไมเนี่ยพี่ไพลิน ถ้าอยากมาดินเนอร์กันสองคนน่ะ"

พลอยทำหน้าเซ็งเพราะทั้งสองคนพอเจอหน้ากันก็หวานใส่กันไม่สนใจใคร

"บ้าพลอย ก็พี่อยากเจอเรานี่นะ ไม่ได้เจอกินข้าวด้วยกันตั้งนานแล้ว"

"เออ พลอยแล้วภูมิเป็นไงบ้าง"

ก้องถามขึ้น

"ก็ดี ภูมิเขาโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากแล้วนะก้อง ความคิดความอ่านก็ลึกล้ำ"

"ก็ภูมิเป็นถึงระดับผู้บริหารนี่นะ วันหลังนัดกินข้าวกันดีกว่าเนอะ พี่ก็คิดถึงภูมิเหมือนกัน"

ไพลินเสริม ทั้งสามนั่งสนทนากันอยู่ระหว่างรออาหาร

"อ้าว คุณไพลิน มาทานข้าวเหรอครับ"

เสียงทักดังมาจากข้างหลังพลอย ไพลินเงยหน้าขึ้น

"อ้าว สวัสดีค่ะคุณกาย พอดีนัดน้องมาทานข้าวด้วยกันน่ะค่ะ คุณกายมาดื่มไวน์เหรอคะ"

พอรู้ว่าใครพลอยถึงกับส่ายหน้า ทำหน้าหมดอารมณ์ทันที

"ครับ พอดีนัดลูกค้ามาคุยงาน ติดใจโรงแรมของคุณไพลินน่ะครับ"

"ตายแล้ว อย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะคุณกาย ไพลินเป็นแค่เซลส์ต๊อกต๋อยเองค่ะ เชิญคุณกายนั่งด้วยกันก่อนไหมคะ"

ไพลินลุกขึ้นชวนตามมารยาท

"ครับ ดีเลยผมว่าจะหาอะไรกินก่อน พอดีลูกค้ายังไม่มา ไม่รังเกียจนะครับ น้องพลอย"

นั่งลงข้างพลอยทันที สายตามองพลอยหยาดเยิ้ม

"ไม่หรอกค่ะ แค่เป็นการทานอาหารค่ำระหว่างคนรู้จักเท่านั้นเอง"

พลอยปราดมองด้วยหางตา กายยิ้มออกมาทันที

"พลอย"

ไพลินหน้าเสียร้องปรามน้องสาว เพราะรู้ถึงพิษสงดีว่าพลอยเป็นอย่างไร

"อุ๊ยตายจริง แสดงว่าวันนี้เราก็มีเจ้ามือแล้วสิคะพี่ไพลิน ดีจัง"

พลอยร้องขึ้นยิ้มแสยะออกมา

"ไม่มีปัญหาครับ งั้นพี่ขออนุญาตสั่งอาหารเพิ่มนะครับ"

เขาทำให้พลอยกัดฟันหมั่นไส้อยู่

"น้องพลอยได้งานแล้วเหรอครับ"

กายหันหน้ามาถามจริงจัง พลอยทำท่าเป็นไม่สนใจ

"อ้อค่ะ ได้งานเป็นเลขาฯน่ะค่ะคุณกาย"

ไพลินตอบแทนน้องสาว ก้องมองตาขวางเหมือนกัน

"จริงเหรอครับ ว้าน่าจะถามผมก่อนสักคำ ผมกำลังอยากได้เลขาฯอยู่พอดี"

"หึหึ เลขาฯหรือเลียขาคะ"

"พลอย"

"ฮ่าๆๆ เข้าใจพูดนะครับน้องพลอย"

กลับหัวเราะออกมาพอใจเสีย พลอยทำหน้าหมั่นไส้ หลังจากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก

"วันหลังพี่เลี้ยงข้าวอีกนะครับน้องพลอย"

พอทานข้าวเสร็จก็พูดออกมา แล้วลุกเดินหนีไป

"อวดรวยจริงนะ"

"ก้อง ไม่เอานะคะ อย่าไปว่าเขาแบบนั้น"

"จ้า เพราะไพลินนะเนี่ย"

"แหม หวานกันอีกแล้ว กลับดีกว่า พี่ไพลินกลับเถอะพลอยจะกลับไปดูเอกสารต่อ"

พลอยขัดแล้วลุกเดินนำไปก่อน ไม่ชอบใจที่วันนี้เจอหน้ากาย เจอทีไรไม่ชอบใจทุกทีแต่พักหลังนี่เขาออกตัวแน่ชัดเลยว่าจีบพลอย ไม่สนใจใครทั้งนั้น บางวันไปถึงบ้านคุยอยู่กับแม่ของพลอย พอพลอยกลับไปเจอก็ตะเพิดกลับบ้าน จนแม่และไพลินต้องคอยปราม ส่วนกายเขาไม่หยุดแค่นี้แน่ เพราะเขาคิดว่าเขาเจอแล้ว คนที่ถูกใจเขาที่สุดที่หามานาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น