"ทำไมใจร้ายกันจังเลย ทำลงไปได้ยังไง น้องมันเพิ่งจะอายุสิบห้าเองนะ"
พลอยร้องออกมาระหว่างทางไปยังหอของบาส
"เด็กมันไม่ทันคิดน่ะสิพลอย มันคิดแต่จะเอาคืน"
"ทำไมไม่มาเอาคืนกับภูมิ ไปทำเด็กมันทำไม เลว"
เสียงที่ดังขึ้นลอดออกมาจากไรฟันกัดกรามแน่นจนปูดโปน พลอยเองก็ไม่ได้ปลอบเพราะตนเองก็มีอารมณ์ความรู้สึกไปในทางเดียวกัน
"ใจเย็นๆก่อนนะ พี่ว่าเพื่อนพี่คงตามจับตัวได้เร็วๆนี้ล่ะ"
"จับได้พลอยจะไม่ยอมให้อภัยมันเลยนะคะ ก่อนเข้าตารางพลอยขอตบหน้ามันสักที"
"โห พลอย ใจเย็นๆ ไม่ได้หรอกถ้าเรื่องถึงตำรวจจะไปทำกับเขาแบบนั้นไม่ได้"
ทั้งสามโต้แย้งกันมาตลอดทางจนถึงหน้าหอ ภูมิบุญปรี่เข้าไปที่ห้องสำนักงานทันที มีตำรวจมารออยู่ก่อนแล้วสองนาย
"คุณกายใช่ไหมครับ ผู้กำกับฝากมาบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ตอนนี้เราให้กำลังตำรวจออกค้นหาตัวผู้ก่อเหตุแล้วครับ"
นายดาบคนหนึ่งเดินมาหากายแล้วเอ่ยขึ้น
"ฝากด้วยนะครับ หลานผมเอง"
กายพูดเต็มปากเต็มคำ
"เกิดอะไรขึ้นครับลุง ทำไมน้องผมถึงโดนทำร้าย"
ภูมิบุญปรี่เข้าไปหาเจ้าของหอที่นั่งหน้าเสียอกสั่นขวัญแขวนอยู่
"ลุงก็ไม่รู้นะหนู ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ข้างห้องเขาโทรลงมาบอก ลุงขึ้นไปดูก็เห็นพ่อหนูนั่นอยู่ในสภาพแบบนั้นแล้ว เลยโทรเรียกรถพยาบาลให้"
ลุงเล่าแบบสั่นๆ
"ใจร้าย"
พลอยร้องขึ้น
"คนทำมันหนีไปแล้วหนูพอเกิดเรื่องมันก็ไปเลย ของในห้องมันก็ไม่เอาไปสักอย่าง"
ภูมิบุญได้แต่เม้มปากแน่น
"งั้นเรากลับก่อนเถอะภูมิ ดึกมากแล้ว ขอบคุณนะครับลุง"
"ภูมิอยากจะจับตัวพวกมันให้ได้ในคืนนี้"
"เอาน่า ใจเย็นๆ ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เขา เพื่อนพี่คนนี้เชื่อถือได้ เราไม่ต้องห่วงหรอก ไม่น่าจะเกินพรุ่งนี้"
ภูมิบุญแม้ในใจจะร้อนรนอยู่มากแต่ก็ยอมกลับบ้านแต่โดยดี กายขับรถไปส่งที่บ้านก่อนแล้วค่อยวกไปส่งพลอย จวนจะตีสี่แล้วภูมิบุญเดินเข้าบ้านในสภาพที่ไม่มีจิตใจ มันลอยหายไปไหนแล้วไม่รู้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันตรึงอยู่ในหัวรุมเร้ากันอยู่
"ภูมิ ไปไหนมาลูก"
เสียงของจันทร์ร้องออกมา เธอตื่นมาเห็นห้องของภูมิบุญเปิดอยู่จึงอยู่รอไม่ได้กลับเข้าไปนอนอีก จิตใจของผู้เป็นแม่ก็กระสับกระส่ายไม่แพ้กัน
"แม่"
ภูมิบุญปรี่เข้าไปกอดมารดาร่ำไห้ออกมา
"ภูมิ มีอะไรลูก เป็นอะไรไป"
"แม่ ภูมิไม่ไหวแล้ว ภูมิเป็นตัวซวย อยู่ที่ไหนสร้างแต่ความลำบากให้เขา ภูมิไม่ไหวแล้ว แม่"
เสียงร้องไห้ที่ดังไม่มากนักเพราะคนที่ร้องกักเก็บมันเอาไว้ แต่ตัวที่สั่นโยนเพราะแรงสะอื้นมันทำให้ร่างของมารดาที่กอดไว้สั่นไปด้วย
"ภูมิ มีอะไร บอกแม่ ทำไมพูดแบบนี้ บอกแม่"
จันทร์เองก็ตกใจ ไม่ได้ร้องไห้แต่หัวใจกลับบอบช้ำไม่แพ้กัน
"แม่ทำไม ทำไมทุกอย่างเป็นเพราะภูมิคนเดียว เป็นเพราะภูมิ"
ไม่นานนักจันทร์ก็หลั่งน้ำตาออกมา พยายามซักแต่ภูมิบุญก็พูดวกไปเวียนมาอยู่แต่ประโยคเดิม แต่พอจะจับใจความได้ว่าลูกน้อยเนื้อต่ำใจอะไรมา เนิ่นนานจนฟ้าสางภูมิบุญจึงยอมสงบและเล่าเรื่องราวต่างๆให้มารดาของตนฟัง
"ตายจริง เวรกรรมแท้ๆ"
"เพราะภูมิคนเดียวนะแม่ ถ้าวันนั้นภูมิไม่ทำอย่างนั้นไป น้องเขาคงไม่เจอเรื่องแบบนี้"
"ไม่หรอกภูมิ ที่เราทำแบบนั้นมันก็ไม่ถูก แม่เองก็ว่ามันผิด แต่น้องมันไม่เกี่ยวข้องด้วยนี่ เอาเถอะเรื่องมันผ่านมาแล้ว ตอนนี้เราต้องหาทางแก้ไขก่อนว่าจะทำยังไงต่อไปดี"
สนทนากับมารดาอยู่สักพักก็เข้าไปในห้องล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้า พยายามข่มตานอนแต่ก็ไม่หลับ
"วันนี้ต้องไปวัดกับป้านะลูก ไม่ได้แล้ว อะไรกันคนตัวเล็กๆคนนึงทำไมเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้อยู่ไม่จบไม่สิ้น"
พอสายเดินไปตึกใหญ่ คุณอภิสรารู้เรื่องจากจันทร์ก็นั่งหน้าเคร่งเครียดอยู่ ส่วนโตโต้กำลังเดินลงมาจากบนบ้าน
"มีอะไรกันเหรอครับแม่"
โตโต้ถามขึ้นเพราะเห็นสีหน้าของทุกคนไม่สู้ดี
"วันนี้เราไปทำงานคนเดียวนะตาโต้ แม่จะพาน้องไปวัด"
"อ้าว ทำไมล่ะครับ มีอะไรกัน"
"ก็มีเรื่องน่ะสิ เด็กข้างห้องมันทำร้ายไอ้หนูนั่นน่ะสิ"
"อะไรนะแม่"
โตโต้วางกระเป๋าใส่เอกสารลงจากมือทันที แล้วหันไปมองหน้าภูมิบุญที่ดูซูบซีดเหมือนคนอดนอน
"ทำไมไม่บอกพี่ภูมิ"
"นี่ตาโต้ อย่าไปว่าน้องเขานะ เมื่อคืนก็ออกไปคนเดียว ไม่ได้แล้วแม่ต้องพาไปให้หลวงพ่อท่านรดน้ำมนต์ให้แล้ว อะไรกัน ตั้งแต่เรื่องที่บริษัทแม่ยังไม่ได้ทำบุญบ้านเลย คงจะถึงคราวแล้วล่ะ"
"งั้นโต้ไปด้วยนะแม่"
"เราไปทำงานเถอะอย่ากระโตกกระตากไป แม่ไปแค่ลพบุรีเองให้ลุงหมายขับรถให้ ไปจันทร์ไปเตรียมของ"
คุณอภิสราสั่งเด็ดขาด โตโต้ได้แต่มองหน้าของภูมิบุญ สงสารจับใจ ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาไม่เคยมีวันไหนที่โตโต้ต้องไปทำงานคนเดียว คนตัวเล็กผิวสีน้ำผึ้งที่มองไม่รู้จักเบื่อจะนั่งข้างกายตลอด แต่วันนี้เขาต้องยอมให้ภูมิบุญไปเพราะว่ามารดาสั่ง
ส่วนพลอยเองก็ลางานครึ่งวันไผเฝ้าบาสที่โรงพยาบาล กายเป็นคนรับผิดชอบให้ทั้งหมด บาสฟื้นแล้วแต่ไม่พูดอะไรกับใครเลย
"ใคร ใครทำลูกผม"
คุณรังสรรค์บิดาของบาสร่ำไห้อยู่ข้างเตียงลูกชาย สภาพของเขาไม่ต่างจากขี้เมาคนหนึ่ง กลิ่นเหล้าคลุ้งกระจายไปทั่วห้อง บาสเองเบือนหน้าหนีบิดา พลอยเดินเข้าไปเจอจึงยกมือไหว้ทักทาย รุ้สึกตกใจที่เห็นสภาพของผู้เป็นพ่อของบาส ทำไมมันเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ จากนายธนาคารที่ในวาดภาพเอาไว้ต้องมีมาดของนักธุรกิจ แต่ตอนนี้เขาไม่ต่างจากลุงขี้เมาคนหนึ่ง
"หนู ลุงขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ"
พอคร่ำครวญอยุ่สักพักเห็นพลอยจะเดินออกไปรอนอกห้องจึงเดินตามออกมา
"คะ คุณลุง"
"ลุงได้ข่าวว่ามีคนดูแลลูกผมใช่ไหม เป็นหนูหรือเปล่า"
พลอยมองหน้าของเขาอย่างไม่เข้าใจในจุดประสงค์
"เอ่อ ทำไมหรือคะ"
"เปล่าหรอก ลุงรุ้สึกละอายที่เลี้ยงลูกไม่ได้ บ้านก็ไม่มีจะอยู่ เงินก็ไม่มี สงสารลูกก็สงสาร ถือว่าเมตตาบาสมันนะหนู"
"ทำไมล่ะคะลุง"
"ลุงกะว่าจะไปอยู่ต่างจังหวัด หนีเจ้าหนี้น่ะหนู อยากจะฝากฝังบาสมันกับหนูเลย"
"ลุงคะ แล้วลุงจะไปอยุ่ไหนล่ะคะ"
พลอยชักสีหน้าไม่ดี เพราะตกใจที่ได้ยินคนที่เป็นพ่อพูดขึ้นมาแบบนี้
"มีอย่างหนึ่งที่บาสกับน้อยไม่เคยรู้"
เขาหยุดแล้วมองหน้าพลอยเรียกร้องความสงสารเห็นใจ
"ลุงมีเมียอีกคน อยุ่ที่เพชรบุรี ลุงว่าจะไปอยู่กับเขาที่นั่น"
ได้แต่อ้าปากค้าง พูดไม่ออก
"ลุงมีลูกสาวกับเขาด้วย ลุงกะจะไปตั้งหลัก ยังไงลุงฝากบาสมันด้วยนะหนู"
น้ำตาซึมออกมา พลอยเองเหมือนลมขึ้นมาจุกอยู่ที่อกหายใจลำบาก น้ำตาซึมออกมาเหมือนกัน นี่มันอะไร นี่มันวิบากกรรมอะไรมากมายก่ายกองขนาดนี้ พลอยนิ่งทรุดลงนั่งกับม้านั่ง ลุงเดินเข้าไปหาลูกชายเป้นครั้งสุดท้าย
"อย่าดื้อนะลูก เชื่อฟังพี่เขานะ พ่อขอโทษที่ทำลายความฝันของเรา พ่อเสียใจนะลูก รักษาตัวดีๆนะบาส"
เขาเองก็คงไม่ได้อยากทำเช่นนี้ บาสเองก็ไม่ได้อยากหันหลังให้บิดา ใครกันอยากจะได้ยินประโยคบาดใจเหล่านี้จากใครก็ช่างบนโลกใบนี้ บาสเองน้ำตาไหลออกมาอาบแก้มแต่กัดฟันเม้มปากเอาไว้แน่น คุณรังสรรค์เองก็เม้มปากหนักก้มตัวลงกอดลูกชายแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะเจ็บ ก่อนจะจากไป
"พ่อ"
เสียงลอดออกมาจากไรฟันแต่เขาออกจากห้องไปแล้ว อนิจจา ถึงเขาเป็นยาจกชีประขาวเขาได้ชื่อว่าบิดา ถึงเขาเป็นคนเลวหลอกลวงโลกเขานั้นก็ยังเป็นบิดา แล้วบุตรจะอายบิดามันควรแล้วหรือ บาสหันหลังกลับมาไม่เจอพ่อของเขาแล้ว มีพลอยกับกายยืนอยู่ กายเพิ่งจะมาจากซื้อของโดยให้พลอยขึ้นมาก่อน
"พ่อ พ่อไปไหน พ่อครับ พ่อ"
เขาร้องออกมา พลอยถึงกับทรุดลง กายรีบประคองตัวไว้ "พ่อ" แทงใจเหลือเกิน นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ยินคำนี้จากครอบครัวของเธอ แต่ภาพของพ่อที่มีในใจพลอยมันไม่น่าจดจำเท่าใดนัก เพราะพ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ที่ต้องแยกจากกันเพราะพ่อของเธอไปมีคนใหม่ เหมือนอย่างที่คุณรังสรรค์กำลังทำอยู่
"บาส"
พอได้สติก็ปรี่เข้าไปหา
"พ่อผมไปไหนพี่ พ่อ"
เขาร้องครวญครางออกมา
"พ่อเราไม่ได้ไปไหนหรอก ท่านไปอาบน้ำ บาส บาสเจ็บไหม พี่ขอโทษนะที่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเรา"
พลอยสะอื้นออกไปจับตามตัวของเขาอย่างแผ่วเบา กายเองก็ยืนประคองอยู่ข้างหลังไม่ยอมห่าง
"พี่ไม่ยอมให้พวกนั้นลอยนวลหรอกนะบาส พี่ไม่ยอม"
"พี่ ผมผิดเองล่ะที่ไปรกลูกหูลูกตาเขา คนอย่างผมน่ะ ควรจะตายๆไปซะ"
"บาส"
"บาส อย่าพูดแบบนี้สิครับ รุ้ไหมทุกคนเขาเป็นห่วงนะ ไหนเกิดอะไรขึ้น เราพอจะเล่าได้ไหม"
เสียงขรึมๆของกายทำให้ความเครียดมันดูอ่อนลง น้ำเสียงที่เข้มแข็งแต่อ่อนนุ่มไปในตัว บาสเม้มปากพยายามปาดน้ำตาออก พอเขาไม่คร่ำครวญแล้วกายก็เรียกให้เพื่อนที่เป็นผู้กำกับเข้ามาสอบปากคำ พลอยเองก็ถอยไปอยุ่ห่างๆกับกาย แต่พอรู้เรื่องว่าแท้ที่จริงแล้วเด็กคนนั้นไม่ได้มีความแค้นเป็นหลัก จุดประสงค์หลักคือมาไถเงินจากบาส เพราะเห็นที่โตโต้ให้เงินไปในวันนั้น พวกเขามากันสามคนรวมน้องผู้หญิงอีกคนเป็นสี่คน ทั้งสี่เหมือนเมาเหล้ามา บาสเล่าไปเรื่อยๆ พลอยได้ยินถึงกับเม้มปากหนัก
"โทษคืออะไรคะคุณตำรวจ"
พลอยโพล่งขึ้นเดินปรี่เข้าไปจ้องหน้า
"ทำร้ายร่างกายครับ"
"ไม่พอค่ะ เพิ่มข้อหาพยายามฆ่าด้วยสิคะ ดูน้องหนูสิ แบบนี้เขาเรียกทำร้ายกันเหรอคะ กระดูกชายโครงร้าวเนี่ย ยังไงหนูก็ไม่ยอม"
"พลอย"
กายปรามขึ้นแล้วอมยิ้มให้เพื่อนที่ยิ้มเช่นกัน
"ครับๆ ได้ครับน้องพลอย เดี๋ยวพี่จัดให้"
พลอยทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ส่วนกายกับเพื่อนก็นั่งยิ้มอยู่อย่างพอใจ ด้านภูมิบุญก็นั่งเงียบไปตลอดทางในใจก็คิดไปต่างๆนานาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
"ถึงแล้วลูก"
คุณอภิสราร้องบอก ภูมิบุญสะดุ้งตื่นจากภวังค์ วัดเขาสมโภชน์ที่จังหวัดลพบุรี มองไปหลังวัดมีภูเขารายล้อมอยู่เป้นเงาทะมึนแลดูน่าเกรงขาม หลังจากที่ขึ้นไปกราบพระบนโบสถ์แล้วก็ทำสังฆทานกันคนละชุด หลวงพ่อเพ่งมองใบหน้าของภูมิบุญตั้งแต่ก้าวเข้าไปในอุโบสถ
"โยมนี่มีบุญมีวาสนาสูงมากนะ แต่ ก็มีกรรมเยอะเหลือเกิน"
"นั่นสิคะเจ้าคะหลวงพ่อ หลานดิฉันทำไมเจอแต่เรื่องร้ายๆตลอด หลวงพ่อช่วยทำน้ำมนต์ให้หน่อยได้ไหมเจ้าคะ"
คุณอภิสราพนมมือขึ้น คุ้นเคยกับวัดแห่งนี้เป็นอย่างดีเพราะมาจำศีลที่นี่อยู่บ่อยครั้งกับจันทร์
"กรรมนะโยม จะหนีมันไปไม่พ้นหรอก ชาติที่แล้วทำเขาเอาไว้เยอะ แต่ก็ให้สร้างกุศล แผ่ส่วนบุญไปให้เจ้ากรรมนายเวร กรรมนั้นมันจะได้ลดละลงบ้าง อย่างโยมนี่เดี่ยวก็พ้นวิบากกรมแล้ว อดทนเอาหน่อยนะโยม"
ไม่ได้รุ้สึกซึ้งในรสพระธรรมหรือเข้าใจอะไรในสิ่งที่ หลวงพ่อเทศน์ให้ฟัง เพราะในหัวมันมัวมันตื้อไปหมด พออาบน้ำมนตืเสร็จก็กลับเข้ากรุงเทพฯ
"ภูมิเหรอ ภูมิกลับจากวัดหรือยัง"
พลอยโทรสัพท์เข้ามาหา
"กำลังกลับพลอย มีอะไรเหรอ"
"จับได้แล้วนะพลอย ไอ้เด็กเวรพวกนั้น ตอนนี้เรากับบอสกำลังไปที่สน.สวนหลวง"
"จริงเหรอพลอย เดี๋ยวเราไป"
ภูมิบุญร้องออกมาเสียงดัง คุณอภิสรากับจันทร์หันมองเป็นตาเดียว
"มีอะไรกันเหรอลูก"
"จับตัวคนร้ายได้แล้วครับคุณท่าน"
"เห็นไหม กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมสนอง"
คุณอภิสราพูดขึ้นแต่จันทร์กลับมีสีหน้าหงอยลง
"อโหสิกรรมเถอะนะลูก อย่าไปจองเวรจองกรรมอะไรกับเขาเลย ผลกรรมเขาก้ได้รับแล้ว"
"ครับแม่ ผลกรรมเขาได้รับแล้ว"
ภูมิบุญพูดออกมาน้ำเสียงแปลกไปจนคุณอภิสราปรายตามอง เพราะในใจของภูมิบุญกลับคิดว่า "กรรมนั้นตามสนอง แต่มันยังไม่สาสมไงครับแม่" พอถึงกรุงเทพฯบ่ายสามโมงกว่าๆ โตโต้ก็มารอรับที่บ้าน ส่วนพลอยไปรออยู่ที่สถานีตำรวจแล้วกับกาย ภูมิบุญพอขึ้นั่งบนรถได้ก็เปลี่ยนสีหน้าจากเหม่อลอยอยู่เป็นกระหายใคร่อยาก อยากจะเจอหน้าเด็กคนนั้นอีกที อยากจะเจอหน้าของคนที่ทำร้ายได้แม้กระทั่งเด็กอายุแค่สิบห้าปี
"จับได้เมื่อเช้านะภูมิ เด็กพวกนี้กำลังเมายากันอยู่"
"ที่ไหนครับ"
"ลาดกระบัง เรียนอยู่ปีสามกันแล้วนะ"
กัดฟังนั่งนิ่งไม่ยอมพูดจา สายตาของภูมิบุญจ้องมองไปยังพื้นถนนไม่วางตา พอถึงสถานีตำรวจภูมิบุญก็รีบขึ้นไปข้างบนทันที เห็นพลอยกับกายนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"เลวมาก ทำแบบนี้ได้ยังไง เป็นคนอยู่หรือเปล่า น้องเขาอายุแค่สิบห้าเองนะ ไม่มีสามัญสำนึก โตเป็นควายแล้ว เอาอะไรคิดมีสมองไหม"
เสียงพลอยตะเบ็งเสียงใส่เด็กวัยรุ่นทั้งสี่
"พลอย พี่กาย"
"ภูมิ นี่ไงไอ้พวกเดนสังคมที่ทำร้ายบาส"
ภูมิบุญสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ ปราดตามองทุกคนเรียงตัว เด็กคนที่ภูมิบุญมีเรื่องด้วยมองไม่วางตาเช่นกัน
"ใครเป็นคนทำ"
ภูมิบุญพูดขึ้นเสียงแข็ง
"เอ่อ น้องครับ น้องเขาสารภาพแล้วนะครับ ทางตำรวจแค่อยากให้มาดูตัวเฉยๆ"
"ผมทราบครับคุณตำรวจ ผมแค่อยากรู้ว่าใครทำ"
ภูมิบุญยังเสียงแข็งอยู่จ้องมองไม่วางตา
"ทำแบบนั้นทำไมครับ พี่เป็นคนมีเรื่องกับเรา ทำไมไม่มาทำที่พี่ ไปลงกับน้องเขาได้ยังไง"
"ภูมิ ใจเย็นๆนะ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เขาจัดการ"
กายเริ่มเห็นรังสีดำออกจากตาของภูมิบุญ
"กูนี่ล่ะทำ น่าจะเอาให้ตาย"
"ผลั่ก"
"เฮ้ย น้องพอๆ"
คนที่เคยมีเรื่องกันพูดออกมา ทันทีที่เขาเปล่งเสียงออกมาภูมิบุญก็ง้างเท้าถีบเข้าไปที่กลางใบหน้าของเขาหงายหลังตกเก้าอี้ไป เสียงน้องผู้หญิงกรี๊ดขึ้นทันที
"สัตว์ มึงเป็นคนอยู่ไหม อยากมีเรื่องมามีกับกูนี่ เก่งจริงแน่จริงไปตีเด็กเหรอ ไอ้สัตว์"
กายที่รั้งตัวภูมิบุญเอาไว้ต้องเพิ่มแรงเป็นพิเศษ โตโต้ขึ้นมาเจอก็เข้ามาดึงอีกอีกแรง
"เชี่ยเอ้ย"
อีกคนเปล่งเสียงออกมา
"ผลั๊วะ"
คราวนี้เป็นพลอยที่เอากระเป๋าถือใบใหญ่ฟาดไปที่หน้าของคนที่พูด
"ยังจะปากดี พ่อแม่ไม่มีเหรอถึงไม่สั่งไม่สอน เลวระยำ"
"พลอย"
กายวางมือจากภูมิบุญปรี่เข้าไปดึงตัวพลอยออกมา พลอยทั้งถีบทั้งเตะ ตำรวจทั้งโรงพักต้องเข้ามาระงับเหตุการณ์
"ผมไม่ยอม พวกนี้ไม่ใช่เยาวชนแล้วใช่ไหมครับคุณตำรวจ"
ภูมิบุญยังร้องออกมา
"ใจเย็นๆนะครับ ถ้าทำแบบนี้พี่ไม่ให้เจอแล้วนะ เดี๋ยวพ่อแม่ของเด็กก็มาแล้ว"
"ผมไม่ให้ประกันตัว คุณโตโต้ผมขอปรึกษาคุณอนิรุธได้ไหม ผมไม่ยอม ยังไงก็ไม่ยอม มันไม่ง่ายไปเหรอ พอทำชั่วแล้วจะมาประกันตัว ไม่มีทาง"
"เอ่อ กาย พาน้องออกไประงับอารมณ์ก่อนเถอะว่ะ เดี๋ยวเสียรูปคดีหมด"
กายพยักหน้าแล้วลากพลอยออกมา โตโต้จึงลากภูมิบุญออกมาเช่นกัน
"ไหน ลูก ลูกอีชั้นไม่ผิด ลูกอีชั้นไม่ผิด"
เสียงร้องดังขึ้นมาจากทางขึ้นสถานี ภูมิบุญเม้มปากหนัก โตโต้รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจึงรีบดึงตัวออกไป
"กลับก่อนเถอะภูมิ เดี๋ยวพี่ให้คุณอนิรุธจัดการให้"
"ไม่ยอมนะครับ ยังไงก็ไม่ยอม"
"ครับ พี่เข้าใจพี่เองก็ไม่ยอมหรอกภูมิ แต่เราใจเย็นๆก่อนได้ไหม"
โตโต้พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบภูมิบุญเม้มปากแน่นสูดลมหายใจเข้าปอด น้ำตาคลอออกมา
"ทำไมครับ ทำไม"
"เอาน่าภูมิ ป่ะกลับก่อน"
กว่าจะต้อนให้กลับบ้านได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร รายของพลอยเองก็ไม่ใช่น้อย กายต้องถือวิสาสะกอดตัวเอาไว้เพราะยังไงพลอยก็ไม่ยอม เพราะสิ่งที่เธอเจอมาที่โรงพยาบาลมันบีบใจเหลือเกิน แค่นั้นมันยังไม่สาสม กายเองก็กว่าจะลากตัวพลอยออกมาได้
"ไปเยี่ยมน้องกันดีกว่าไหมภูมิ น้องมันคงอยากมีเพื่อน"
โตโต้พูดขึ้น ภูมิบุญถึงยอมแต่โดยดี
"เลวมาก ทำแบบนี้ได้ยังไง เป็นคนอยู่หรือเปล่า น้องเขาอายุแค่สิบห้าเองนะ ไม่มีสามัญสำนึก โตเป็นควายแล้ว เอาอะไรคิดมีสมองไหม"
เสียงพลอยตะเบ็งเสียงใส่เด็กวัยรุ่นทั้งสี่
"พลอย พี่กาย"
"ภูมิ นี่ไงไอ้พวกเดนสังคมที่ทำร้ายบาส"
ภูมิบุญสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ ปราดตามองทุกคนเรียงตัว เด็กคนที่ภูมิบุญมีเรื่องด้วยมองไม่วางตาเช่นกัน
"ใครเป็นคนทำ"
ภูมิบุญพูดขึ้นเสียงแข็ง
"เอ่อ น้องครับ น้องเขาสารภาพแล้วนะครับ ทางตำรวจแค่อยากให้มาดูตัวเฉยๆ"
"ผมทราบครับคุณตำรวจ ผมแค่อยากรู้ว่าใครทำ"
ภูมิบุญยังเสียงแข็งอยู่จ้องมองไม่วางตา
"ทำแบบนั้นทำไมครับ พี่เป็นคนมีเรื่องกับเรา ทำไมไม่มาทำที่พี่ ไปลงกับน้องเขาได้ยังไง"
"ภูมิ ใจเย็นๆนะ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เขาจัดการ"
กายเริ่มเห็นรังสีดำออกจากตาของภูมิบุญ
"กูนี่ล่ะทำ น่าจะเอาให้ตาย"
"ผลั่ก"
"เฮ้ย น้องพอๆ"
คนที่เคยมีเรื่องกันพูดออกมา ทันทีที่เขาเปล่งเสียงออกมาภูมิบุญก็ง้างเท้าถีบเข้าไปที่กลางใบหน้าของเขาหงายหลังตกเก้าอี้ไป เสียงน้องผู้หญิงกรี๊ดขึ้นทันที
"สัตว์ มึงเป็นคนอยู่ไหม อยากมีเรื่องมามีกับกูนี่ เก่งจริงแน่จริงไปตีเด็กเหรอ ไอ้สัตว์"
กายที่รั้งตัวภูมิบุญเอาไว้ต้องเพิ่มแรงเป็นพิเศษ โตโต้ขึ้นมาเจอก็เข้ามาดึงอีกอีกแรง
"เชี่ยเอ้ย"
อีกคนเปล่งเสียงออกมา
"ผลั๊วะ"
คราวนี้เป็นพลอยที่เอากระเป๋าถือใบใหญ่ฟาดไปที่หน้าของคนที่พูด
"ยังจะปากดี พ่อแม่ไม่มีเหรอถึงไม่สั่งไม่สอน เลวระยำ"
"พลอย"
กายวางมือจากภูมิบุญปรี่เข้าไปดึงตัวพลอยออกมา พลอยทั้งถีบทั้งเตะ ตำรวจทั้งโรงพักต้องเข้ามาระงับเหตุการณ์
"ผมไม่ยอม พวกนี้ไม่ใช่เยาวชนแล้วใช่ไหมครับคุณตำรวจ"
ภูมิบุญยังร้องออกมา
"ใจเย็นๆนะครับ ถ้าทำแบบนี้พี่ไม่ให้เจอแล้วนะ เดี๋ยวพ่อแม่ของเด็กก็มาแล้ว"
"ผมไม่ให้ประกันตัว คุณโตโต้ผมขอปรึกษาคุณอนิรุธได้ไหม ผมไม่ยอม ยังไงก็ไม่ยอม มันไม่ง่ายไปเหรอ พอทำชั่วแล้วจะมาประกันตัว ไม่มีทาง"
"เอ่อ กาย พาน้องออกไประงับอารมณ์ก่อนเถอะว่ะ เดี๋ยวเสียรูปคดีหมด"
กายพยักหน้าแล้วลากพลอยออกมา โตโต้จึงลากภูมิบุญออกมาเช่นกัน
"ไหน ลูก ลูกอีชั้นไม่ผิด ลูกอีชั้นไม่ผิด"
เสียงร้องดังขึ้นมาจากทางขึ้นสถานี ภูมิบุญเม้มปากหนัก โตโต้รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจึงรีบดึงตัวออกไป
"กลับก่อนเถอะภูมิ เดี๋ยวพี่ให้คุณอนิรุธจัดการให้"
"ไม่ยอมนะครับ ยังไงก็ไม่ยอม"
"ครับ พี่เข้าใจพี่เองก็ไม่ยอมหรอกภูมิ แต่เราใจเย็นๆก่อนได้ไหม"
โตโต้พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบภูมิบุญเม้มปากแน่นสูดลมหายใจเข้าปอด น้ำตาคลอออกมา
"ทำไมครับ ทำไม"
"เอาน่าภูมิ ป่ะกลับก่อน"
กว่าจะต้อนให้กลับบ้านได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร รายของพลอยเองก็ไม่ใช่น้อย กายต้องถือวิสาสะกอดตัวเอาไว้เพราะยังไงพลอยก็ไม่ยอม เพราะสิ่งที่เธอเจอมาที่โรงพยาบาลมันบีบใจเหลือเกิน แค่นั้นมันยังไม่สาสม กายเองก็กว่าจะลากตัวพลอยออกมาได้
"ไปเยี่ยมน้องกันดีกว่าไหมภูมิ น้องมันคงอยากมีเพื่อน"
โตโต้พูดขึ้น ภูมิบุญถึงยอมแต่โดยดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น