"คุณกานดาครับ นี่น้องภูมิครับคนดูแลงานของคุณกานดา"
เสียงของหินแนะนำให้รู้จักกับภูมิบุญ หญิงสาววัยรุ่นตอนปลายหน้าตาท่าทางดูดีมีสกุลยิ้มหวาน ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆก็ท่าทางไม่แตกต่างกัน แสดงให้เห็นถึงฐานะของบุคคลทั้งสอง ภูมิบุญยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม
"ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ยังดูเด็กๆอยู่เลยนะคะน้องภูมิ เก่งจังค่ะ"
"ยินดีที่ได้รับใช้เช่นกันครับคุณกานดา คุณประภัส ดูแบบงานแล้วหรือยังครับพอใช้ได้ไหมครับ"
"พี่กานชอบแบบนี้ค่ะน้องภูมิ ดอกกุหลาบสีขาว มีน้ำพุ สวยมากค่ะพี่กานชอบ"
กานดาเปิดสมุดรูปแบบของงานที่ตนชอบให้ภูมิบุญดู
"อ้อ แบบนี้น้องผมเป็นคนคิดเองครับ"
บาสเป็นคนคิดแผนงานนี้ขึ้นมา เพราะหลังจากทราบแก่นของงานว่าตัวคุณกานดาเองชอบดอกไม้สีขาว จึงคิดแบบนี้ออกมา ภูมิบุญยิ้มพอใจ
"จริงเหรอคะน้องภูมิตายจริงเก่งทั้งน้องทั้งพี่เลยนะคะ ส่วนเรื่องอาหารพี่กานอยากได้เป็นอาหารไทยโบราณน่ะค่ะน้องภูมิ สลับกับค็อกเทลจัดเป็นมุมได้ไหมคะ"
ภูมิบุญเอาปากกาขึ้นมาจดอย่างตั้งใจ
"น้องภูมิครับ ท่าทางคุณกานดาชอบน้องภูมิมากเลยนะครับ พี่ว่ายกงานนี้ให้น้องภูมิดูแลไปเต็มตัวดีกว่า เพราะพี่มีอีกงานเป็นงานเปิดตัวสินค้าที่เชียงใหม่ จะได้ลงงานนั้นเต็มตัวไปเลย"
หินพูดขึ้นระหว่างเดินออกมาจากการพบกานดา
"จะดีเหรอครับคุณหิน ไม่ดีกว่าครับ ภูมิอยากช่วย มันเป็นงานของคุณหินอยู่แล้ว ไม่เอาหรอกครับ ภูมิเป็นที่ปรึกษาให้คุณหินดีกว่า"
"โห น้องภูมิพี่คิดว่าจะได้สบายหัวซะหน่อย ไม่เป็นไรครับ แต่งานนี้คุณกานดาเขารีเควสตัวน้องภูมิเลยนะครับ"
"ไปแน่ครับคุณหิน"
ทั้งสองเดินออกมาจากร้านอาหารที่นัดคุยกัน เดินไปขึ้นรถก่อนกลับเข้าบริษัท
"หึหึ เดี๋ยวแกเจอชั้นหน่อยสิไอ้ภูมิ"
มีสายตาอยู่คู่หนึ่งที่เฝ้ามองอยู่ตลอดเวลา พีทก้าวลงจากรถแล้วเดินปรี่เข้าไปข้างในร้าน เขาสืบทราบมาว่ากานดากับภูมิบุญนัดคุยงานกันที่นี่ เขาจึงตามมาสังเกตการณ์
"อ๊ะ คุณกานดาใช่ไหมครับ สวัสดีครับ ผมพีทนะครับ จากเอ็นออร์การ์ไนเซอร์ พีทขอรบกวนเวลาคุณกานดาสักนิดได้ไหมครับ"
พีทถือวิสาสะเข้าไปทักทายโดยที่คนทั้งสองมองหน้ากันอย่างงงๆ พีทนั่งลงต่อหน้าทันที
"ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"อ้อ คือพีทจะมาแสดงความยินดีด้วยกับคุณกานดากับคุณประภัสน่ะครับ พีทเป็นเพื่อนกับน้องภูมิ เห็นน้องภูมิบอกว่าคุณกานดาจะไปจัดงานแต่งที่เขาค้อ ถ้าไม่รบกวนวันงานพีทขอไปช่วยอีกแรงได้ไหมครับ พอดีขอภูมิเขาแล้ว เขาบอกว่าให้มาขอคุณกานดาเอง"
ทั้งสองมองหน้ากัน
"เอ่อ แล้วแต่น้องภูมิสิคะ ไม่เห็นต้องมาขอกานเลย"
"อ้อ ไม่ได้หรอกครับคุณกานดา เพราะงานนี้เป็นงานใหญ่ใครจะเข้าจะออกง่ายๆไม่ดีแน่ๆ จริงไหมครับ แบบงานที่เลือกไว้แบบนี้เหรอครับ ตายจริงสวยมาก"
ถือวิสาสะหยิบแบบงานที่วางอยู่ข้างๆกานดาขึ้นมาดู สายตากวาดมองอย่างรวดเร็ว
"เนี่ยคุณกานดาทราบไหมครับ ว่าน้องภูมิน่ะเก่งมากจัดหลายงานมีแต่คนประทับใจ แต่พีทเองก็จัดงานแต่งนะครับ มีอะไรเราปรึกษากันตลอด อยากเห็นวันงานเร็วๆจังเลยนะครับ"
สายตาไม่ได้ใส่ใจปฏิกริยาของคนทั้งคู่เลย พูดในสิ่งที่ตนอยากพูด เข้าประเด็น พอไม่มีอะไรจะพูดต่อก็ขอตัวเดินหนีออกมาทันที
"เราจะได้เห็นกัน คิดแบบงานเก๋ดีนี่"
สายตาฉายออกมาแล้วแสยะยิ้มออกมา
"บาสเก่งมาก เจ้าของงานเขาชอบแบบที่บาสเลือกมากนะ เสร็จงานนี้พี่จะเพิ่มค่าขนมบาสด้วยนะ"
ภูมิบุญพูดขึ้นตอนกลับบ้านเพราะวันนี้บาสจะไปค้างที่บ้าน
"จริงเหรอพี่ โห ดีใจจังอ่ะ"
บาสร้องขึ้นสีหน้าท่าทางดูดีใจ
"เก่งมากบาส รีบเรียนให้จบนะจะได้ออกมาช่วยพี่ภูมิ"
โตโต้เสริมเอี้ยวคอมายิ้มให้
"ครับเฮีย ผมจะตั้งใจเรียน ดีใจจังเลย"
"ยังมีแบบที่คิดไว้อีกหลายแบบใช่ไหม พี่จะได้เอาไปเสนอลูกค้าคนอื่น"
"มีเยอะเลยพี่ ผมว่างๆคิดไว้ตลอด เวลาพักกลางวันก็นั่งคิด"
"เรียนก็เรียน ว่างค่อยคิดดิบาส"
เสียงเข้มดุขึ้นมา บาสทำหน้าจ๋อยลง
"พี่โต้อย่าว่าบาสเลยครับ ดีกว่าเอาเวลาว่างไปทำอย่างอื่น เดี๋ยวนี้ทำโฟโต้ช็อปเก่งแล้วนี่ วันก่อนบาสยังมาสอนภูมิเลย"
คนที่นั่งเคียงข้างมาปราม โตโต้จึงเงียบไป บาสเองแอบยิ้มออกมา
"แทน วันนี้ออกไปข้างนอกไหม"
"ไปไหน"
"ไปกินข้าวสิแทน เป็นไงบ้างงานของแทนน่ะ"
พีทถามขึ้นหลังจากวางกระเป๋าลงบนโซฟาเดินไปเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม
"อืมก็ดีนะ ไม่มีอะไรมาก ของพีทล่ะ"
"ก็ดี ไม่น่าเบื่อ มีอะไรสนุกๆให้ทำเยอะ หึหึ"
สายตาจ้องมองไปแล้วแสยะยิ้มออกมาเหมือนเคย ทั้งคู่ตกลงไปทานข้าวเย็นกันที่โรงแรมชื่อดังแถวสุขุมวิท
"กินอาหารอิตาเลียนเนอะแทน ไม่ได้กินมานานแล้ว"
"อืม ได้ๆ"
แทนทวีดูเนือยๆไปเพราะเวลาทำงานก็ทำงานหนัก และความเครียดที่ครอบครัวมอบให้มันก็สุมรุมอยู่ เพราะทางบ้านไม่มีใครคุยกับแทนทวีนอกเรื่อง ไม่ถามสารทุกข์สุกดิบ คุยแค่เรื่องงานสองสามคำ หน้าตาของแทนทวีเศร้าหมองลงมาก พอเดินเข้าไปในร้านอาหารอิตาเลียนก็เลือกที่นั่ง สายตาของพีทเหลือบไปมองเห็นหญิงชายคู่หนึ่ง สะดุดตากับฝ่ายชายที่หน้าตาดูผุดผ่องต้องตาเป็นยิ่งนัก
"เอาตรงนี้ดีกว่าแทน"
เลือกที่นั่งถามออกไปแต่นั่งลงบนเก้าอี้แล้ว แทนทวีเองก็ไม่ได้สังเกตนั่งตาม พีทเลือกที่นั่งที่หันหน้าเข้าหาชายหนุ่ม พอสั่งอาหารระหว่างรอก็ส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มโปรยเสน่ห์ ส่วนฝ่ายนั้นเริ่มรู้ตัวสะกิดบอกแฟนสาว ทั้งสองคุยกับซุบซิบอยู่ ส่วนพีทเองพอเห็นว่าทั้งสองรู้ตัวจึงเปลี่ยนมุมมองไปทำเป็นไม่สนใจ พออาหารมาก็ลงมือทานกัน แต่ต้องหยุดลงเพราะเห็นอีกฝ่ายกำลังลุกไปเข้าห้องน้ำเพราะเห็นว่าเขาถามพนักงานเกี่ยวกับทางไปห้องน้ำ พอพนักงานบอกเสร็จเขาก็เดินออกไป พอพ้นแค่ประตูร้านอาหารพีทก็ลุกขึ้นบ้าง
"ไปห้องน้ำแป๊บนะแทน"
พีทลุกตามไปทันที พอเข้าไปในห้องน้ำก็มองไม่เห็นชายคนนั้นที่โถปัสสาวะ แต่เห็นประตูห้องน้ำปิดอยู่ พีทฉายรอยยิ้มออกมา เขาไปยืนรอที่หน้าห้องน้ำทันที พอเสียงปลดล็อคกลอนประตู
"โอ๊ย ลื่น"
ถลาเข้าไปในห้องน้ำที่ประตูกำลังเปิดออก โผเข้าไปกอดเขาอย่างจงใจ
"เฮ้ย"
"อุ๊ยขอโทษครับ พอดีลื่น"
"เป็นอะไรไหมครับ"
"โอ๊ย เจ็บข้อเท้า"
แสดงละครออกมาน้ำเน่าที่สุด แต่สีหน้าของชายไก่อ่อนนั้นดูจะเชื่อสนิทใจ พีทเกาะแขนเขาแน่นไม่ปล่อยสูดเอากลิ่นกายเข้าปอดเพื่อกระตุ้นฮอร์โมนของตัวเอง จงใจเอาหน้าซุกลงไปกับอกพยายามหายใจทางปากให้ไอร้อนแผ่ไปตรงกลางอกของเขา ชายหนุ่มอึดอัดขึ้นมาทันที
"เดี๋ยวผมไปตามคนมาช่วย"
เขาพูดออกมาน้ำเสียงแสดงความลำบากใจออกมา
"ไม่ อย่าเพิ่งไปช่วยพีทก่อน"
พีทเบียดกายเข้าหาเจาะจงเน้นเฉพาะส่วนเขาพยายามเบี่ยงร่างออก แต่พีทก็ลุกไล่ไม่ยอมเช่นกัน
"เอ่อ"
"เจ็บมากดูให้หน่อยได้ไหมครับ"
พีททำท่าครางออกมาใบหน้าเหยเก เขาลังเล
"ตรงไหนครับ"
"ตรงนี้"
ท่าที่ยืนอยู่ตอนนี้คืพีทกำลังเกาะแขนของเขาอยู่หน้าไม่ห่างจากอกเท่าไรนัก เอวก็เบียดอยู่กับส่วนสำคัญของเขาพอเขาถามขึ้นพีทก็ชี้ลงไปที่ข้อเท้า โดยวิธีที่ชี้คือเบียดมือลงไปข้างตัวเอาหน้าโน้มเข้าไปหาเขาประชิดกว่าเดิม มือที่สอดลงมาจงใจให้มันโดนส่วนนั้นเขาสะดุ้งถอยหลังไปนิ้วมือของพีทก็เกี่ยวไปโดนซิปรูดลงทันที
"เฮ้ยคุณ"
เขาผลักตัวของพีทออกทันทีหน้าตาเหวอหวาดกลัว
"ช่วยไหมครับ มันตื่นแล้วนะ"
พูดออกมาทำสายตายั่วยวน
"ไอ้บ้า โรคจิตป่าววะ"
เดินเดินออกจากห้องน้ำทันที
"ควายเอ้ย สวรรค์อยู่แค่เอื้อม โง่จัง"
พีทสบถออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ
"คุณ เพื่อนคุณน่ะเลวมากเลยนะ ล่วงเกินผมในห้องน้ำ โรคจิตหรือเปล่า"
ชายหนุ่มโวยวายขึ้นทันทีต่อหน้าแทนทวี ด้วยความโมโหและตกใจทำให้เขาไม่สามารถระงับสติได้
"อะไรกันคุณ ใครเขาไปทำอะไรคุณ"
แทนเองก็หน้าตาตื่นเพราะอยู่ดีๆก็มีคนมาชี้หน้าว่าอยู่
"ก็คนที่มากับคุณน่ะ เขาจะทำไม่ดีกับผมในห้องน้ำ"
"อะไรกันครับ แทน มีอะไรเหรอ"
เดินเข้ามาสีหน้าสีตาไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย
"ไอ้โรคจิต เมื่อกี๊แกจะล่วงเกินกูอยู่เลย"
"อะไรกัน บ้าเหรอคุณ คุณมีหลักฐานอะไรมาว่าผมแบบนี้ ผมฟ้องหมิ่นประมาทคุณได้นะ ผมเป็นใครมีหน้ามีตาขนาดนี้ ผมจะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง"
"ตอแหล เมื่อกี๊แกมาจับของกูอยู่เลย บอกว่าจะอมให้"
"ตายแล้ว แทนอย่าไปฟังเค้านะ อะไรกันน่าเกลียด ใครจะไปทำแบบนั้น สกปรก"
เอามือทาบอกทำสีหน้าตกใจปรี่เข้าไปเกาะแขนแทนทวีที่ลุกขึ้นยืนแล้ว
"มีอะไรกันครับ กรุณาอย่ามีเรื่องกันที่นี่นะครับ ผมขอร้อง"
ผู้จัดการร้านเดินปรี่เข้ามาห้าม ชายหนุ่มคนนั้นถึงหยุดมองหน้าพีทอย่างเคียดแค้น
"พวกสัตว์ประหลาด วิปริตผิดเพศอยู่แล้ว ยังมีหน้ามาทำแบบนี้อีก"
เขาพูดออกมาก่อนจะจูงมือแฟนสาวเดินออกจากร้านไป
"เดี๋ยว เมื่อกี๊ว่าใครเป็นสัตว์ประหลาดนะ"
"พีทไม่เอาอายคนเขา ไปกลับเถอะ"
เม้มปากแน่นยอมเชื่อฟังแทนทวีแต่โดยดี เพราะต่อนหน้าแฟนหนุ่มเขาคือคนที่น่ารักเท่านั้น
"แทนเดี๋ยวแทนไปสั่งกลับบ้านให้หน่อยสิ พีทยังไม่ได้กินเลยอ่ะ อะไรกันอารมณ์เสียแท้ๆ คนเรานี่ก็แปลก ไม่อยากจ่ายค่าอาหารแพงๆ ไม่มีปัญญาแล้วมากุเรื่องขึ้น เข้าใจทำเนอะ"
พีทพูดออกมาแทนทวีเริ่มลังเลใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แทนทวีเดินกลับเข้าไปในร้าน พีทรีบปรี่ไปที่ลานจอดรถทันที สอดส่องสายตาหาคู่กรณี พอเห็นเขากำลังจะก้าวขึ้นรถก็วิ่งเข้าไปหา
"เดี๋ยว ไอ้สัตว์ เมื่อกี้มึงด่ากูเหรอ"
ถีบเข้าที่เอวของเขาอัดเข้ากับประตูรถ
"โอ๊ย!!! กรี๊ด!!!! ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย"
"มึงอย่าร้องนะอีชะนี มึงอยากให้ผัวมึงตายเหรอ"
เกรี้ยวกราดขึ้นมือจิกผมของเขาขึ้นคร่อมร่างเอาไว้จับหัวโขกกับพื้นอย่างแรง เลือดไหลออกมา
"กรี๊ดด ช่วยด้วย"
"อีนี่ พูดไม่ฟังใช่ไหม"
พอชายหนุ่มสิ้นแรงพีทก็ปรี่เข้าไปหาหญิงสาวที่กำลังขวัญเสียอยู่ กระชากแขนเข้ามาหาตัวฟาดมือลงไปที่หน้าทันที
"กล้าทำให้กูอายเหรอ พวกแกต้องอายกว่าร้อยเท่า นี่แน่ะ"
"กรี๊ดดด"
"หยุดนะ คุณทำอะไร"
ยามรักษาการประจำชั้นวิ่งกรูกันเข้ามาสองคนจับตัวของพีทเอาไว้
"ปล่อยกูนะ ปล่อย"
เรื่องไปจบลงที่สถานีตำรวจ ทางฝ่ายเสียหายไม่ยอมความ แต่ด้วยบารมีของมารดาของพีท เขาลอยหน้าลอยตาอยู่ไม่ได้สนใจอะไร
"พีท ทำไมพีททำแบบนี้"
แทนทวีถามขึ้นสายตาขุ่นมัวเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของแฟนหนุ่ม
"แทน ก็พีทเดินไปรอแทนที่รถ มันก็เข้ามาด่าว่าพีทอีก พีททนไม่ไหวน่ะ อะไรกันพีทไม่ได้ไปหาเรื่องเขาก่อนนะแทน อยู่ดีๆมาว่าพีทเป็นโรคจิต พีทไม่เอาเรื่องก็ดีถมไปแล้ว แล้วนี่อะไรยังมาว่าพีทอีก พีทไม่ยอมนะแทน"
ร้องไห้กระซิกออกมาจับมือแทนทวีไว้แน่น ส่งสายตาวิงวอนขอความเห็นใจ
"โกหก ตอแหล"
"พอๆ อย่ามาทะเลาะกันบนโรงพัก"
ร้อยเวรหนุ่มปรามขึ้น พีทเอามือขึ้นปาดน้ำตาที่สั่งได้ออกแล้วนั่งกอดอกเชิดหน้าไม่สนใจ
"ยังไงผมก็ไม่ยอมนะครับคุณตำรวจแบบนี้มันทำร้ายร่างกายกัน ชัดๆ"
"ฮึ ตามสบาย"
"ไอ้ชั่ว"
เขาปรี่จะลุกขึ้นโผเข้าหา
"คุณ หยุดนะ นี่มันโรงพักนะ ถ้ายังไม่หยุดผมจะขังทั้งสองคนนั่นล่ะ"
"ขังรวมกันสองคนได้ไหมครับคุณตำรวจ"
ยังเอ่ยขึ้นน้ำเสียงไม่ไดกังวลแต่อย่างใด แต่สายตากลับหันไปยิ้มเยาะแสยะปากใส่อยู่
"ไอ้"
ชายหนุ่มกราดเกรี้ยวแต่ร้อยเวรส่งสายตาสยบจึงยอมเงียบ พอมารดาของพีทมาถึงก็ตกลงกับทางผู้ปกครองของอีกฝ่าย ตอนแรกจะไม่ยอมความแต่เสนอเงินไปก้อนใหญ่ทั้งสองจึงยอมความ
"ทำไมดีแต่ก่อเรื่อง"
"แม่ ก็มันมาว่าพีท"
"โอ๊ย ขยันจริงจริ๊งเรื่องก่อเรื่องเนี่ย ไปกลับบ้าน"
"แม่กลับไปก่อนเถอะ พีทจะคุยกับตำรวจก่อน"
"มีอะไรให้คุย"
"แม่ กลับไปก่อนเถอะ พีทขอโทษ"
ยังยืนยันคำเดิมกอดอกหันหลังให้มารดา
"แทน พีทฝากไปส่งแม่ให้หน่อย พีทขอปรึกษากับคุณตำรวจก่อนเดี๋ยวเรากลับ"
"ทำไมไม่กลับพร้อมกัน"
"แทนกลับไปก่อน พีทมีเหตุผลของพีท เดี๋ยวค่อยคุยกัน"
พีทไม่สบตา แทนทวีมองอยู่ด้วยสายตาที่ครุ่นคิด ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปกับมารดาของพีท ที่ยังไม่ไปเพราะเห็นนายตำรวจหนุ่มที่เพิ่งมาเปลี่ยนเวร หน้าตาถูกใจยิ่งนัก
"คุณตำรวจครับ ช่วยขังผมที่นี่สักคืนได้ไหม"
ทำให้ตำรวจถึงกับอ้าปากค้าง
"เป็นบ้าเหรอคุณ ใครเขาอยากนอนในคุกบ้าง คุณเป็นบ้าหรือเปล่า"
"คือ ฮึกๆ พีทเป็นคนไม่ดี ทำให้แม่เสียใจ พีทอยากดัดนิสัยของตัวเอง น่ะครับ ได้โปรดเถอะครับคุณตรวจ ให้พีทได้รับรู้ถึงรสชาติของความอัปยศอดสู แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ยังดี"
ร้องไห้ออกมาคร่ำครวญ ตำรวจเองก็ตกใจ
"ไม่ได้หรอกคุณ คดีมันยอมความกันไปแล้ว เราไม่มีสิทธิ์กักขังประชาชนหรอกครับ"
"แม้ประชาชนจะเรียกร้องเองเหรอครับ"
"ใช่ คุณกลับบ้านไปเถอะ"
ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ใส่จริตความเจ็บปวดออกมาแต่ตำรวจก็ไม่ได้ใจอ่อน พีทครุ่นคิดอยู่ก่อนจะลุกขึ้นช้าๆก่อนจะฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ เดินเซทำท่าล้มไปเกี่ยวเครื่องพิมพ์ดีดของเจ้าหน้าที่ให้ร่วงลงจากโต๊ะ พอเครื่องหล่นอยู่ที่พื้นก็ใช้เท้าเตะให้กระแทกกับผนังห้องเครื่องพิมพ์ดีดกระจายแยกออกเป็นส่วนๆ
"คุณ"
ตำราวจร้องคุณไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเห็น
"งั้นคุณตำรวจก็ขังผมได้แล้วสินะ เพราะทำลายทรัพย์สินของทางราชการ"
ลอยหน้าลอยตาพูด ตำรวจนายนั้นได้แต่กัดฟันแน่นเดินปรี่ออกไปหานายตำรวจคนที่พีทหมายตาเอาไว้ก่อนจะปรึกษากันอยู่ สรุปอยากนอนในกรงตำรวจก็ไม่ขัดความต้องการแต่อย่างใด แต่พีทขอร้องให้แยกขังเพราะไม่อยากอยู่ร่วมกับผู้ต้องหาคนอื่น ทางตำรวจขี้เกียจรำคาญจึงแยกขัง ไม่ได้ทุกข์ไม่ได้ร้อนใจแต่อย่างใดยิ้มกริ่มคิดแผนเอาไว้ในใจ
"พี่ว่าบาสคิดแบบอื่นไว้เยอะๆก็ดีนะ สถานที่เรามันจำกัดพี่กลัวว่าแบบมันจะซ้ำกัน"
ภูมิบุญนั่งคุยอยู่กับบาสและโตโต้ที่ห้องรับแขก กางแผนงานออกมาดู บาสเองวาดแผนงานไว้หลายแบบ
"ไม่หรอกพี่ภูมิ ผมว่ามันท้าทายดีออก ยิ่งสถานที่เราจำกัด มันยิ่งโชว์กึ๋นเรานะว่าแน่แค่ไหน เรื่องแบบซ้ำกันไม่มีทางหรอกพี่ ผมศึกษามาดี"
บาสหัวเราะชอบใจ ภูมิบุญยิ้มออกมา โตโต้เองก็จ้องมองหน้าของภูมิบุญอยู่
"งั้นเดี๋ยวใกล้ๆวันงานพี่จะให้บาสขึ้นไปเขาค้อกับพี่ ขาดโรงเรียนบ่อยไปไหมเรา"
"โอ๊ยไม่เลยพี่ อาทิตย์หน้าใช่ไหม ได้ครับเพราะอาทิตย์นี้สอบ อาทิตย์หน้าน่าจะปิดเทอมพอดี ไม่มีปัญหา ผมจะได้รับงานเต็มตัวเสียที"
"แหม พ่อนักธุรกิจใหญ่ สอบให้ผ่านก่อนเถอะ"
ภูมิบุญหัวเราะออกมา ทั้งสามหัวเราะอย่างมีความสุขก่อนที่จะแยกย้ายกันไปนอน โดยบาสนอนที่ห้องของภูมิบุญเช่นเคย
"คุณตำรวจครับ พีทหิวน้ำ"
พอเห็นสบโอกาสจึงครางขึ้น ดึกมากแล้วมีเพียงเสียงวิทยุที่ตำรวจร้อยเวรหนุ่มเปิดคลออยู่ นายตำรวจนายนี้น่าจะเพิ่งจบมาเพราะหน้ายังอ่อนๆอยู่
"ครับ"
เขาก็ใจดีเดินไปกดน้ำมาให้พีท พอเขายื่นแก้วน้ำให้ พีทก็จับมือของตำรวจทันที
"มือนิ่มจังครับ อุ๊ยน้ำหกใส่"
จริตจะก้านนี่ไม่ต้องห่วง ไม่เคยอาย เพราะคิดเสมอว่าอายก็ไม่ได้สิ่งที่หมาย พอน้ำหกใส่มือตำรวจเขาจะชักมือออกแต่พีทกลับดึงเอาไว้ ก้มลงอ้าปากดูดนิ้วนั้นทันที
"คุณ"
พีทเอาลิ้นวนรอบๆนิ้วดุนๆอยู่ สายตาก็ส่งประกายยั่วยวน นายตำรวจชักมืออกอย่างรวดเร็ว
"อย่ามาทำอะไรแบบนี้บนโรงพัก เดี๋ยวคุณจะโดนข้อหาไม่น้อยนะ"
"ก็เห็นมือเลอะ พีทก็อยากจะเช็ดให้ ที่คุณตำรวจพูด ทำที่นี่ไม่ได้ ถ้าที่อื่นได้เหรอครับ"
"คุณ"
นายตำรวจหน้าแดงขึ้นมาทันที เดินหันหน้าหนีไป
"โอ๊ย"
พีทแกล้งร้องขึ้นอีกเสียงดังพอสมควรพอที่จะทำให้ตำรวจหันกลับมาอีกครั้ง
"เป็นอะไรคุณ"
"เจ็บขาครับคุณตำรวจ อ่า ขาแพลงแน่เลย"
แต่ท่าที่ทำอยู่นั้นมันไม่น่าจะเรียกว่าเจ็บขา เพราะพีทเอาร่องก้นมาสีอยู่ที่ลูกกรงหันหน้ามาทำสายตายั่วยวน ส่ายก้นไปมา นายตำรวจถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก สมเพชเวทนาคนที่ทำอาการแบบนี้อยู่เบื้องหน้า
"คุณตำรวจช่วยดูหน่อยสิครับ โอ๊ยเจ็บ"
ยื่นขาออกไปนอกลูกกรง ตำรวจยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะก้มลงดูอย่างระมัดระวัง พอเขาก้มลงแค่นั้นพีทก็ทำท่ายั่วยวนส่งสายตาหวานฉ่ำ
"พีทช่วยไหมครับคุณตำรวจ"
"โรคจิต"
นายตำรวจคนนั้นเงยหน้าขึ้นแล้วเดินหนีไปทันที สรุปแล้วต้องนอนในกรงขังฟรีก่อนจะโทรเรียกมารดามาประกันตัวอีกรอบในตอนเช้า
"ทำอะไรรู้จักคิดซะบ้าง อะไรกันก่อเรื่องวันเดียวเยอะแยะแม่เสียเงินไปหลายแสนเรานี่ไม่ไหวนะพีท"
"อย่าบ่นไปหน่อยเลยแม่ ใครจะอยากให้มันเป็นแบบนี้ เอาเถอะเดี๋ยวพีทจะหาคืนให้"
"อายเขาไหม รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น โว้ยกลุ้มใจ"
มารดาของพีทร้องออกมาน้ำเสียงเอือมระอา
"อายทำไมแม่ พีทไม่แคร์ จะแรงแบบนี้ล่ะใครจะทำไม"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น