เปรียบหนึ่งบุษบกลอยคอในวารี ชลธีไหลผ่านมาม่านน้ำใส
เหล่ามัจฉาแลนกกาคอยตอดใย กลีบร่วงใบเน่าเหม็นก็โรยรา
เปรียบสองดังโคถึกที่ก้มหัว เห็นแต่ตัวแลเงาไม่รู้ค่า
หลักตรงไหนวนรอบเห็นเท่าตา แพรกพฤกษายังหน่ายเจ้าควายเอย
เปรียบสามดังวานรที่ได้แก้ว ถึงเพริศแพร้วระยับค่าไม่ชื่นเฉย
ขว้างปาไปในป่าเมินเสียเลย เพราะไม่เคยเห็นค่าของแก้วนิล
เปรียบสี่ดังมนุษย์ผู้ขลาดเขลา เอาตัวเราเป็นที่ตั้งใฝ่ถวิล
หาของรักคว้าตามใจมุ่งลงดิน ไร้แล้วสิ้นปัญญาจะครองตัว
"ภูมิให้พี่ปล่อยเลยไหม พี่ว่าน่าจะปล่อยได้แล้วนะ จะกระทืบก็กระทืบให้มันจมดิน"
ทันเองโทรศัพท์กลับมาหาภูมิบุญหลังจากที่ขับรถหนีพีทมา
"พี่ทันส่งให้ภูมิหน่อยได้ไหมครับ อยากให้ใครสักคนได้ดู"
ภูมิบุญแสยะยิ้มออกมา
"ไม่ได้อยากทำแบบนี้นะครับพี่ทัน บอกแล้วอย่าบังคับภูมิ"
พอได้รับข้อความเป็นรูปแบบวีดีโอจากทัน ภูมิบุญก็เปิดดู เบะปากกับสิ่งที่เห็นดูไม่จบ ทำใจไม่ได้ แค่อยากเห็นว่าหน้าของคนๆนั้นมันชัดเจนอยู่หรือไม่ ทันเองถ่ายวีดีโอได้ดีเสียจริง ภาพซูมเน้นหน้าตาของอีกฝ่ายมันชัดเจนยิ่งนัก ภูมิบุญถ่ายข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ทันที แต่ยังไม่ได้ทำอะไรเก็บไว้เป็นไม้เด็ด
"ภูมิ ออกมาเจอพี่หน่อยสิ พี่อยากจะคุยด้วย"
พอไปที่ทำงานแทนทวีก็โทรศัพท์เข้ามาหาภูมิบุญแต่เช้า
"ครับ มีอะไรหรอครับพี่แทน"
"เรื่องเมื่อคืนน่ะภูมิ พี่อยากจะเคลียร์ให้มันรู้เรื่อง"
"เรื่องอะไรครับ เคลียร์ไปแล้วนี่ครับ"
"มันไม่จบนะภูมิ ภูมิทำเกินไปนะ ลงมาคุยกับพี่ พี่รออยู่ที่ร้านกาแฟข้างบริษัท"
วางสายไปแล้ว ภูมิบุญใจเต้นระทึก ไม่ใช่กลัวแต่เหมือนโดนสะกิดต่อมในใจอีกครา โตโต้เดินปรี่เข้ามาหา
"มันอยู่ข้างล่างใช่ไหม"
เสียงดังที่ลอดออกมาจากโทรศัพท์ดังพอที่จะให้โตโต้ไม่ต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้น ภูมิบุญพยักหน้า
"ไป ลงไปคุยกับมัน"
"เดี๋ยวภูมิไปเองดีกว่าครับ เขาคงอยากคุยกับภูมิ"
"ไม่ได้ ไม่ต้องห้าม มันไม่มีเวลาสองต่อสองกับภูมิอีกแล้ว"
เสียงดุห้วนลากแขนภูมิบุญออกจากห้องไป
"มีอะไรภูมิ"
"พลอยดูออฟฟิศด้วย เดี๋ยวลงไปข้างล่าง"
โตโต้สั่ง ภูมิบุญหันไปมองหน้าพลอยแล้วยักคิ้วให้ส่งสัญญาณ
"บอสคะ ให้พลอยไปด้วยได้ไหมคะ"
"อย่าเลยพลอย อยู่นี่ล่ะ"
ในใจของพลอยเต้น เรื่องเมื่อคืนก็พลาดไปไม่อยากจะพลาดวันนี้อีก เพราะหลังจากที่ภูมิบุญเล่าให้ฟังพลอยเองก็เดือดบอกว่าทำน้อยไป น่าจะเอาให้หนักกว่านี้อีก โตโต้เดินนำหน้าภูมิบุญลงไป สีหน้าไม่เอาใครเลย ใครเห็นก็ต้องหลบ
"หึ มาคนเดียวไม่ได้เหรอภูมิกลัวพี่จะทำอะไร พี่ไม่เหมือนเรานะ"
พอเห็นทั้งคู่เดินเข้ามาในร้านก็แขวะทันที
"แล้วพี่แทนทำไมไม่มาคนเดียวล่ะครับ หรือคนที่นั่งข้างๆไม่ใช่คน"
ภูมิบุญแสยะยิ้มให้แทนทวี
"แทนดูสิ คำขอโทษสักคำยังไม่มี ยังมาปากดีอีก ร้ายกาจที่สุด"
"มึงจะเอายังไงไอ้แทน"
เสียงเข้มดุกว่าใครดังขึ้นสายตาที่มองเหมือนกำลังจะกลืนกินร่างของทั้งสองลงคอไป
"ก็ไม่เอาไง เรื่องระหว่างภูมิกับกู มึงไม่เกี่ยว"
"ไอ้"
"พี่โต้ อย่าครับ เราไม่จำเป็นต้องไปแลกกับเขา ภูมิคุยเอง"
ภูมิบุญปรามไว้แล้วนั่งลงข้างหน้าของทั้งสอง โตโต้นั่งลงแต่ลากเก้าอี้ออกไปห่างๆเพราะกลัวว่าจะอดใจไม่ไหว
"ภูมิทำเกินไปนะ เห็นไหมว่าพีทเขาเจ็บแค่ไหน ทำไมถึงลงไม้ลงมือกันขนาดนี้"
แทนทวีเปิดฉาก สายตาดูหมิ่นเหยียดหยาม ไม่น่าเชื่อว่ามันออกมาจากตาคู่เดียวกันกับคู่ที่เคยฉายแสดงความรักออกมา
"แล้วเขาเล่าอะไรให้พี่แทนฟังบ้างล่ะครับ"
"ทุกอย่าง ภูมิไม่ต้องมานอกเรื่อง นี่มันอะไรกันทำไมเป็นคนก้าวร้าวแบบนี้ พี่มองคนผิดไปจริงๆ"
มองคนผิด พูดออกมาได้ยังไง นี่เขากำลังตำหนิภูมิบุญอยู่ เม้มปากแน่นพยายามระบายลมหายใจร้อนออกมา
"เหรอครับ ถ้าบอกทุกอย่างแล้ว พี่ยังหูหนวกตาบอดเทิดทูนเขาอยู่อีกเหรอพี่แทน พี่เอาอะไรทำหัวใจ ที่เลิกกับภูมิน่ะ เสียใจนะแต่ไม่เสียใจเท่าที่ภูมิรู้ว่าเคยคบกับควาย"
"ภูมิ"
แทนทวีตบโต๊ะเสียงดัง โตโต้ลุกขึ้นยืนขวางเอาไว้ สายตาทั้งสี่คู่มองหน้ากันอย่างไม่ยอมยี่หระ พนักงานในร้านไม่กล้าทำอะไรเพราะรู้จักดีว่าใครกำลังมีเรื่องอยู่ได้แต่ถอยห่างออกไป
"เอาเถอะ จะยังไงก็ตาม พี่ก็เสียใจเหมือนกันที่เคยคบกับภูมิ"
แทนทวีพูดออกมา มันเสียดใจจังเลย ทำไมมันแทงใจมากมายขนาดนี้
"ครับ แล้วพี่จะเอาอะไรล่ะครับวันนี้ หรืออยากให้ภูมิซ้ำอีกรอบนึงเหรอถึงจะยอมจบ"
"แทน ดูน้องภูมิสิ ใจร้ายที่สุด"
"หุบปากไปเถอะ ตอแหลได้กับเขาคนเดียวนั่นล่ะ คนอื่นคิดว่าเขาจะโง่เหมือน"
"ภูมิ มันจะมากไปแล้วนะ"
ลุกขึ้นจะกระชากคอภูมิบุญแต่โตโต้ตบโต๊ะก่อน
"มึงจะทำอะไร"
"ที่แฟนพี่เล่า เขาเล่าหรือเปล่าล่ะครับว่าภูมิทำไมถึงทำ พี่น่าจะรู้จักภูมิดี แต่คงไม่หรอก เขาบอกไหมว่าเขาไปขโมยตีมงานของบริษัทภูมิมา"
"ไม่จริงนะแทน ตีมงานพีทคิดขึ้นเอง พีทจบจากนอกนะ มีความจำเป็นด้วยเหรอที่ต้องไปแย่งงานกับคนที่ไม่มีหัวคิดแบบนี้"
แทนทวีมองหน้าภูมิบุญจ้องอยู่ไม่วางตา ภูมิบุญเองก็จ้องอยู่
"เหรอ เอาเถอะคิดยังไงไปคุยกันที่ศาลก็แล้วกันเพราะของเราจดลิขสิทธิ์ทางปัญญาเอาไว้ เตรียมหลักฐานให้เหมือนกับที่เรามีล่ะ"
พูดขึ้นเสียงเรียบ หน้าของพีทซีดเผือดลง
"แล้วบอกพี่ไหมว่าเขาไปกับใคร เมื่อคืนน่ะ"
"เพื่อนไงแทน พีทไปกับเพื่อน"
รีบลนลานออกตัว
"เหรอ เพื่อนเหรอ หึหึ"
"แทนกลับเถอะ น้องภูมิพูดไม่รู้เรื่องหรอก"
"ไม่ได้นะพีท ยังไงภูมิก็ต้องรับผิดชอบ"
แทนทวีแย้งไม่ยอมไป
"แทน พีทไม่เป็นไร พีทไม่เอาความกับน้องภูมิ พีทเข้าใจหัวอกคนที่โดนแย่งแฟนไปว่ามันเป็นยังไง"
ร้องไห้ออกมา แต่มันไม่ได้น่าเวทนาแต่อย่างใด คนที่เห็นยิ่งอยากจะเข้าไปตบซ้ำ
"มีอะไรปักหลังอยู่เหรอคุณ เอาตัวให้รอดนะ"
ภูมิบุญขู่ตามหลังเพราะพีทลากแขนของแทนทวีออกไปแล้ว
"ทำไมไม่บอกมันไปเลยภูมิ มันจะได้หายกินหญ้าเสียที"
"พี่โต้ครับ มันง่ายไป เจ็บแค่นี้มันไม่พอหรอกครับ สำหรับคนอย่างพี่แทนกับมัน"
พูดออกมาเสียงเครียด โตโต้ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี รีบเข้ามากุมมือไว้
"ภูมิ อย่าให้มันทำร้ายตัวภูมิเองนะ"
"ไม่แล้วล่ะครับพี่โต้ ภูมิพอแล้ว แค่อยากให้เขารู้แค่นั้นเอง ว่าตอนที่เจ็บ มันเจ็บจริงๆนะ คนเราบางคนแค่บอกว่าเราเจ็บเขาไม่เข้าใจหรอกครับ เขาต้องได้รับรู้เองเขาถึงจะรู้สึก"
โตโต้ได้แต่ถอนหายใจออกมา คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าไม่ได้มีมิติเดียว ครั้นดีก็ดีจนใจหาย ครั้นร้ายก็ร้ายจนน่ากลัว แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมีที่มาที่ไป พอหวนคิดย้อนพิจารณาให้ดีแล้ว หึหึ สมควรแล้วล่ะไอ้แทน โตโต้ยิ้มออกมา จูงมือของภูมิบุญขึ้นออฟฟิศไป
ตอนบ่ายก็นั่งรถไปเขาค้อกับโตโต้มีบาสติดรถไปด้วย ส่วนพลอยจะตามไปทีหลังโดยมีกายไปส่ง พอไปถึงเขาค้อกลางดึกก็ลงมือทำงานกันเลยมีหินกับต้นเตรียมงานรออยู่แล้ว งานเสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี แบบงานที่วาดขึ้นใหม่บรรจงรังสรรค์สร้างขึ้นมาใหม่อย่างวิจิตร โต๊ะไม้กลมหนาก็ให้ชั่งต่อขึ้นมาอีกชั้นเอากระจกหนาเป็นหน้าโต๊ะ ส่วนพื้นที่ว่างที่มองเห็นมีกระไม้ทรงกลมความสูงของขอบเตี้ยๆเพื่อที่จะเอาใส่โอเอซิสสำหรับปักดอกไม้ โต๊ะทำขึ้นใหม่เกือบร้อยกว่าตัว ช่างเองก็เกณฑ์ช่างจากด้านนอกมาช่วยแล้วคุมงานอีกทีหนึ่ง ทำงานกันหามรุ่งหามค่ำแบ่งออกเป็นสองกะ เพราะภูมิบุญประกาศแล้วว่าจะให้ค่าตอบแทนพิเศษสำหรับช่างกับแม่บ้านที่อยู่ทำงานอาทิตย์นี้ ทุกคนจึงเต็มใจออกแรงกายแรงใจช่วยเต็มที่ เก้าอี้ก็เอาผ้าไหมหยาบๆสีขาวปักดิ้นสีส้มโอรสทำมือทั้งหมด แม้จะมีเวลาไม่มากแต่คนที่ช่วยก็ทำกันอย่างแข็งขัน เอามาทำเป็นที่คลุมทั้งเก้าอี้ให้รับกับดอกไม้ที่จะใส่ประดับที่โต๊ะ เก้าอี้แต่ละตัวถูกประดับด้วยดอกพุดสีขาวร้อยกรองเป็นสายรวบไปข้างหลังทำอุบะระย้าลงมาสวยงามนัก ตามขาโต๊ะก็ประดับประดาไปด้วยเถากุหลาบที่ทำขึ้นสีขาวสีส้มโอรสสลับกันอยู่ บริเวณภายในงานก็ตกแต่งด้วยกุหลาบขาวแซมกับกุหลาบสีส้มอมชมพูที่ต้องสั่งมาจากเชียงใหม่ทั้งหมดและกวาดมาจากปากคลองตลาดอีกที่ น้ำพุยังคงไว้เช่นเดิมแต่ได้ทำเหล็กเป็นกรงเหมือนกรงนกขนาดใหญ่ล้อมเอาไว้ ประดับประดาไปด้วยไฟที่สาดขึ้น ตามกรงนั้นก็ประดับไปเถาด้วยกุหลาบมีขาวกับสีโอรสเกี่ยวพันเลื้อยกันขึ้นไป พอเปิดน้ำพุที่พุ่งขึ้นเพียงแต่เบาๆ เหมือนสวรรค์ใจกลางงาน ตามต้นไม้ห้อยโคมกระดาษสาที่เขียนชื่อของทั้งสองติดอยู่ แสงไฟสีส้มที่ส่องผ่านกระดาษสีลอดออกมาวามวับระยับไปทั่วบริเวณงาน บนเวทีก็ทำเป็นโครงไม้ไผ่สานเป็นมิติ ฉากหลังก็ทำเหลื่อมล้ำกัน และทั้งหมดถูกประดับด้วยกุหลาบขาวด้านหนึ่งและกุหลาบสีโอรสอีกด้านหนึ่ง รถบรรทุกที่คราคร่ำเรียงรายกันเข้ามาตอนเช้ามืด คันแล้วคันเล่าเพื่อส่งของจำพวกดอกไม้อุปกรณ์ต่างๆก่อนวันงาน พอของมาส่งก็ออกมาช่วยกันตั้งแต่ยังไม่รุ่งสาง ดอกไม้จุดสำคัญยังไม่ปัก หรือถ้าปักแล้วให้เอาผ้าใบมากางกั้นแดดกั้นลมคอยพรมน้ำให้อยู่ตลอดเวลา
กานดากับประภัสพร้อมทั้งครอบครัวมาถึงตอนบ่ายแก่ๆ พอเห็นงานกานดาเองถึงกับร้องไห้ออกมา
"น้องภูมิ พี่ขอโทษที่เคยว่าน้องภูมิไป พี่ขอบใจมาก ขอบใจจริงๆ สวยมาก"
ร้องไห้ออกมาด้วยความปีติตื้นตัน ภูมิบุญเม้มปากแน่น
"เพราะน้องภูมิคนนี้นะครับคุณกานดา เขาคิดตีมขึ้นมาให้ใหม่ ถ้าไม่ได้บาสภูมิเองคงไม่มีปัญญา"
ภูมิบุญเองก็ดันหลังบาสให้ยกมือไหว้ครอบครัวของกานดา บาสยิ้มแห้งๆเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับเจ้าของงาน
"พี่กานให้เพิ่มอีกสองแสนค่ะน้องภูมิ ถูกใจพี่กานมาก"
กานดาพูดออกมายิ้มทั้งน้ำตา
"อย่าเลยครับคุณกานดา ถือเป็นของขวัญของบริษัทของเรา ที่เคยทำให้เราเกือบเสียคุณกานดาไป"
"อย่าปฏิเสธเลยครับน้องภูมิ พี่พอใจมาก พ่อแม่ก็ชอบใจมาก โดยเฉพาะดอกไม้ที่เก้าอี้นั่น"
พอถึงเวลางานจริงๆ ดอกไม้ที่รับกับแสงโคมไฟ ทางเข้างานเองก็ประดับประดาไปด้วยดอกไม้โคมไฟ ห้อยระย้าอยู่งดงามยิ่งนัก น้ำพุที่เปิดไฟสาดส่องขึ้นช่างเข้าใจปั้นแต่ง โต๊ะที่ปักดอกไม้ที่พื้นชั้นแรกมองเห็นแจ่มชัดจากกระจกหน้าโต๊ะพราวไปด้วยกุหลาบขาวเต็มกระบะแซมด้วยกุหลาบสีส้มเป้นชื่อย่อภาษาอังกฤษของคนทั้งสอง มีแก้วเจียรไนยวางอยู่ตรงกลางสะท้อนแสงระยิบระยับ แขกทุกคนต่างชื่นชมในงานครั้งนี้ บนเวทีเองก็สว่างไสวไปด้วยไฟที่สาดส่อง มวลดอกไม้ก็บานรับแสงนั้น เจ้าสาวร้องไห้ออกมาอีกคราเมื่อถึงเวลาที่ต้องขึ้นกล่าวคำขอบคุณ มารดาของกานดาเองก็ร้องไห้น้ำตาซึมออกมา กินใจยิ่งนักภูมิบุญเดินไปกอดบาสด้วยความรักและแทนคำขอบใจ
"ขอบใจมากบาส พี่ดีใจมาก พี่ดีใจจริงๆ"
สะอึกคำพูดเพราะมันปริ่มไปด้วยน้ำตา บาสเองก็กอดภูมิบุญร้องไห้ออกมา
"บาสมีวันนี้เพราะพี่ภูมิ เพราะพี่ที่ให้โอกาสบาส ขอบคุณครับพี่ภูมิ"
จากเหตุการณ์ที่ติดลบเสียเปรียบพลิกกลับมาเป็นกำชัยได้ เพราะสติที่มีไม่วู่วามตอนมีเหตุ พอกลับมาถึงกรุงเทพฯทั้งสามก็รีบเข้าไปพักเพราะหน้าตาดูอิดโรยไม่ต่างกัน แต่ทว่าคนที่ยืนรออยู่หน้าประตูทางเข้าบ้านทำให้ทุกคนชะงักอยู่
"มันมาทำไมอีก"
โตโต้เปิดประตูรถจะลงไปตวาดไล่หนีไป แต่ภูมิบุญรั้งมือเอาไว้
"อย่าพี่โต้ ดูหน้าเขาสิ คงรู้เรื่องแล้ว"
ชายคนนั้นคือแทนทวี หน้าตาที่ดูอิดโรยอดนอนซูบผอมตาแดงช้ำ ยืนแน่นิ่งมองเข้ามาในรถน้ำตายังไหลออกมาไม่หยุด
ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน แทนทวีได้รับเมล์ประหลาด
"เปิดดูซะไอ้ควาย ถ้าไม่อยากเขายาวถึงดวงพระจันทร์"
ข้อความตัวใหญ่สีแดงสดส่งเข้าเมล์ส่วนตัวของเขา แทนทวีกดลบไปทันที แต่เอะใจเพราะเขาส่งมาอีกรอบ เลยลองเปิดดู มันคือวีดีโอไฟล์ที่แนบมากับเมล์ พอเปิดดูแทนทวีถึงกับสั่นเป็นเจ้าเข้า
"พีท นี่มันอะไร พีททำอะไร"
ไม่ทำงาน ทำไม่ได้ อยู่ไม่ได้ร่างมันสั่นไหว ใจมันเต้นแรงบีบให้เขาต้องปรี่กลับไปที่คอนโด อีกร่างที่เขาโวยวายใส่ยังนอนหลับสบายอารมณ์อยู่บนเตียง
"อะไรอ่ะแทน โวยวายแต่เช้า"
"พีทหลอกแทนใช่ไหม พีททำไมทำแบบนี้ ไหนบอกรักแทน ไหนบอกเราจะแต่งงานกัน แทนอุตส่าห์ขัดใจพ่อแม่นะ พีททำแบบนี้ได้ยังไง"
แทนทวีโวยวายเสียงดังลั่น หน้าตาเหี้ยมเกรียม
"อะไรแทน พีทไม่เข้าใจ แทนพูดเรื่องอะไร"
ยังตีหน้าซื้อไร้เดียงสาอยู่ แทนทวีสุดกลั้น
"แหกตาดูนี่ซะ"
แทนทวีปาแผ่นซีดีที่ที่ถ่ายข้อมูลจากวีดีโอที่ได้รับลงแผ่นซีดีใส่หน้าของพีทอย่างแรง เขาเองยังสั่นอยู่ พีทเริ่มหน้าถอดสี
"ไม่อ่ะ พีทไม่รู้เรื่องพีทจำเป็นต้องดูด้วยเหรอ"
"บอกให้ดู อีแพศยา"
ตวาดออกมาเสียงดังกว่าเดิม ตาถลนนออกจากเบ้า พีทถึงกับสะอึก
"แทน"
พีทเองก็เริ่มที่จะสั่น แต่ก็ต้องเดินเอาแผ่นไปยัดเข้าใส่เครื่องเล่น ทันทีที่เครื่องอ่านแผ่นที่ใส่เข้าไป ภาพที่ฉายออกมาทางจอโทรทัศน์ พีทรีบกดปิดทันที
"ไม่ใช่พีทนะแทน บ้าเหรอ ใครกันทำเรื่องแบบนี้"
"ยังจะมาตอแหล มึงนี่หลอกกูมาตลอดใช่ไหม สัตว์"
ปรี่เข้ากระชากแขนทันที กำปั้นแน่นๆต่อยเข้าที่หน้าของพีท
"โอ๊ย แทน ฟังพีทก่อน แทนอย่า กรี๊ด"
กระหน่ำซัดหมัดใส่หน้าใส่ตัว
"ไม่ใช่พีทนะแทน แทนดูดีๆมันไม่ใช่พีท"
คร่ำครวญร่ำร้องอยู่ แทนทวีเองพอได้สติจึงถอยออกไป คราบเลือดกรังเต็มมือ
"ไหนมึงพิสูจน์ซิว่าไม่ใช่มึง นั่นมันหน้ามึง นั่นมันเสียงมึง แล้วไอ้นั่นมันเป็นใคร ห๊า อีสัตว์ ไอ้นั่นมันเป็นใคร"
"ปิ๊งป่อง"
เสียงกดกริ่งหน้าประตูคอนโดดังขึ้น พีทแทบจะเป็นลมล้มพับลงกับที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น