ก่อนวันงานสองวันภูมิบุญก็ประจำอยู่ที่เขาค้อกับพลอย มีบาสลาโรงเรียนมาช่วยงานด้วย ส่วนโตโต้อยู่จัดการงานที่กรุงเทพฯ สถานที่พร้อมแล้วตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ดอกไม้สดสั่งไว้แล้ว เทียนหอมผ้าพริ้วลมต่างๆถูกเตรียมไว้ไม่มีขาดตกบกพร่อง
"ดอกไม้นี่มาก่อนคืนวันงานทันใช่ไหมภูมิ"
พลอยถามขึ้นหลังจากที่ทำงานมาทั้งวันมานั่งพักอยู่ศาลากลางรีสอร์ทที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ มีบาสนั่งกินน้ำผลไม้ปั่นอยู่ใกล้ๆ
"อืม เราว่าน่าจะทัน ให้พนักงานที่รีสอร์ทเขาช่วย แบบเอาไปให้เขาแล้ว"
ภูมิบุญยังเดินรอบศาลาอยู่คอยหยิบนั่นจับนี่อยู่ ผ้าสีขาวกับสีน้ำตาลทองปลิวไสวต้องลมอยู่ทั่วบริเวณเช่นกัน
"พักบ้างเถอะภูมิ เดี๋ยวค่อยไปลุยต่อ ทำยังกะงานของตัวเองเลยนะ"
"ไม่ได้หรอกพลอย งานแรกนี่เดี๋ยวจะเสียชื่อ"
"แหม ไม่หรอกภูมิแค่เห็นแบบก็เริ่ดแล้ว หาที่ไหนไม่ได้หรอก ซุ้มดอกไม้อีก หวานซะ"
พลอยแซวแล้วยื่นแก้วน้ำสัปปะรดปั่นให้ภูมิบุญ
"สวยดีนะพี่ ผมว่าสวยกว่าเขาทำในโรงแรมอีก ฉากหลังมันก็สวย"
บาสพูดขึ้นบ้าง
"แบบน่ะมันสวย แต่ทำออกมาจริงมันก็ไม่ได้ตามแบบร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกนะบาส"
"เหรอครับ ทำไมแบบนั้นล่ะพี่"
บาสสงสัยเดินออกไปจากที่นั่งไปยืนใกล้ๆภูมิบุญแหงนมองผ้าที่ปลิวอยู่
"ก็แบบน่ะเป็นรูปแบบที่เราร่างขึ้นจากจิตนการ ของจริงบางอย่างมันก็ไม่ได้ตามจินตนาการเสมอไปหรอก จริงไหม"
บาสพนักหน้าแล้วยิ้มแห้งๆ
"แล้วเทียนนี่เอาตั้งพื้นเหรอพี่ ผมว่าห้อยจะดีกว่าไหมเอาแก้วใส่มันจะได้เห็นแต่ไกล"
บาสพูดขึ้นลอยๆแต่ภูมิบุญหันขวับทันที
"จริงสิ บาสขอบใจมาก พี่ไปตามช่างรีสอร์ก่อนนะ"
ตาวาวขึ้นมาวิ่งเข้าไปในรีสอร์ท สักพักก็ตามช่างของทางรีสอร์ทออกมาสองคน
"อ้อ ได้ครับคุณภูมิ เดี๋ยวผมเอาลวดมาห้อยให้ครับ จะเอาประมาณไหนดีครับ แค่ตรงศาลาหรือว่าทั่วๆบริเวณ"
ช่างถามขึ้นภูมิบุญมองไปรอบๆบริเวณแล้วบอกนายช่างไป
"ช่วยพี่ได้เยอะจริงๆเลยนะบาส เดี๋ยววันนี้พี่เลี้ยงข้าวเต็มที่เลย"
"เก่งมากบาส พี่เองยังคิดไม่ถึงเลย"
พลอยร้องออกมาแล้วมายืนเรียงกันมองช่างทำงานอยู่อย่างขะมักเขม้น
"แหมพี่ชมผมเกินไปแล้ว แต่ผมว่ากินที่นี่ดีไหมอ่ะ ผมอยากดูเขาทำด้วย อยากเห็นตอนเราจุดเทียน"
"อืม ก็ดีนะ เดี๋ยวพี่จะได้สั่งเขาทำอาหารให้ อยากกินอะไรว่ามาเลยบาสเต็มที่"
ภูมิบุญจับบ่าของบาสแล้วยิ้มอย่างพอใจ พอช่างออกมาห้อยเทียนให้ก็ช่วยกันทำ บาสเองดูชอบใจกับการปีนป่ายขึ้นไปติดลวดบนต้นไม้เตี้ยๆ ส่วนภูมิบุญก็ช่วยติดที่ศาลา คอยดูตำแหน่งช่วยกันกับพลอย ตะวันคล้อยจวนจะลับขอบฟ้าแล้ว แสงสีแดงส้มสาดทั่วฝืนผ้าทางทิศประจิม พอฟ้าเริ่มมืดทั้งสามคนก็ตื่นเต้นกับการเอาเทียนหอมออกมาเรียงใส่แก้วที่ช่างติดห้อยไว้เรียบร้อยแล้ว แยกย้ายกันจุดเทียนที่ห้อยอยู่รอบบริเวณ พอแสงเทียนสาดส่องแสงอาทิตย์ก็อ่อนแรงอัสดงไปแล้ว ระยิบระยับดังแก้วห้อยระย้าอยู่ตามที่ต่างๆทั่วบริเวณ
"อ่า พี่ สวยมาก"
บาสทิ้งของในมือลงทั้งหมด ยืนอ้าปากค้าง พลอยเองก็ทำเหมือนกัน
"สวยมาก สวยมากจริงๆ"
แต่ไม่มีเสียงใดจากปากของภูมิบุญ ทำไมกันนะยิ่งเจอสิ่งสวยๆงามๆ ทำไมจิตใจมันถึงกลับห่อเหี่ยวไร้เรี่ยวแรง จุกยอกอยู่ในอกแบบนี้
"เอ๊ะ ใครมาอ่ะ รถคุ้นๆ"
พลอยร้องออกมาเพราะเห็นรถยนต์ยุโรปหรูสีดำมาจอดอยู่หน้ารีสอร์ทไม่ขับไปที่จอดรถที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้
"ใครกันน่ะ"
พลอยยังติดใจชะเง้อคอไปดู
"ภูมิ"
พอเห็นเงาของคนที่กำลังเดินเข้ามาก็ถึงกับอ้าปากค้างร้องเสียงหลง ภูมิบุญหันไปมองตามเสียงของพลอย
"พี่แทน"
พอเห็นร่างของชายที่ก้าวลงจากรถเดินปรี่ตรงเข้ามาหาก็ปล่อยเทียนในมือลงอ้าปากค้างเช่นกัน
"ภูมิ ทำไมครับเจอหน้าพี่ทำเหมือนเห็นผีเลย"
แทนทวีพูดยิ้มๆแล้วเดินตรงเข้ามาจับมือของภูมิบุญ
"นี่ภูมิฝันไปใช่ไหม นี่ไม่จริงใช่ไหม"
ร้องออกมาน้ำตาเอ่อนองหน้า ตายังเบิกโพลงอยู่ บาสเองยังงงๆอยู่แต่พอได้ยินภูมิบุญร้องเรียกให้รู้ว่าเป็นใครก็พอจะเข้าใจเดินไปหาพลอย
"แฟนพี่ภูมินี่"
พลอยพยักหน้าแล้วดึงมือของบาสเข้าไปในรีสอร์ท
"เรื่องจริงครับ พี่มาเซอร์ไพรซ์เราไง"
"พี่แทน"
ร้องไห้ออกมาสุดที่จะกลั้น โผเข้ากอดแทนทวี รายนั้นก็อ้าแขนรับโอบกอดไว้แน่น
"คิดถึงเหลือเกินภูมิ พี่คิดถึงภูมิเหลือเกิน"
"ภูมิก็คิดถึงพี่แทน คิดถึงมาก"
"พี่ลงจากเครื่องมาก็ตรงมานี่เลยนะ ยังไม่ได้ไปไหนเลย"
"แล้วไหนบอกจะไม่มา"
"พี่ ก็อำเราไง รู้นะว่าภูมิเสียใจแต่พี่อยากจะทำให้เราประหลาดใจ พี่สาวตัวเองแต่งงานทั้งทีมาไม่ได้ก็แปลกล่ะ เหนื่อยมากนะนั่งเครื่องพี่ยังไม่ได้นอนเลย แต่พอเห็นหน้าภูมิแล้วพี่หายเหนื่อยเลยนะ"
แทนทวีกอดภูมิบุญจูบตามผมทั่วศรีษะ ภูมิบุญเองก็กอดร่างของแทนทวีแน่นเช่นกัน สูดเอากลิ่นกายของเขาเข้าไปในปอด กลิ่นที่คุ้นเคยและจางหายไปนานตอนนี้กลิ่นมันอยู่ตรงหน้าแล้วกลิ่นของคนที่เขารัก หัวใจที่ห่อเหี่ยวแฟบไปมันพองโตขึ้นมาหัวใจที่เต้นแรงสูบฉีดเลือดขึ้นมา เลี้ยงที่ใบหน้าจนแดงระเรื่อ กอดกันอยู่อย่างนั้นนานแสนนานปล่อยความในใจออกมาพรั่งพรูก่อนที่ภูมิบุญจะดึงแขนของแทนทวีไปนั่งที่ศาลามีเทียนหอมห้อยระย้าส่องแสงระยิบระยับอยู่ ตอนนี้เองที่เห็นว่ามันสวย สวยงามบาดตาบาดใจ หัวใจล่องลอยไปแล้ว รักที่คอยอยู่ คนไกลที่เฝ้าคอยทุกวัน นับทุกนาทีให้เพียงเจอหน้าเขาอีกสักครา ตอนนี้เขานั่งอยู่ข้างหน้าแล้ว ภูมิบุญยังมีน้ำตาคลออยู่ที่ตา
"ทำไมร้องไห้ล่ะภูมิ ไม่ดีใจเหรอที่เจอพี่"
แทนทวีถามยกนิ้วขึ้นปากน้ำตา
"ดีใจ ดีใจมาก นึกว่าพี่จะไม่มา"
พูดไม่เป็นคำภูมิบุญยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าเขาแผ่วเบา ทุกอย่างยังเหมือนเดิม หน้าตาของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป จะเปลี่ยนก็แค่เขาทำสีผมให้อ่อนลงกับเจาะหูทั้งสองข้าง ภูมิบุญเม้มปากสัมผัสหน้าของเขาเหมือนกับว่านี่มันไม่ใช่เรื่องจริง
"พี่อยู่นี่แล้วครับภูมิ รู้ไหมพี่ใจจะขาดรู้สึกไม่อยากจากภูมิไปไหนเลย ยิ่งเจอยิ่งรัก ยิ่งเห็นหน้าภูมิพี่ยิ่งไม่อยากกลับไป"
แทนทวียิ้มออกมามองหน้าจ้องตาสื่อความในใจ
"พี่รักภูมิมากนะ รักไม่เคยเปลี่ยน ภูมิคือคนเดียวที่พี่รัก และจะรักตลอดไป"
เอ่ยคำมั่นออกมาอีกครา ภูมิบุญเอานิ้วปิดปากของเขาไว้
"อย่าพูดเลยครับพี่แทน ภูมิรู้ว่าพี่แทนรักภูมิ ภูมิก็รักพี่แทนคนเดียว รักคนเดียวเสมอมา"
ถ้ามองเข้าไปในศาลามีคนสองคนนั่งคลอเคลียกันอยู่ คนหนึ่งร่างหนาใหญ่กำลังเกาะกุมมือของคนตัวเล็กกว่า แสงเทียนระยับที่ทอแสงวามวับอยู่ระยิบระยับแสงนวลของเทียนที่ห้อยอยู่รายรอบทำให้ภาพนี้น่าดูที่สุด บาสเองออกมาแอบยืนดูอยู่กดชัตเตอร์กล้องไว้หลายภาพ
"พี่จะรีบเรียนให้จบ แล้วพี่จะกลับมาหาภูมิ พี่สัญญา พี่ไม่อยากฝึกงานที่โน่นแล้ว พี่อยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีภูมิ พี่อยู่ไม่ได้"
น้ำเสียงหนักแน่นจริงจังมันกระตุกหัวใจของภูมิบุญยิ่งนัก เม้มปากแน่นหัวใจละลายอ่อนระทวยไป
"ขอบคุณภูมินะที่รอพี่ ที่ภูมิยังมั่นคงในรักของเรา"
"พี่แทน ภูมิรักพี่แทนมากนะ และภูมิไม่มีทางเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะยังไง"
"คนดีของพี่"
แทนทวีดึงตัวของภูมิบุญเข้ามากระชับกอดไว้ในอกลูบหัวอยู่ ส่วนภูมิบุญก็สะอื้นออกมา ไม่ได้เสียใจแต่มันตื้นตันใจเหลือเกิน มันสุขใจ ความสุขที่มันล้นออกมาทางตา ใครว่าน้ำตาเป็นเพื่อนของเราได้เฉพาะยามเหงาหรือเศร้าใจเท่านั้น เวลาที่เราเปี่ยมสุขน้ำตามันก็ไหลออกมา ตื้นตันใจเหลือเกิน สุขใจจนอยากจะหยุดเวลาเอาไว้แค่ตรงนี้ อยากหยุดมันไว้ไม่ให้เดินต่อไป
ความสุขทางใจที่หายไปนานแสนนานมันหวนกลับคืนมาอีกครา แทนทวีอยู่ช่วยงานภูมิบุญที่เขาค้อนับจากวันนั้น จนถึงวันงานจริงแวนกับพอลพร้อมทั้งญาติก็มาล่วงหน้าก่อนหนึ่งวัน
"แหม มันอุบไว้นะภูมิ มันไม่ให้พี่บอกเรา มันบอกกะจะมาเซอร์ไพรซ์"
พอแวนเห็นหน้าภูมิบุญกับแทนทวีที่ยืนเคียงข้างกันก็แซวออกไป ภูมิบุญยิ้มเต็มดวงหน้า
"ไม่เป็นไรหรอกครับพี่แวน ยังไงพี่แทนก็มา แค่นี้ก็ดีใจแล้วครับ"
"เห็นไหมตาแทน น้องภูมิน่ารักแสนดีขนาดนี้ แกยังจะใจดำปล่อยให้น้องเขารอนานๆนะ"
"แหมพี่แวน ผมอยากไปที่ไหนล่ะ พ่อกับแม่โน่น"
แทนทวีบุ้ยปากไปทางบุพการีที่กำลังลงจากรถมา พอได้ยินอย่างนั้นแพทย์หญิงศิริกานต์ก็ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี
"ที่แม่ทำก็เพื่ออนาคตของเรานั่นล่ะตาแทน มาว่าแม่อีกอะไรกัน"
"แหมแม่ ผมล้อเล่น อย่างน้อยก็รู้ว่าภูมิเขายังรอผมอยู่"
แวนอ้าปากจะพูดเหน็บเอาสักทีแต่ก็หุบปากลงไม่พูดอะไรออกมา
"พี่แวนครับ ภูมิมีอะไรจะเซอร์ไพรซ์พี่แวนด้วยนะครับ"
"หือ อะไรจ๊ะภูมิ"
"เรื่องเทียนน่ะครับ ไม่มีในแผนงานแต่ภูมิลองทำแล้ว สวยมากคิดว่าพี่แวนกับพี่พอลน่าจะชอบ"
"อ้อ ที่ห้อยอยู่เนี่ยเหรอ เข้าใจคิดนะ ขอบใจมากนะภูมิ ถ้าไม่ได้ภูมิงานพี่คงไม่ออกมาแบบนี้แน่ๆ"
แวนเข้ามาจับแขนของภูมิบุญยิ้มให้อย่างจริงใจ
"ไม่เป็นไรครับ ถือว่าเป็นของขวัญวันแต่งงานให้พี่แวนกับพี่พอล"
รื้นน้ำตาไหลออกมา แวนต้องกระพริบตาถี่ๆไล่มันไป นี่น่ะหรือคนที่เธอเคยเกลียดคิดทำร้าย นี่น่ะหรือคนที่เธอเคยแม้แต่ไม่อยากจะเห็นหน้า
"ภูมิ ขอบใจมาก"
แทนความในใจแวนโผเข้ากอดภูมิบุญ เม้มปากแน่น พอลเองก็เข้ามากล่าวคำขอบคุณก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเตรียมตัว
"มาด้วยเหรอ นึกว่าจะมีใหม่ไม่ยอมมา"
เสียงทักที่ห้วนแข็งดังมาจากข้างหลัง โตโต้มาถึงทีหลังใคร มีคุณอภิสรากับจันทร์มาอีกคัน สายตาของโตโต้ปราดมองหน้าแทนทวีอยู่ไม่ถึงวินาที แต่ก็หันไปจ้องหน้าภูมิบุญ ในแววตานั้นมันอยากเกินที่จะอ่าน ทั้งขุ่นเคืองใจ ไม่พอใจ ปวดร้าวมันสุมรุมกันอยู่ ภูมิบุญทำหน้าไม่ถูกแต่ก็บอกกับตัวเองว่าเขาทำถูกแล้ว ให้เขาตัดใจเสียทีจะได้หมดเรื่องกันไป
"มาสิพี่ พี่สาวผมแต่งทั้งที อีกอย่างผมก็มาหาแฟนผมด้วย ใครทิ้งไปก็โง่เต็มทีแล้ว คนน่ารักนิสัยดีอย่างภูมิ หาไม่ได้ง่ายๆนะครับ"
"เหรอ ยังคิดว่าภูมิเป็นแฟนนายอยู่เหรอ"
"คุณโตโต้"
ภูมิบุญปรามขึ้น โตโต้หันมามองแล้วเม้มปากกัดกรามแน่นก่อนที่จะเดินหนีไป ภูมิบุญเองก็ไม่ได้สนใจอะไรเขามากนักเพราะคุณอภิสรากำลังเดินมา
"นั่งรถไกลมันปวดเมื่อยไปหมด เป็นไงบ้างลูกงานเตรียมงานเรียบร้อยดีไหม"
"ครับคุณท่าน คุณท่านจะให้เขามานวดให้ไหมครับ ภูมิจะได้บอกพนักงานเขาให้ ถือว่าทดลองสปาของเราไปในตัว"
"เอาไหมจันทร์ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรทำนี่นะ"
"อุ๊ย คุณท่านทำเถอะค่ะ จันทร์จะเดินดูรอบๆ ไม่ได้มาเสียนาน"
"เธอไม่ทำชั้นก็ไม่ทำ อะไรกัน ตอนนั่งอยู่ในรถเห็นขยับยุกยิก จะมาบอกไม่เมื่อยเหรอ"
คุณอภิสราทำเสียงเข้ม ภูมิบุญยิ้มออกมาจึงเดินไปหามารดาของตน
"ทำเป็นเพื่อนคุณท่านสิครับแม่ นะครับช่วยติชมให้ด้วย"
ภูมิบุญเข้าไปอ้อนจันทร์รายนั้นคิดอยู่นานถึงพยักหน้าตอบรับ แทนทวียกมือไหว้ทักทายคุณอภิสราแล้วคุยกันอยู่พักใหญ่ ทั้งสองจึงแยกย้ายไปเข้าห้องพัก ส่วนภูมิบุญกับแทนทวีก็ไปช่วยเขาเตรียมงาน
"ภูมิๆ ไปอาบน้ำเถอะ จะสี่โมงแล้วเดี๋ยวแขกมาจะไม่มีเวลา"
พลอยเดินออกมาตามภูมิบุญ
"ไปอาบน้ำหน่อยก็ดีนะภูมิ เห็นกรำงานแต่เช้าแล้ว หน้าหมองไปนะเนี่ย"
แทนทวีบอกแล้วเอามือขึ้นแตะตามแก้ม
"แหมพี่แทนขา หวานตลอดเลยน้า"
พลอยแซวออกมา แทนทวียิ้มอายๆ
"ไม่ได้หรอกพลอย พี่ไม่ได้เจอภูมิเขาบ่อยๆนี่ ต้องหวานให้คุ้ม"
แทนทวีตอบกลับไป ภูมิบุญหัวใจเต้นแรง ทุกอย่างมันช่างสวยงามเหลือเกิน พอแยกกันไปอาบน้ำชะระร่างกายเสร็จก็ออกมารอรับแขก ภูมิบุญพักห้องเดียวกับบาส ส่วนพลอยพักคนเดียวรอฝ้ายมาถึงค่อยพักกับฝ้ายเพราะโต้งไม่ว่างมางานด้วย ส่วนโตโต้พักคนเดียว สีหน้าสีตาไม่ค่อยปลื้มกับงานเท่าไหร่เห็นอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด
"หล่อเชียวนะจ๊ะบาส"
พลอยแซวบาสที่ใส่เสื้อผ้าที่ภูมิบุญซื้อให้ เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงแสล็คกับแจ็กเก็ตสีเทาอ่อนๆ
"แหมพี่พลอย อยู่มาตั้งนานเพิ่งจะเห็นว่าผมหล่อเหรอ"
"เอาใหญ่นะเรา เห็นนานแล้วจ้า แต่ไม่อยากชมเดี๋ยวเหลิง"
"อ่านะคนเรา พี่ภูมิเขาซื้อให้อ่ะพี่"
"แขกเริ่มมาแล้ว เราไปดูพี่แวนก่อนนะว่าเสร็จหรือยัง"
ภูมิบุญบอกก่อนจะเดินกลับเข้าไปในรีสอร์ท แวนยังแต่งตัวไม่เสร็จแต่พอลเสร็จแล้ว พอลจึงเดินตามภูมิบุญออกมารับแขกระหว่างที่รอแวนแต่งตัว
"งานน่ารักมากเลยภูมิ พี่ชอบจริงๆเลย ค่ำๆใช่ไหมถึงจะจุดเทียน"
"ครับ รอตะวันตกดินก็จุดได้เลยครับ"
"ไอเดียใครเนี่ย เจ๋งดีนะ"
"บาสครับ น้องเขาคิดขึ้นมาเมื่อวานเองนะครับพี่พอล"
"จริงดิ เก่งนะเรา"
พอลหันไปชมบาสที่ยืนอยู่ข้างๆภูมิบุญรายนั้นยิ้มออกมา
"บาสเขาชอบถ่ายรูปด้วยนะครับ เออบาสเราไปเดินถ่ายรูปเล่นๆก่อนก็ได้นะเดี๋ยวจะเบื่อเสียก่อน"
"ไม่เบื่อหรอกพี่ เดี๋ยวผมเป็นตากล้องจำเป็นให้พี่ละกัน พี่พลอยมาๆเป็นนางแบบให้ผมหน่อย"
บาสหยิบกล้องขึ้นมา พลอยเองก็ไม่รอช้าเข้ามาโพสต์ท่าให้บาสชักรูปทันที พอแขกเหรื่อเข้ามาในงาน ส่วนมากเป็นเพื่อนของแวนกับพอล มีญาติบ้างแต่ไม่มากเพราะญาติมีงานไปแล้วเมื่อวานที่บ้าน เสียงทักทายจอแจอยู่ทั่วบริเวณงาน รถที่เข้ามาในงานมีแต่รถหรูหราราคาแพงทั้งนั้น ภูมิบุญยืนเคียงข้างกับแทนทวีมีพลอยขนาบอยู่อีกข้างอยู่หน้างานให้แขกเซนต์ชื่ออวยพรให้คู่บ่าวสาว พอฝ้ายมาฝ้ายก็มาติดดอกไม้ให้แขกช่วยพลอย
"จัดงานได้น่ารักมากภูมิ เข้าใจทำนะ"
ฝ้ายชมเพราะตั้งแต่ทางเข้าในงานแม้แต่ลานจอดรถเองก็มีช่อดอกไม้ปักอยู่ตามเสา มีเชือกสีทองคล้องอยู่เป็นสาย เสาไม้สีขาวที่ทำขึ้นมาตรงปลายมีช่อดอกไม้ติดอยู่ มีระย้าพวงชมพูห้อยลงมามีเทียนหอมอยู่ตรงโคนเสา ทางเข้าเป็นซุ้มดอกไม้หลากหลายชนิด หลากหลายสีระย้าที่ร้อยดอกรักสลับกับกุหลาบระโยงระยางอยู่มีเทียนหอมราย เรียงตามทางเข้ามา เสาขนาดเล็กเหมือนท่อนไม้ไผ่ย้อมสีน้ำตาลทองที่แวนชอบตรงปลายไม้มีผ้าสองสีสะบัดไปตามแรงลมที่เอื่อยๆมีดอกไม้ที่ร้อยห้อยพันกันลงมาด้วย พอถึงเวลาจุดเทียน พนักงานก็ช่วยกันจุดเทียนหอมตามจุดต่างๆ บาสเองก็ไปช่วยเขาทำด้วย พอแสงเทียนส่องสว่างขึ้นพร้อมๆกัน เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นทันที
"เจ๋งว่ะ"
"สวยมากแวน สวยจริงๆ"
เสียงชมอยู่ไม่ขาดปาก ภูมิบุญยิ้มออกมา พลอยเองก็ดูเป็นสุข คนที่จะดูมีความสุขมากกว่าใครก็คือบาสเพราะเขาคือต้นคิดและสิ่งที่เขาคิดมีคนให้ความสำคัญกับมัน โตโต้เองมองอยู่ไกลๆ คอยมองตามหลังภูมิบุญอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเห็นเขาสองคนอยู่ด้วยกันยิ่งสะกิดใจเม้มปากหงุดหงิดไปเสีย
"เก่งมากจ๊ะภูมิ ป้าดีใจมากนะที่เราทำออกมาได้ดีมากๆ"
"ขอบพระคุณ คุณท่านนะครับที่ให้โอกาสกับภูมิ"
คุณอภิสราเดินเข้ามาชมถึงตัวก่อนจะแยกออกไปคุยกับแพทย์หญิงศิริกานต์
"ภูมิจ๊ะ ทางนี้หน่อย"
แพทย์หญิงศิริกานต์ร้องเรียก ภูมิบุญเดินค้อมตัวเข้าไปหา
"ขอบใจมากนะลูก ขอบใจมาก"
พอภูมิบุญนั่งลงใกล้ๆแพทย์หญิงศิริกานต์ก็น้ำตาไหลออกมาลูบหัวภูมิบุญอยู่ รายนั้นถึงกับตกใจเพราะไม่คิดว่าแพทย์หญิงศิริกานต์จะร้องไห้ออกมาได้
"ภูมิยินดีครับ"
พอถึงเวลาที่แวนขึ้นไปกล่าวขอบคุณแขกที่มาในงาน แวนก็สอดส่ายสายตามองหาภูมิบุญ
"ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆทุกคนนะคะ ที่อุตส่าห์ขับรถมาไกลจากกรุงเทพฯ ขอบคุณมาก งานวันนี้เป็นไงบ้างคะ อาหารถูกปากไหม หวังว่าทุกคนคงชอบงานของแวนนะคะ ขอบคุณพอลนะคะที่ยอมแต่งงานกับแวน"
เสียงหัวเราะดังขึ้นมาเพราะแวนทำสีหน้าสีตาทะเล้นใส่
"แวนเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองมานานแล้ว คิดว่าตัวเองต้องได้ทุกอย่างที่เราอยากได้ เคยทำอะไรไม่ดีมามากมาย แต่พอลก็ยังรักและยอมแต่งงานกับแวน ขอบคุณมากนะคะ"
น้ำตาปริ่มออกมาพอลโอบว่าที่ภรรยา เสียงปรบมือดังกึกก้อง
"อ้อ งานวันนี้ที่เพื่อนๆชมว่าสวย ต้องขอบคุณน้องภูมินะคะ เป็นคนดำเนินงานเองทั้งหมด ภูมิ พี่ขอบใจเรามากนะ พี่ขอโทษเราด้วยที่ผ่านมาพี่เคยทำไม่ดีไว้กับเรา พี่เพิ่งรู้ว่าเราเป็นคนน่ารักมากแค่ไหน ขอบใจมาก"
ทุกคนหันมาทาง ภูมิบุญที่ยืนอยู่เคียงข้างแทนทวี ภูมิบุญเองก็เม้มปากตื้นตันอยู่ในใจ พอทุกคนกล่าวเสร็จก็มีอาหารเลี้ยงตามเคาท์เตอร์ที่จัดไว้ แขกบางคนก็ขอตัวกลับก่อนเพราะไม่อยากจะค้างอาจจะมีธุระหรือจุดประสงค์อย่าง อื่น บางส่วนที่สนิทมากๆก็ค้าง
"รู้สึกดีจังเลยนะภูมิ พี่เพิ่งรู้นะว่าที่นี่มันสวยขนาดนี้ คราวหลังเรามากันสองคนนะ"
แทนทวีเดินมาประชิดด้านหลังเอามือโอบไว้ที่บั้นเอว
"เห็นดาวด้วยนะครับ"
"อืม สวยมาก พี่มีความสุขจังเลยครับภูมิ ที่จริงอยู่ไหนก็ได้นะที่มีภูมิกับพี่สองคน"
"พี่แทน อยากให้พี่แทนรีบกลับมาจังเลย"
"พี่เองก็อยากจะกลับนะ แต่อีกไม่กี่เดือนก็จบแล้วภูมิ พี่ไม่อยากอยู่นักหรอก แต่สัญญากับพอ่แม่ไว้ ทนเอาหน่อยนะภูมิ"
"ครับ ภูิรอพี่แทนอยู่ทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ภูมิจะไม่คิดถึงพี่"
"พี่ก็เหมือนกันครับ พี่คิดถึงภูมิคนเดียว เพราะภูมิพี่ถึงอดทนอยู่ได้ เพราะภูมินะ รู้ไหม"
ทั้งสองกอดกันอยู่ใต้เงาของดวงดาราที่ทอแสงระยับอยู่ทั่วท้องฟ้า อากาสเย็นสบายไม่หนาวมากไม่ร้อนมาก ถ้าหากว่าคนที่เรารอคอยหวนกลับมาคืนใจ สุขไหนมันจะยิ่งไปกว่า แค่ได้เห็นเขาอีกสักครั้ง คนที่ครอบครองหัวใจ คนที่เป็นเจ้าของดวงใจ
คราใดแหงนหน้าขึ้นฟ้า นั่นจันทราแสงจันทราใช่ไหม
คราใดมองเงาในน้ำใส ฤานั่นใช่แสงดาราฤๅสาดส่อง
คราใดจ้องมองนัยน์ตานวลน้อง ดุจดังสองดารานภากาศ
คราใดเหินห่างเหมือนอาภาษ จวนจะขาดลมหายใจอยู่รอนรอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น